ปฏิทินเรือยาวกลับมาเริ่มต้นอีกครั้งเมื่อเวลาเดินทางมาถึงช่วงฤดูน้ำหลากของปี ประเพณีแห่งสายน้ำของการแข่งเรือยาวก็เริ่มต้น
วิถีชีวิตของผู้คนที่ผูกพันเป็นสายน้ำมาอย่างยาวนาน เกิดเป็นการแข่งขันเรือยาวที่รวมตัวของผู้คน วัฒนธรรมของแต่ละพื้นถิ่น งานบุญของแต่ละพื้นที่ งานใหญ่แห่งปีท้องถิ่นที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตผ่านความสนุกสนานและการแข่งขัน
Thai PBS ร่วมถ่ายทอดส่งต่อวัฒนธรรมแห่งสายน้ำมายาวนานถึงศึกเรือยาวชิงจ้าวสายน้ำปีที่ 18 แล้ว ปีนี้มีการแข่งที่ไหน ? มีเรื่องราวประเพณีเรือยาวที่น่าสนใจอะไรซ่อนอยู่บ้าง ? ตามไปดูกัน
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 1 วันที่ 7 ก.ย. แขวงสาละวัน สปป.ลาว สายน้ำและสายสัมพันธ์ไทย - ลาว
เป็นประจำทุกปีที่การแข่งขันศึกเรือยาวชิงจ้าวสายน้ำของ Thai PBS จะมีการแข่งขันเรือยาวที่จัดแข่งขึ้นที่สปป.ลาว หลายครั้งเป็นการแข่งเชื่อมสัมพันธ์ไทย - ลาว ปีนี้เป็นปีพิเศษที่จะถ่ายทอดการแข่งขันเรือยาวประเพณีแขวงสาละวัน ศึกเรือยาวแห่งลาวใต้ รวมทีมฝีพายชั้นนำของลาว พร้อมตัวแทนทีมเรือยาวจากฝั่งไทย
ร่วมสานสัมพันธ์ประเพณีแข่งเรือแบบพื้นบ้าน มีความสนุกสนามเร้าใจที่ลายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันงดงาม บรรยากาศการแข่งแบบบ้าน ๆ ที่รวมเอาผู้คนที่หลงไหลในการแข่งเรือยาวได้มาร่วมสนุกไปด้วยกัน เป็นงานบุญแข่งเรือยาวประจำปีที่จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานของพี่น้องชาวลาวในพื้นที่อีกด้วย
การแข่งขันในสนามนี้เป็นการแข่งขันประเภท 35 ฝีพายเป็นหลัก ฝีพายแข่งขันมีความแข็งแกร่ง ต้องฝึกอย่างพร้อมเพียง เดินทางไกลเพื่อมาประชันในศึกเรือยาวลาวใต้ ที่รวมทีมฝีพายจากทั้งไทยและลาวมาไว้ผ่านสายสัมพันธ์ชิงชัยกันบนลำน้ำเซโดนที่ไหลแตกสาขามาจากแม่น้ำโขงนั่นเอง
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 2 วันที่ 14 ก.ย. คลองหัววัง - พนังตัก จังหวัดชุมพร ศึกขึ้นโขนชิงธง พื้นที่ของเรื่องราวแห่งการสูญเสียและความจงรักภัคดี
ตามต่อด้วยความเร้าใจกับการแข่งเรือยาวอันเป็นเอกลักษณ์ในพื้นที่ภาคใต้ กับ การแข่งขันเรือยาวประเพณีขึ้นโขนชิงธง คลองหัววัง - พนักตัก จังหวัดชุมพร
ความเป็นมาของการแข่งเรือยาวนี้มีขึ้นเพื่อแสดงถึงความจงรักภัคดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาภบพิตรทรงมีต่อพสกนิกรชาวชุมพรให้รอดพ้นจากอุทกภัย เนื่องจากในอดีตจังหวัดชุมพรประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมากมาย โดยเฉพาะในปี 2540 ที่พายุไต้ฝุ่นซีต้าสร้างความเสียหายเป็นมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท จนมีโครงการพระราชดำริให้แก้ปัญหาโดยมีการจัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ (แก้มลิงธรรมชาติ) และขุดคลองหัววัง - พนังตัก เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล ช่วยให้ชาวชุมพรรอดพ้นจากอุทกภัยอย่างถาวร ทั้งนี้ โครงการนี้สร้างเสร็จในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2540 ก่อนที่พายุลินดาจะเข้าเพียง 1 วัน ช่วยให้ผู้คนรอดพ้นจากอุทกภัยได้ทันเวลา
