ม้ามืดแห่งวงการลูกทุ่ง “มนต์สิทธิ์ คำสร้อย”

บทความตอนนี้ชวนติดตามเรื่องราวเบื้องหลังชีวิต กว่าจะเป็นศิลปินของ “มนต์สิทธิ์ คำสร้อย” ซึ่งมาเปิดใจในรายการนักผจญเพลง Replay เอาไว้ว่า ชีวิตของเขานั้นเหมือนกับละคร ผ่านทั้งช่วงที่ดีและไม่ดีมามากมาย และต้องใช้คำว่า ‘อดทน’ เป็นตัวนำพาให้สามารถก้าวข้ามผ่านมาได้จนถึงวันที่กลายเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้

เส้นทางชีวิต มนต์สิทธิ์ คำสร้อย

รายการนักผจญเพลง Replay ยกทัพมาถึงถิ่นฐานภาคอีสาน ณ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีเรื่องราวชีวิตของศิลปินชายที่ชื่อ “มนต์สิทธิ์ คำสร้อย” โดยครั้งหนึ่งเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเกิดเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล นั่นก็คือ การได้โอกาสเป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีเพลงดังเป็นของตัวเอง นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้

แต่ใช่ว่าเรื่องราวของเขาจะสวยงาม มนต์สิทธิ์ได้เปิดใจเหตุการณ์สุดหินเอาไว้ว่า กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้นั้นนับว่าไม่ง่าย เดิมทีเขาไม่ได้เป็นคนที่เกิดในจังหวัดอุบลราชธานี เขาเกิดที่จังหวัดมุกดาหาร อ.นิคมคำสร้อย

ในอดีตเขาเป็นชาวไร่ชาวนา มีชีวิตที่ลำบาก ถึงขั้นที่ว่าบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วยซ้ำ ถนนแถวบ้านก็ยังเป็นถนนลูกรัง ถนนทางเกวียน ภาพชีวิตของคน ๆ หนึ่งซึ่งเป็นเพียงชาวไร่ชาวนานับว่าห่างไกลจากจุดที่เขายืนอยู่ ณ วันนี้เป็นอย่างมาก

จุดเปลี่ยนชีวิต มนต์สิทธิ์ คำสร้อย

และเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนให้เริ่มเดินทางจากจังหวัดมุกดาหารมายังอุบลราชธานีนั้น เริ่มต้นมาจากการที่เขามีปัญหาเรื่องการเงิน และตั้งใจเดินทางมาจังหวัดอุบล ฯ เพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยการสมัครเป็นนักร้องตามร้านอาหาร เดิมทีมนต์สิทธิ์เป็นคนที่ชื่นชอบในการฟังเพลงตั้งแต่เด็ก โดยฟังจากวิทยุ ไม่ว่าจะออกไปทำไร่ทำนาที่ไหน เขามักจะนำวิทยุคู่กายเปิดเพลงไปด้วยเสมอ ทำให้เขามีความหลงใหลในเสียงดนตรีเป็นอย่างมาก เป็นเหตุผลให้เขาตัดสินใจมาสมัครงานเป็นนักร้องตามร้านอาหารต่าง ๆ ในจังหวัดอุบลฯ นั่นเอง

แต่โชคชะตาของมนต์สิทธิ์ในการเป็นศิลปินก็นับว่าไม่ง่าย เพราะไม่ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับเขาเข้าทำงาน เขาเลยต้องผันตัวไปทำงานในด้านอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเสิร์ฟ เป็นคนรับรถในตอนที่อยู่อุบลฯ หรืองานต่าง ๆ ที่ได้เงิน เขารับทำหมดเลย

ในตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่อุบล ฯ มนต์สิทธิ์เป็นเด็กเสิร์ฟอยู่หลายปี จนกระทั่งมีการประกวดร้องเพลงในจังหวัด เขาได้เข้าร่วมประกวดและได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ทำให้เขามีโอกาสเจอกับผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดัน นั่นก็คือ DJ ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้นำเพลงมาให้เขาร้อง โดยเริ่มจากเพลง “ขายควายช่วยแม่” โดยมีครูเพลงอย่าง อ.สยาม รักถิ่นไทย เป็นผู้แต่งเพลงนี้ขึ้นมา

มนต์สิทธิ์ คำสร้อย และการต่อยอดความฝัน

เมื่อมีเพลงเดโมเป็นของตัวเอง มนต์สิทธิ์ได้เริ่มเดินทางเข้ามาตามฝันต่อในกรุงเทพ โดยเขาได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้ดูดียิ่งขึ้น เพื่อให้ค่ายเพลงสนใจรับเข้าไปเป็นนักร้องในสังกัด แต่ถึงแม้ว่าเสียงจะดีแค่ไหน หากภาพลักษณ์ยังไม่ถูกใจ ทำให้เขาไม่ถูกเรียกเข้าไปเป็นศิลปินในค่ายไหนเลย

แต่ในที่สุดโชคชะตาก็นำพาเขาไปเจอกับค่าย ชัวร์ ออดิโอ (Sure Audio) ซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่า Sure Entertainment และได้ปล่อยอัลบั้มชุดแรก “ขายควายช่วยแม่” ใน พ.ศ. 2538 ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น คิดกันไว้ว่าขายได้ประมาณ 500 ม้วนก็ดีใจมากแล้ว

แต่ผลปรากฏว่าอัลบั้มนั้น สามารถทำยอดขายได้หลายหมื่นตลับ ซึ่งย้อนกลับไปในตอนแรก เพลง ขายความช่วยแม่ เป็นเพลงเดโมที่ส่งไปทุกค่ายเพลง แต่ไม่มีคนรับเลย แต่โชคชะตาก็นำพาให้มนต์สิทธิ์ ได้เจอกับ “นายห้างสุเทพ ไทยวัฒนานนท์” ซึ่งเป็นผู้ให้โอกาสในการเป็นศิลปินแก่เขา ในภายหลังเขาจึงได้มีอัลบั้มที่เปลี่ยนชีวิตในชุดที่ 2 นั่นคือ “สั่งนาง” ตามมาด้วย “จดหมายผิดซอง” ผลงานขึ้นหิ้งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล

มนต์สิทธิ์ คำสร้อย กับความพยายามที่ประสบผลสำเร็จ

จากความสำเร็จของอัลบั้มดังกล่าว ได้นำพาให้มนต์สิทธิ์ คำสร้อย เดินทางไปทัวร์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย รวมไปถึง เยอรมนี ศิลปินลูกทุ่งชายคนนี้เดินทางไปมาหมดแล้ว

จากวันแรกที่ไม่มีค่ายเพลงรับเข้าไปเป็นศิลปิน เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ “มนต์สิทธิ์ คำสร้อย” นับว่าเป็นม้ามืดแห่งวงการเพลงลูกทุ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง

เรื่องราวชีวิตของ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย ยังมีมุมมองที่น่าสนใจอีกมากมาย สามารถไปรับชมทั้งภาพบรรยากาศ ณ จังหวัดอุบลราชธานี รวมไปถึงเรื่องราวและบทเพลงที่มนต์สิทธิ์ได้มาถ่ายทอดเอาไว้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.thaipbs.or.th กับตอนที่มีชื่อว่า “มนต์สิทธิ์ คำสร้อย Life in อุบลฯ”