“ถนัดซ้าย” อาจดูเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างจากคนทั่วไป แต่ท่ามกลางโลกสำหรับคนถนัดขวา การใช้ชีวิตของคนถนัดซ้ายก็เจออุปสรรคหลายอย่าง ตามทฤษฎีวิวัฒนาการแล้ว คนถนัดซ้ายก็ควรที่จะหายไปจากโลก ทว่ายิ่งย้อนสืบย้อนกลับไป โลกกลับยังคงมีคนถนัดซ้ายมาอย่างยาวนาน ตราบจนปัจจุบัน
ทำไมบางคนถึง “ถนัดซ้าย”
Thai PBS พาทุกคนไปสำรวจเรื่องราวเล็กน้อยที่ดูไกลตัวใครหลายคน คนถนัดซ้ายที่มีอยู่ 1 ใน 10 ของโลกอาจอยู่ใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด เนื่องในวันที่ 13 สิงหาคม วันคนถนัดซ้ายสากล (International Lefthanders Day) มาดูกันว่า สาเหตุของการมีอยู่ของคนถนัดซ้ายอธิบายธรรมชาติของโลกนี้ได้อย่างไร
ในบางแห่งหน “ถนัดซ้าย” หมายถึงปิศาจ
คนส่วนใหญ่บนโลกนี้กว่า 80 – 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนถนัดขวา การเป็นคนถนัดซ้ายจึงแตกต่าง เป็นส่วนน้อย บ้างก็ถูกมองว่าเป็นความพิเศษกว่าคนทั่วไป แต่ในมุมกลับตามประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์ เคยมีการมองกันว่ากลุ่มคนถนัดซ้ายนั้นเป็นสิ่งผิดปกติ และเป็นสิ่งที่ไม่ดี ในบางเชื่อมองถึงขั้นว่าเป็นปิศาจ
ร่องรอยของความเชื่อว่าคนถนัดซ้ายไม่ใช่สิ่งดีปรากฏในคำว่า “ซ้าย” ในภาษาต่าง ๆ เช่น ภาษาฝรั่งใช้คำว่า “Gauche” ที่แปลว่าซ้าย และแปลว่า “เงอะงะ” ในคำเดียวกัน ขณะที่ภาษาอังกฤษคำว่า "Left" มาจากภาษาแองโกล-แซกซอน คำว่า “Lyft” ที่แปลว่า “อ่อนแอ” ขณะที่ Right ที่แปลว่าขวา กลับมีอีกความหมายว่า “ถูกต้อง”
บางศาสนามีความเชื่อกันด้วยว่ามือซ้ายเป็นสิ่งสกปรก แปดเปื้อน มีไว้ใช้สำหรับชำระล้างร่างกาย หรือหยิบจับสิ่งสกปรก พร้อมข้อห้ามไม่ให้ใช้สำหรับรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ หรือการยื่นส่งของให้แก่กัน นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรมทางศาสนาบางอย่างที่มองว่าสิ่งชั่วร้ายอยู่ที่ฝั่งซ้าย
ในประเทศสหรัฐอเมริกาเคยมองว่าคนถนัดซ้ายเป็นคนประหลาดถึงขั้นเป็นปิศาจ เวลาผ่านไป โลกเปลี่ยนแปลงและเปิดรับ เพื่อล้างอคติที่เกิดขึ้น เกิดการลุกขึ้นปกป้องสิทธิของคนถนัดซ้าย สร้างความตระหนักรู้จัดตั้งเป็นวันคนถนัดซ้ายสากล ที่ตรงกับวันที่ 13 สิงหาคมของทุกปี
“ถนัดซ้าย” เกิดจากอะไรกันแน่ ?
