ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

6 ตุลา 2519 ย้อนบทเรียน ความรุนแรง ที่ไม่ควรซ้ำรอย


ประวัติศาสตร์

คมสัน ประมูลมาก

แชร์

6 ตุลา 2519 ย้อนบทเรียน ความรุนแรง ที่ไม่ควรซ้ำรอย

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3224

6 ตุลา 2519 ย้อนบทเรียน ความรุนแรง ที่ไม่ควรซ้ำรอย

“แล้วก็ให้แล้วกันไป ลืมมันเสียเถิดนะ”

ข้อความข้างต้นคือคำพูดที่ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 15 ได้กล่าวเอาไว้หลังการปล่อยผู้ต้องหาจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 แม้เวลาจะผ่านมานานแล้ว แต่ก็เป็นข้อความที่ฉุกชวนให้คิดเหลือเกินว่า เราสามารถลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้มันแล้วกันไป เพื่อที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า โดยละทิ้งสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้หรือไม่ และถ้าลืมได้เหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจะถูกวางทิ้งไว้ในฐานะอะไร

ย้อนกลับไปวันนี้เมื่อ 49 ปีที่แล้ว วันที่ 6 ตุลาคม 2519 ได้เกิดเหตุการณ์ “การสังหารหมู่นักศึกษา” จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 คน และบาดเจ็บ 145 คน เป็นหนึ่งในรอยด่างพร้อยที่ยากจะลืมเลือนในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย และถือเป็นฉากจบที่น่าเศร้าของห้วงเวลาประชาธิปไตยเบ่งบานหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ซึ่งกินระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี ผลผลิตของความขัดแย้ง และความเห็นต่าง ที่นำไปสู่ความรุนแรงอย่างถึงที่สุด

ร่องรอยความรุนแรงที่ถูกนำเสนอผ่านนิทรรศการ (Photo by Romeo GACAD_AFP)

Thai PBS ขอชวนผู้อ่านทุกท่านย้อนเวลากลับไปสำรวจอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ความรุนแรงของการเมืองไทย ไล่เรียงลำดับความขัดแย้งก่อนสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดจะเริ่มต้นขึ้น ย้อนบทเรียนทำความเข้าใจ และวาดหวังไปสู่อนาคตร่วมกันว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย

สิงหาคม เค้าลางของความรุนแรง การกลับมาของอำนาจเก่า

ภายหลังจากเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ที่สามารถโค่นล้มระบอบเผด็จการทหารของจอมพลถนอม กิตติขจร จนเกิดการผลักดันออกนอกประเทศ สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเสรีภาพครั้งใหญ่ ประชาชนและนักศึกษามีพลังในการขับเคลื่อนสังคม คณะรัฐบาลมีสัดส่วนของพลเรือนมากถึง 19 คน แต่เสรีภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นดาบสองคมที่สร้างรอยแยกขนาดใหญ่ ระหว่างกลุ่มอนุรักษ์นิยม (ฝ่ายขวา) ที่ต้องการรักษาระเบียบเดิมและต่อต้านคอมมิวนิสต์ กับ ศูนย์นิสิต และแนวร่วมต้านเผด็จการแห่งชาติ (ฝ่ายซ้าย) ที่เรียกร้องความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง 

จอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของไทย (Photo by สำนักนายกรัฐมนตรี)

ความตึงเครียดนี้ถูกจุดให้ปะทุขึ้นมาเรื่อย ๆ ผ่านการปะทะคารม การคุกคามกันไปมา จนเกือบจะเกิดเหตุการณ์ปะทะกันอยู่หลายครั้ง เปรียบได้กับชนวนระเบิด ที่กำลังเผาไหม้ นับถอยหลัง นำพาทุกสิ่งไปสู่จุดจบ