ในวันที่ 20 มิถุนายน 2541 คือวันประกอบพิธีเปิดโครงการฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรคลองหัววัง-พนังตัก บนสะพานอาภากร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชเสาวนีย์ว่าจะจัดแข่งขันเรือบริเวณนี้ เพราะมีคันคลองเป็นชั้น ๆ เหมือนอัฒจันทร์ นับแต่นั้นเป็นต้นมาประเพณีการแข่งเรือยาวขึ้นโขนชิงธง ชิงถ้วยพระราชทานฯ จึงมีขึ้นตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 3 วันที่ 21 ก.ย. อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน งานประเพณีแข่งเรือเอกลักษณ์น่าน ความงดงานคู่สายน้ำ
ประเพณีแข่งเรือยาวจังหวัดน่านมีมาอย่างยาวนานตามวิถีคนกับสายน้ำ เมื่อแม่น้ำที่ลดระดับจนถึงแห้งเหือดไปในบางพื้นที่เข้าสู่ช่วงฤดูน้ำหลากก็ก่อกลายเป็นแม่น้ำอันชุ่มฉ่ำขึ้น เรือยาวแห่งน่านก็ได้เวลาอวดโฉมอันงดงามเพื่อร่วมแข่งขันไปในหลายสนาม ตามหลายพื้นที่ทั่วน่าน ความงดงามของหัวเรือยาวน่านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนได้ชื่อว่า เรือเอกลักษณ์น่าน
เอกลักษณ์สำคัญคือการเรือที่ขุดจากไม้ทั้งต้น แกะสลักหัวเรือเรียกว่า หัวโอ้ (ส่วนหัวโขนเรือ) มีการสลักลงสีสันรูปพญานาคตามความเชื่อ และแกะสลักส่วนหางเรือเรียกว่า หางวัลย์ ที่ทรงงดงามเป็นหางหงส์ สะท้อนความเชื่อเรื่องพญานาคที่มีความศักดิ์สิทธิ์ช่วยนำความอุดมสมบูรณ์มาให้
ประเพณีแข่งเรือยาวน่านมีการแข่งขันกันหลากหลายประเทศ ทั้งเรือเล็ก กลาง ใหญ่ เรือโบราณ สนามแข่งขันของประเพณีแข่งเรืออำเภอท่าวังผามีการจัดขึ้นเป็นงานบุญต่อเนื่องหลายวันตั้งแต่วันที่ 11 – 21 กันยายน 2568 ณ บริเวณเชิงสะพานบ้านท่าค้ำพัฒนา อ.ท่าวังผา จ.น่าน ไล่เรียงกิจกรรมวัฒนธรรมทั้งคอนเสิร์ต แข่งเปตอง ประกวดด้วง ประกวดหัวเรือจำลอง ก่อนปิดท้ายด้วยการแข่งเรือยาวในวันที่ 20 – 21 กันยายน นั่นเอง
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 4 วันที่ 28 ก.ย. เทศบาลเมืองแจระแม จังหวัดอุบลราชธานี ฝีพายชุมชนท้องถิ่นสามัคคี
การแข่งเรือยาวอุบลราชธานีมีการจัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานไม่น้อยกว่า 40 ปี สืบสานเป็นประเพณีแห่งลุ่มน้ำมูล เสน่ห์สำคัญของการแข่งขันในพื้นที่เทศบาลเมืองแจระแม จังหวัดอุบลราชธานี คือทีมฝีพายชุมชนท้องถิ่น โดยจะมีทีมของชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยที่ผ่านมามีการจัดแข่งในประเภทเรือยาวทั้ง 30 ฝีพาย 40 ฝีพาย และ 55 ฝีพาย เรียกได้ว่าเป็นประเภทการแข่งเรือที่เน้นความยิ่งใหญ่ และความสามัคคีของผู้คน นอกจากนี้เรือยาวที่ใช้แข่งจะเป็นเรือยาวประเภทขอนเสียบ ซึ่งเป็นเรือในจังหวัดอุบลราชธานีอีกด้วย
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 5 วันที่ 5 ต.ค. เทศบาลตำบลเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ศึกสายสัมพันธ์ไทย - ลาว