การศึกษาเกี่ยวกับ “ความถนัดซ้าย” มีหลากหลายแง่มุม คำอธิบายว่าคนถนัดซ้ายมีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง ? คำตอบมีด้วยกัน 2 ส่วนใหญ่ ๆ มีทั้งมาจากกรรมพันธุ์จากพ่อแม่ โดยมียีนตัวหนึ่งที่ส่งผลต่อความถนัดซ้าย ขณะที่ในบางวัฒนธรรมหรือกิจกรรมบางอย่าง ส่งผลให้คนปรับมาถนัดขวาหรือฝึกฝนให้ถนัดขวาเพิ่มขึ้น เช่น ในอดีตเคยมีความเชื่อว่าถนัดซ้ายคือความผิดปกติ จึงมีการหัดให้เด็กถนัดขวาแทน
การศึกษาเกี่ยวกับพันธุกรรมพบว่า หากพ่อแม่ถนัดซ้ายจะส่งผลให้ลูกที่เกิดมีเปอร์เซ็นต์ถนัดซ้ายมากขึ้น เช่น พ่อแม่ถนัดขวาทั้งคู่ ลูกจะมีโอกาสถนัดซ้ายน้อยมาก แต่หากพ่อหรือแม่ถนัดซ้าย ลูกที่เกิดมาจะมีโอกาสถนัดซ้ายเพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นอีกหากพ่อและแม่ถนัดซ้ายทั้งคู่ แต่โอกาสยังคงน้อยกว่าการเกิดเป็นเด็กถนัดขวา
มีการศึกษาในไอซ์แลนด์เหนือ ศึกษาผลสแกนเด็กทารก พบว่าทารกในครรภ์ดูดนิ้วโป้งข้างขวามากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเด็กโตขึ้นก็พบว่าถนัดขวาเกือบทั้งหมด ส่วนเด็กที่ดูดนิ้วโป้งซ้าย มี 3 ใน 4 ที่โตขึ้นมาเป็นคนถนัดซ้าย จึงเห็นได้ชัดว่า ความถนัดซ้ายนั้นติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
มีการศึกษาเพิ่มเติมลงรายละเอียดถึงระดับยีนหรือหน่วยพันธุกรรม โดยพบว่ามียีนที่ชื่อว่า PCSK6 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความถนัดข้างใดข้างหนึ่ง โดยทำหน้าที่เกี่ยวกับความไม่สมมาตรกันของสมอง ส่งผลต่อเนื่องถึงความถนัดข้างใดข้างหนึ่งนั่นเอง
ความเชื่อมโยงของการถนัดซ้ายกับการทำงานของสมองและพันธุกรรมทำให้จนถึงตอนนี้ก็ยังคงมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อค้นให้ลึกไปถึงความเชื่อมโยงอื่น ๆ เช่น ระบบการทำงานของสมองในการคิดที่ซับซ้อน จนถึงความเสี่ยงของโรคบางอย่างที่เพิ่มขึ้นได้จากการทำงานของสมองที่ต่างกัน
แล้วเหตุใดคนถนัดซ้ายจึงมีจำนวนน้อย
คนถนัดซ้ายมีจำนวนน้อยกว่าคนถนัดขวามาอย่างยาวนาน นานชนิดย้อนกลับไปถึงยุคหินเก่า (Paleolithic) หรือราว 500,000 ปีก่อน ปรากฏเป็นหลักฐานผ่านซากกระดูกของมนุษย์ยุคแรกสายพันธุ์ใหม่ที่มีชีวิตอยู่ในยุคดังกล่าว โดยพบว่า มีสิ่งของ อาวุธ เครื่องมือต่าง ๆ รวมถึงลักษณะมวลกระดูกที่แสดงให้เห็นว่า มีคนถนัดซ้ายและพบได้เป็นส่วนน้อย
แล้วเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ? ทำไมคนถนัดซ้ายจึงน้อยกว่าคนถนัดขวา ? ถึงตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ยังคงไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน แต่มีชุดคำอธิบายที่น่าสนใจในเชิงทฤษฎีวิวัฒนาธรรม คำอธิบายนั้นมาจาก Daniel M. Abrams ศาสตราจาย์ด้านวิทยาศาสตร์วิศวกรรม เผยถึงงานวิจัยที่ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่สามารถสรุปได้ว่า จำนวนคนถนัดซ้ายกับคนถนัดขวานั้นสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมแบบแข่งขัน (Competitive) และแบบเกื้อกูลต่อกัน (Cooperative)
