ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ชื่อของ “สม รังสี” แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชากลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากวิจารณ์การจัดการของรัฐบาลกัมพูชาต่อปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้ พงศธัช สุขพงษ์ สัมภาษณ์พิเศษสม รังสี ที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ถอดรหัสมุมมองต่อความขัดแย้งของ 2 ประเทศ อนาคตของกลุ่มการเมืองฝ่ายค้าน และจุดยืนกัมพูชาต่อสหรัฐฯ กับจีน
“ฮุน เซน” ก่อความขัดแย้งเพื่อรักษาผลประโยชน์
ไทย–กัมพูชาไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเหมือนพี่น้อง
ต้องอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
สม รังสี แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา วัย 76 ปี เริ่มต้นการให้สัมภาษณ์พิเศษในครั้งนี้ว่า สาเหตุของความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการเงิน เนื่องจากระบอบฮุน เซน พึ่งพาเม็ดเงินจากขบวนการอาชญากรรมตามแนวชายแดน ไทยพยายามกวาดล้างขบวนการเหล่านี้ ทำให้ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาต้องหันมาใช้มาตรการตอบโต้
กฎหมายเพิกถอนสัญชาติเครื่องมือกดปราบผู้เห็นต่าง
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ส.ค. 68) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชาลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์สนับสนุนการปรับแก้กฎหมายสัญชาติเปิดทางให้สามารถเพิกถอดสัญชาติผู้กระทำความผิดในข้อหากบฏ ครอบคลุมถึงผู้ถือสัญชาติกัมพูชาโดยกำเนิด ผู้ถือสองสัญชาติและผู้แปลงสัญชาติ
ท่ามกลางการจับตามองถึงความพยายามของรัฐบาลกัมพูชาในการใช้กฎหมายฉบับนี้ “ปิดปาก” บรรดาอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ หลังจากซอร์ ซกคา รัฐมนตรีมหาดไทยกัมพูชาประกาศว่ากฎหมายจะจัดการกับภัยคุกคามจากพลเมืองที่ทำงานรับใช้ไทย
การแก้ไขกฎหมายสัญชาติของกัมพูชา
เป็นหลักฐานของการปราบปรามกลุ่มผู้เห็นต่าง
และสืบทอดอำนาจจากพ่อสู่ลูก
แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา ตั้งข้อสังเกตว่า ตระกูลฮุนกำลังสร้างราชวงศ์ทางการเมืองด้วยการใช้กฎหมายฉบับดังกล่าวในการกดปราบกลุ่มผู้เห็นต่างทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ชาวกัมพูชาจะลุกขึ้นต่อต้านอำนาจเผด็จการในท้ายที่สุด เนื่องจากฮุน เซน ละเมิดเจตจำนงของประชาชนและไม่เคยชนะการเลือกตั้งอย่างแท้จริง
การเลือกตั้งที่ผ่านมาในกัมพูชาทั้งหมด
ถูกจัดขึ้นเพื่อให้ฮุน เซนและพวกพ้องของเขาครองอำนาจต่อไป
แต่นี่ไม่ใช่ความต้องการของประชาชนกัมพูชาเลย
กัมพูชาไม่ใช่ “สมบัติส่วนตัว” ของตระกูลฮุน
แม้ว่ากลุ่มการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาจะต้องเผชิญกับการปราบปรามอย่างหนักภายในประเทศนำไปสู่การจับกุมคุมขังและการลี้ภัยทางการเมืองของนักการเมืองและนักเคลื่อนไหวจำนวนไม่น้อย แต่สม รังสียังคงเชื่อมั่นถึงการลุกขึ้นท้าทายอำนาจของระบอบฮุน เซน เนื่องจากประธานวุฒิสภาวัย 73 ปี ไม่ได้ครองอำนาจทางการเมืองต่อไปจนชั่วนิรันดร์
เขาไม่สามารถทำตัวเสมือนว่ากัมพูชาเป็นสมบัติส่วนตัว
เขาถ่ายโอนอำนาจจากพ่อไปสู่ลูก
และยังแย้มว่าจะให้หลานขึ้นมาเป็นผู้นำกัมพูชาในอนาคตอีก
แนวคิดดังกล่าวเป็นสิ่งที่รับไม่ได้โดยสิ้นเชิง
แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชา มองว่า ฮุน เซนกำลังติดกับดักในระบอบเผด็จการ เนื่องจากการเปิดพื้นที่เสรีภาพจะทำให้ประชาชนจะลุกขึ้นโค่นล้มระบอบได้
ถ้าประชาชนได้เสรีภาพ
เช่น การประท้วง การชุมนุม
พวกเขาจะใช้สิ่งเหล่านี้โค่นล้มระบอบของฮุน เซน
เขาจะไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมใด ๆ แม้แต่การชุมนุมเล็กน้อยที่สุดก็ไม่ได้
ฮุน เซนไม่สามารถเดินในเส้นทางของระบอบประชาธิปไตยเต็มใบได้ ขณะเดียวกัน ระบอบเผด็จการที่ผูกโยงกับราชวงศ์การเมืองคงอยู่ไม่ได้ตลอดไป
"กลอุบายราคาถูก” ของพ่อ-ลูกตระกูลฮุน
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งหนังสือถึงฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเพื่อขอบคุณสำหรับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากบทบาทในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา จนนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในการหารือที่ปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย
สม รังสีวิเคราะห์การขยับตัวของกัมพูชาในครั้งนี้ในฐานะ “กลอุบายราคาถูก” หรือ “Cheap Trick” ของพ่อ-ลูกตระกูลฮุน เนื่องจากจีนไม่ได้สนับสนุนทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์และการทูตแก่กัมพูชาหลังจากการสู้รบเปิดฉากขึ้นเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม
ฮุน เซนเองก็ผิดหวังกับจีน
เนื่องจากจีนไม่ได้ให้ความช่วยเหลือเขาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับไทย
แม้จีนจะเป็นพันธมิตร
แต่ก็ไม่เคยส่งอาวุธหรือแม้กระทั่งการสนับสนุนทางการทูต
สม รังสี มองว่า การพึ่งพาจีนเป็นหลักถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เนื่องจากเศรษฐกิจของกัมพูชาพึ่งพาสหรัฐฯ มากกว่าจีน อย่างไรก็ตามกัมพูชาไม่อาจหันไปพึ่งพาสหรัฐฯ ที่ผูกโยงความช่วยเหลือกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
ชูการแก้ปัญหาผ่าน “การทูต” แทน “การทหาร”
เมื่อถามถึงแนวทางในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างสันติ สม รังสี สนับสนุนการยุติระบอบฮุน เซน เนื่องจากระบอบนี้ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ แต่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของครอบครัวและผลประโยชน์ทางการเงินของตัวเอง
ฮุน เซนจะปกป้องขบวนการเหล่านี้
เนื่องจากระบอบของเขาพึ่งพาขบวนการเหล่านี้
แต่ถ้าผมประเมินสถานการณ์ถูก
ทางการไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน
มีความตั้งใจจริงที่จะปราบปรามขบวนการอาชญากรรมตามแนวชายแดน
ซึ่งถือเป็นสิ่งดี ไม่ใช่แค่สำหรับไทยเท่านั้น
แต่ยังดีต่อกัมพูชาและภูมิภาคด้วย
แกนนำฝ่ายค้านกัมพูชาสนับสนุนการแก้ปัญหาผ่านวิถีทางการทูตภายใต้ ข้อตกลงสันติภาพปารีสปี 1991 (Paris Peace Agreements) หมุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกัมพูชา หลังจากประเทศตกอยู่ในวังวนของสงครามกลางเมืองมานานกว่า 2 ทศวรรษ เนื่องจากข้อตกลงฉบับนี้รับประกันทั้งการปกครองระบอบประชาธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา
มันงี่เง่ามากถ้าฮุน เซนจะคิดเผชิญหน้าทางการทหาร
ทางออกเดียวคือต้องเป็นทางการทูต
ที่ยึดตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
เปิดข้อถกเถียงข้อตกลงสันติภาพปารีส
ข้อตกลงสันติภาพปารีสเป็นข้อตกลงทางการเมืองของ 19 ประเทศ ครอบคลุมสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน ไปจนถึงสมาชิกอาเซียนอีก 7 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ มีไทยรวมอยู่ด้วย
ข้อตกลงฉบับนี้ ลงนามเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ปี 1991 หรือเมื่อ 33 ปีที่แล้ว และได้รับการยกย่องให้เป็นรากฐานของสันติภาพและประชาธิปไตยในกัมพูชา หลังจากเผชิญความผันผวนจากการรัฐประหารปี 1970 การปกครองยุคเขมรแดง และการแทรกแซงของเวียดนาม
อย่างไรก็ตามข้อตกลงสันติภาพปารีสถูกตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพในการแก้ไขรากเหง้าของปัญหาได้อย่างแท้จริง เนื่องจากกัมพูชาต้องตกอยู่ในความขัดแย้งทางการเมือง หลังจากองค์การบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา (UNTAC) ถอนกำลังออกจากกัมพูชา
ปัจจุบันระบอบประชาธิปไตยของกัมพูชาเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงรูปแบบ “อำนาจนิยมผ่านการเลือกตั้ง” หรือ “Electoral Authoritarianism” สะท้อนให้เห็นชัดเจนจากการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ตระกูลฮุนและจำกัดบทบาทของกลุ่มการเมืองฝ่ายค้านอย่างแน่นหนา
การอ้างถึงข้อตกลงฉบับนี้ในฐานะเครื่องมือแก้ปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา อาจทำให้ปัญหาดังกล่าวถูกยกระดับเปิดทางให้นานาชาติเข้ามาแทรกแซงมากขึ้น สวนทางกับจุดยืนของไทยในการแก้ปัญหาข้อพิพาทอย่างสันติผ่านกลไกในกรอบทวิภาคีของทั้ง 2 ประเทศ
นอกจากนี้ข้อตกลงสันติภาพปารีส ปี 1991 ยังถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในกัมพูชาเป็นหลัก เพราะฉะนั้น การนำกรอบของข้อตกลง มาใช้ในการแก้ปัญหาข้อพิพาทด้านเขตแดน ระหว่างประเทศ อาจ “เกินขอบเขต” ของข้อตกลงฉบับดังกล่าวได้
ติดตามชมรายการทันโลก กับ Thai PBS วันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 21.00 – 21.30 น. ทางช่อง Thai PBS หมายเลข 3 หรือรับชมออนไลน์ผ่านทาง www.thaipbs.or.th/Live และชมย้อนหลังได้ที่ https://www.thaipbs.or.th/program/Tanloke