เนื่องจากพื้นที่อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานีอยู่ติดกับสปป.ลาว ทั้งทิศเหนือที่แขวงสุวรรณเขต และทิศตะวันออกติดกับแขวงสาละวันและอำเภอนาตาล ศึกเรือยาวที่เขมราฐนี้จึงเป็นศึกสายสัมพันธ์ไทย – ลาวอีกสนามที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับทีมฝีพายจากฝั่งสปป.ลาว เป็นศึกประเพณี 2 ฝั่งโขงที่จัดขึ้นในฝั่งของไทย
การแข่งเรือยาวของที่นี่มีชื่อเต็ม ๆ ว่าการแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานฯ มิตรภาพไทย-ลาว มีการแข่งขันเรือยาวกันหลายประเภททั้ง 12 ฝีพาย 30 ฝีพาย และ 40 ฝีพาย มีจัดขึ้นในวันที่ 3 – 5 ตุลาคม 2568 ที่เทศบาลตำบลเขมราฐติดแม่น้ำโขง มีการจัดกิจกรรมงานประเพณีต้อนรับผู้ชม ทั้งอาหารและสินค้าพื้นเมือง การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านและโชว์นักร้องชื่อดัง พร้อมเครื่องเล่นต่าง ๆ ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีงานหนึ่งของอำเภอเขมราฐที่รวมเอาผู้คนในชุมชนทั้งไทยและลาวเอาไว้ด้วยกัน
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 6 วันที่ 12 ต.ค. อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ศึกขึ้นโขนชิงธงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
นี่ถือเป็นสนานแข่งเรือในตำนานที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานกับประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมแห่งลุ่มน้ำหลังสวน
มีบันทึกว่าการแข่งเรือที่นี่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 หรือประมาณ พ.ศ. 2387 อันเป็นช่วงเว้นวางจากศึกสงคราม มีการค้าขายที่รุ่งเรืองและมีการสร้างวัดวาอารามขึ้นมากมาย ทำให้เกิดพิธีทำบุญแห่พระและลากพระ พร้อมกันนั้นก็มีการจัดแข่งเรือยาวขึ้นโขนชิงธงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ตัดสินแพ้ – ชนะกันที่การชิงธงที่เส้นชัย เกิดเป็นการแข่งขันที่ต้องใช้ความสามัคคีระหว่างฝีพายที่จ้วงพาย นายท้ายที่คุมทิศทาง และไหวพริบของนายหัวเรือทั้งการเคาะเพื่อให้จังหวะ ขย่มหัวเรือเพื่อสร้างความได้เปรียบก่อนขึ้นหัวเรือที่เรียกกันว่า “โขน” และชิงธงในระยะตัดสินชัยชนะโดยห้ามตกลงน้ำ
ธงที่ชิงชัยกันนั้นจะเป็นธงที่ทำจากผ้าสีแดงผูกติดปลายหวายที่ออกมาทั้ง 2 ด้านของเส้นชัย หวายที่ใช้เป็นหวายเล็กที่เรียกกันว่า “หวายชุมพร” อีกด้วย
ถึงตอนนี้ประเพณีแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธงที่อำเภอหลังสวน จัดมาถึงปีที่ 182 แล้ว โดยจะมีการจัดงานประเพณีต่อเนื่องในระหว่างวันที่ 8 – 12 ตุลาคม 2568 ที่ สนามกลางภาตใต้ แม่น้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยมีการจัดงานมหกรรมสินค้าของดีเมืองชุมพรเพื่อต้อนรับผู้มาชมเรือยาว มีการจัดงานเทศกาลของกินพื้นเมืองของชุมพร พร้อมทั้งงานทำบุญตักบาตรเทโว แห่ขบวนเรือพระบก-พระน้ำ ซึ่งเป็นประเพณีพื้นบ้านของชาวหลังสวน ขณะที่การแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธงมีการจัดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม และชิงชนะเลิศในวันที่ 12 ตุลาคม 2568
ถือเป็นสนามแข่งเรือสุดยิ่งใหญ่ รวมเอาประเพณีและวัฒนธรรมอันยาวนาน มีการสืบสานส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นอันแข็งแรงที่มีผู้คนเข้าร่วมมากมายมหาศาล แฟนเรือยาวต้องไปดูสักครั้งให้ได้สักครั้งในชีวิต