เขาได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันระหว่างกันสูง เช่น ในกีฬาเบสบอล สัดส่วนนักกีฬาถนัดขวาและซ้ายจะใกล้เคียงกัน เหตุผลก็เนื่องจากโลกโดยทั่วไปแล้วมีคนถนัดขวาจำนวนมากกว่า ทำให้นักกีฬาที่ถนัดซ้ายรับมือได้ยากกว่าสำหรับคนที่ถนัดขวา ส่วนคนที่ถนัดซ้ายเผชิญหน้ากับคนถนัดขวาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทำให้คนถนัดซ้ายมีความได้เปรียบ และมีจำนวนมากขึ้นในกลุ่มนักกีฬาเบสบอลระดับมืออาชีพ
ทำให้ในสภาพแวดล้อมแบบแข่งขันระหว่างกันหรือเผชิญหน้ากันสูง คนถนัดซ้ายจะมีจำนวนเท่า ๆ กับคนถนัดขวา
และในการศึกษาเดียวกันนั้น เมื่อศึกษาจำนวนนักกีฬาถนัดซ้ายและถนัดขวาในกีฬากอร์ฟ กลับพบว่ามีสัดส่วนเท่ากับในสังคมปกติทั่วไป นั่นคือมีคนถนัดขวามากกว่า สาเหตุก็มาจากที่ลักษณะของการเล่นกีฬากอร์ฟนั้นเป็นการแข่งขันแบบเก็บคะแนนที่ความถนัดซ้ายขวาของคู่แข่งขันไม่ได้ส่งผลได้เปรียบเสียเปรียบต่อกัน นักกีฬากอร์ฟระดับโลกจึงมีสัดส่วนคนถนัดซ้ายไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
Daniel M. Abrams อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ลักษณะของกีฬากอร์ฟยังมีเรื่องของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มักจะมีขายสำหรับคนถนัดขวา ทำให้การเป็นคนถนัดขวากลายเป็นข้อได้เปรียบ
และด้วยเหตุนี้เอง สัดส่วนจำนวนคนถนัดซ้ายและคนถนัดขวาจึงสะท้อนถึงสภาพแวดล้อม เกิดเป็นข้อสรุปที่ว่ายิ่งมีสัดส่วนคนถนัดซ้ายใกล้เคียงกับคนถนัดขวา แปลได้ว่าสภาพแวดล้อมมีลักษณะแข่งขันกัน
แต่ในโลกทุกวันนี้คนถนัดซ้ายมีน้อยกว่าคนถนัดขวา สะท้อนให้เห็นว่า ธรรมชาติการอยู่ร่วมกันของมนุษย์นั้นไม่ใช่สภาพแวดล้อมแบบ “แข่งขันกัน” การที่มนุษย์มีคนถนัดขวาในสัดส่วนที่มากกว่าคนถนัดซ้ายก็เพราะธรรมชาติการอยู่ร่วมกันของมนุษย์นั้นเป็นสภาพแวดล้อมแบบ “เกื้อกูลต่อกัน”
สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของมนุษย์มีการออกแบบมาเป็นจำนวนมาก และทำออกมาให้คนถนัดขวาเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกรรไกร ลักษณะการเขียนหนังสือจากซ้ายไปขวา (การใช้มือซ้ายจะบังตัวอักษรที่เขียนไปก่อน) สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ(ปุ่มกดต่างมักอยู่ขวามือ) รวมถึงเมาท์ที่ใช้งานกับคอมพิวเตอร์
คนที่ถนัดขวาจึงมีข้อได้เปรียบในสังคมที่เกื้อกูลต่อกันด้วยการผลิตสิ่งของร่วมกันเป็นปริมาณมาก แต่การที่คนถนัดซ้ายยังมีอยู่เป็นจำนวนน้อยและไม่หมดไป สะท้อนให้เห็นว่า ธรรมชาติของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์นั้นมีสภาพแวดล้อมของการเกื้อกูลกันเป็นส่วนใหญ่ และยังคงมีสัดส่วนของของการแข่งขันระหว่างกันอยู่
เรื่องราวเกี่ยวกับคนถนัดซ้ายแม้จะมีจำนวนน้อย แต่ใกล้ตัวคุณก็ย่อมมีคนถนัดซ้ายอยู่สักคนนึงเสมอ เอกลักษณ์ที่ดูต่างจากปกติ แต่ก็พบได้ปกติในโลกทั่วไปที่มาพร้อมทั้งข้อได้เปรียบบางอย่าง และข้อเสียเปรียบในบางสิ่ง จากอดีตที่เคยมีอคติ สู่การทำความเข้าใจ และศึกษาลึกไปถึงการทำงานของยีนและสมอง การมีอยู่ของคนถนัดซ้ายสะท้อนธรรมชาติของโลกที่สุดท้ายแล้ว มนุษย์ต่างอยู่อาศัยแบบเกื้อกูลกันมาอย่างยาวนาน
อ้างอิง
- ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ
- BBC
- National Library of Medicine
- Researchgate