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 7 วันที่ 19 ต.ค. เทศบาลเมืองน่าน จังหวัดน่าน งานประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน (เฉลิมฉลองกฐินพระราชทาน)
ต่อเนื่องกับสนามแข่งเรือยาวที่จังหวัดน่านจากพื้นที่ท่าวังผาสู่เทศบาลเมืองน่าน ถือเป็นสนามส่งท้ายปลายปีของการแข่งเรือน่าน ยังคงเอกลักษณ์ความงดงามของหัวเรือ ทั้งรูปพญานาคชูคอสง่า อ้าปากเขี้ยวงอโง้งงอนสูง ลำตัวสลักลายสวยงาม อย่างวิจิตรพิสดาร นอกจากนี้ยังเป็นการปิดท้ายอันยิ่งใหญ่ด้วยการเฉลิมฉลองกฐินพระราชทาน เป็นประเพณีเก่าแก่ ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ แสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีของชาวจังหวัดน่าน ที่ผูกพันกับสายน้ำน่านมาแต่ครั้งในอดีต
ที่ผ่านมา งานประเพณีแข่งเรือจังหวัดน่าน (เฉลิมฉลองกฐินพระราชทาน) มีการแข่งขันหลากหลายรายการ ทั้งแข่งเรือใหญ่ เรือกลาง เรือเล็ก เรือโบราณ และเรือเอกลักษณ์น่าน มีเรือเข้าร่วมมากกว่า 30 ลำ และมีการแข่งขันด้านความสวยงามอีกด้วย มีถ้วยพระราชทานมากถึง 6 ใบ เพื่อเป็นเกียรติกับทีมผู้คว้าชัยในประเภทต่าง ๆ
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 8 วันที่ 26 ต.ค. เทศบาลเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ไหลเรือไฟปิดท้ายด้วยแข่งเรือยาว
เข้าสู่ครึ่งหลังของการแข่งขันศึกเรือยาวชิงจ้าวสายน้ำของ Thai PBS สนามศึกสายน้ำของอุบลราชธานีแห่งนี้ถือเป็นอีกสนามที่ไม่ธรรมดาที่จัดขึ้นในช่วงออกพรรษา กลายเป็นงานสุดยิ่งใหญ่ของงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ลอยกระทง ทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ และแข่งเรือยาว มีการจัดงานต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
ประเพณีไหลเรือไฟ หรือ เฮือไฟ มีจัดขึ้นเป็นประเพณีของหลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยในพื้นที่อุบลราชธานีนั้นมีความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ รวมถึงวิญญาณบรรพบุรุษ และจะมีขึ้นในช่วงออกพรรษา นอกจากนี้ยังมีงานบุญอื่น ๆ ร่วมจัดต่อเนื่องเป็นงานใหญ่ประจำปี ที่ผ่าน ๆ มา จะมีการจัดประกวดกระทงขนาดใหญ่ ประกวดหนูน้อยนพมาศ ทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ และปิดท้ายงานประเพณีด้วยการแข่งขันเรือยาว ณ ลำน้ำมูล
การแข่งเรือยาวสนามนี้ที่ผ่านมา เน้นการแข่งเรือขนาดกลางถึงใหญ่ โดยมีประเภทการแข่งเรือยาว 2 รุ่น ประเภท 55 ฝีพาย 40 ฝีพาย และ 30 ฝีพาย ถือเป็นอีกสนามที่เร้าใจและยิ่งใหญ่สำหรับคนชอบเรือยาว
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 9 วันที่ 2 พ.ย. อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ศึกเรือโลหะแชมป์ชนแชมป์
มาถึงช่วงปลายปีการแข่งขันเรือยาวหลายสนามได้แชมป์แห่งสายน้ำมากมาย งานแข่งเรือยาวประเพณีที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ กลายเป็นศึกแชมป์ชนแชมป์ที่นำพาทีมฝีพายแชมป์จากหลายสนามมาพบกัน ชิงตำแหน่งสุดยอดจ้าวสายน้ำแห่งลำน้ำมูล โดยแต่ละปีที่ผ่านมา มีเรือเข้าแข่งไม่ต่ำกว่า 40 ลำ
มีการแข่งขันในหลัก ๆ 3 ประเภท ได้แก่ ประเภทเรือไม้ไม่เกิน 55 ฝีพาย ประเภทเรือไม้ไม่เกิน 40 ฝีพาย และเอกลักษณ์เด่นคือประเภทเรือท้องถิ่น หรือเรือโลหะไม่เกิน 35 ฝีพาย
ประเพณีแข่งเรือยาวที่อำเภอสตึกถือเป็นงานใหญ่ที่รวมเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นและผู้คนในชุมชนมาร่วมสังสรรค์ เดิมทีงานแข่งเรือนี้เป็นงานบุญร่วมสักการะเจ้าพ่อวังกรุดซึ่งเป็นชื่อวังน้ำวนช่วงหนึ่งของแม่น้ำมูล มีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ – อาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ต่อมาประเพณีนี้มีการจัดขึ้นเป็นประเพณีประจำจังหวัดตั้งแต่ปี 2529
งานประเพณีแข่งเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จะมีจัดงานต่อเนื่อง 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568 มีงานกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่ขบวนแห่ของคุ้มบ้านวิถีชุมชน งานออกร้านขายสินค้าชุมชน ถือเป็นงานเทศกาลใหญ่ต้อนรับทั้งนักท่องเที่ยวและแฟนเรือยาวทุกคน
ปฏิทินเรือยาว สนามที่ 10 วันที่ 9 พ.ย. สนามแข่งเรือกุดป่อง อ.เมือง จ.เลย สมรภูมิวิถีโค้งแห่งเดียวในไทย
ปิดท้ายศึกเรือยาวชิงจ้าวสายน้ำกับสนามแข่งเรือกุดป่อง ที่จะทำการแข่งขันกันที่ลำน้ำกุดป่อง สวนสาธารณะกุดป่อง อำเภอเมือง จังหวัดเลย สมรภูมิวิถีโค้งแห่งเดียวในประเทศไทย มีโค้งน้ำกว้างและงดงามแปลกตากว่าทุกแห่ง
โดยพื้นที่สวนสาธารณะกุดป่องนี้ถือเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นมาอันยาวนาน ผูกโยงกับมิติเรื่องราวความเชื่อและเรื่องราวของผู้คนในพื้นที่ โดยโยงกับภูบ่อบิดอันมีเรื่องเล่าของขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในถ้ำเร้นลับ ตามความเชื่อท้องถิ่นเกี่ยวกับชนเผ่าเร้นลับที่อำพรางสมบัติไว้ให้ผู้คนตามหา ก่อนที่จะเชื่อมโยงจากถ้ำใต้ดินที่ภูบ่อบิดสู่ทางออกที่ลำน้ำกุดป่อง ที่ช่วยชีวิตผู้เดินทางตามหาสมบัติไว้ ด้วยลำน้ำโค้งแห่งนี้ที่ช่วยชีวิตคนไว้ มีความเชื่อกันว่าเป็นทางที่พญานาคเคยสัญจรผ่าน
พื้นที่กุดป่องแห่งนี้จึงเป็นพื้นที่ของผู้คนท้องถิ่นที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาอย่างยาวนานแต่โบราณกาล การแข่งเรือยาววิถีโค้งริมน้ำกุดป่อง กลายเป็นประเพณีท้องถิ่นเพื่อสร้างความสามัคคีในชุมชน ถึงตอนนี้มีการจัดต่อเนื่องมาถึงปีที่ 11 แล้ว ถือเป็นอีกสนามแข่งเรือที่มีความน่าสนใจ และมีเอกลักษณ์ลำน้ำโค้งเฉพาะตัว โดยการแข่งขันที่ผ่านมาจะเน้นหรือขนาดกลางถึงเล็ก ได้แก่ การแข่งเรือยาวประเภทไม่เกิน 30 ฝีพาย และประเภทไม่เกิน 10 ฝีพาย นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันประกวดสีสันกองเชียร์เพื่อสร้างความสนุกยิ่งขึ้นอีกด้วย
คนไทยกับสายน้ำเป็นวิถีชีวิตที่ผูกพันกันมาอย่างยาวนาน แต่ละท้องถิ่นต่างมีเรื่อวราวแห่งสายน้ำและวิถีของเรือยาวในแบบเฉพาะตัวที่กลายเป็นตัวตนของผู้คนในแต่ละพื้นถิ่นและได้สืบสานส่งต่อกันมาถึงปัจจุบัน