  • 16 ส.ค. 2519 จอมพลประภาส จารุเสถียร หนึ่งในสามผู้นำเผด็จการเดินทางกลับประเทศไทย โดยอ้างว่ามารักษาอาการป่วยตา การกลับมาของจอมพลประภาสในครั้งนี้ คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าฝ่ายอำนาจเก่าพยายามกลับมามีอำนาจอีกครั้ง
  • 19 สิงหาคม 2519 ภายหลังจากการกลับเข้าประเทศของจอมพลประภาส กลุ่มนักศึกษาและประชาชนจำนวนมากได้จัดชุมนุมประท้วงขับไล่ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริเวณสนามหลวง การประท้วงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและตึงเครียด มีการเรียกร้องให้นำตัวจอมพลประภาสมาลงโทษ โดยในการประท้วงในครั้งนี้มีกลุ่มที่ถูกจัดตั้งเข้ามาก่อกวนด้วยการขว้างระเบิดใส่ที่ชุมนุมของฝ่ายนักศึกษา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ
  • 22 สิงหาคม 2519 การประท้วงที่เกิดขึ้นสร้างแรงกดดันเป็นอย่างมากให้กับจอมพลประภาส จนเกิดการตัดสินใจเดินทางกลับไปยังกรุงไทเป การชุมนุมที่เกิดขึ้นจึงยุติลงเป็นการชั่วคราว

กันยายน ฆาตกรรม ความตาย ความรุนแรง

สถานการณ์ในเดือนสิงหาคมยังไม่ทันจะคลี่คลายดี กลุ่มอำนาจเก่าก็ได้มีความพยายามในการกลับเข้าสู่ประเทศอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นคราวของจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ศูนย์กลางของความแย้งตั้งแต่ 14 ตุลา 2516

จอมพลถนอม กิตติขจร กลับเข้าประเทศ ด้วยการบวชเป็นพระภิกษุ (Photo by AFP)

  • 3 กันยายน 2519 ช่วงต้นเดือนกันยายนเริ่มมีข่าวลืออย่างหนาหูว่า จอมพลถนอม กิตติขจร จะขอกลับเข้าสู่ประเทศไทย อ้างเหตุในการกลับมาดูแลบิดา ศูนย์นิสิตจึงได้ทำการประชุมเพื่อคัดค้านการกลับเข้ามาของจอมพลถนอม โดยได้ระบุว่าการเข้ามาของจอมพลถนอมเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในการก่อความไม่สงบ เพื่อก่อการรัฐประหาร
  • 19 กันยายน 2519 ข่าวลือเป็นความจริงจอมพลถนอมเดินทางกลับเข้าประเทศ โดยบวชเป็นสามเณรมาจากประเทศสิงคโปร์ก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศไทย และเข้ารับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดบวรนิเวศวิหาร นอกจากนี้วิทยุยานเกราะได้นำแถลงการณ์ของจอมพลถนอมมาออกอากาศ ระบุว่าการกลับเข้ามาครั้งนี้เพื่อเยี่ยมอาการป่วยของบิดา และได้บวชเป็นพระภิกษุตามความประสงค์ของบิดา ไม่มีจุดมุ่งหมายทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น

นิทรรศการจำลองประตูแดง เพื่อเชื่อมโยงกับเหตุฆาตกรรม (Photo by Lillian SUWANRUMPHA_AFP)

  • 24 กันยายน 2519 เกิดเหตุฆาตกรรม นายวิชัย เกษศรีพงศ์ษา และ นายชุมพร ทุมไมย พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขณะออกติดโปสเตอร์ต่อต้านจอมพลถนอม โดยคนร้ายได้นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ไปแขวนคอที่ประตูทางเข้าที่ดินจัดสรร ที่ตำบลพระประโทน จังหวัดนครปฐม สร้างความสะเทือนใจให้กับ ศูนย์นิสิต และแนวร่วมต้านเผด็จการแห่งชาติ เป็นอย่างมาก

ตุลาคม การปลุกปั่นความเกลียดชังนำมาซึ่งความรุนแรง

ความสะเทือนใจจากเหตุฆาตกรรมนำมาซึ่งความไม่พอใจ และนำไปสู่การชุมนุมต่อต้านพยายามผลักดันให้จอมพลถนอมออกนอกประเทศ และเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายผู้ก่อเหตุฆาตกรรมมาลงโทษ พร้อมกำหนดให้มีการจัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 4 ตุลาคม

  • 4 ตุลาคม 2519 ศูนย์นิสิต และแนวร่วมต้านเผด็จการแห่งชาติ จัดชุมนุมประท้วงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และบริเวณสนามหลวง มีการแสดงละครเรียกร้องให้นักศึกษามีจิตสำนึกด้วยการเข้าร่วมการประท้วง โดยในมีฉากหนึ่งที่เป็นการเลียนแบบเหตุฆาตกรรมช่างไฟฟ้าที่ถูกแขวนคอที่จังหวัดนครปฐม หลังจากนั้นได้มีการย้ายจุดชุมนุมหลักมาอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพียงจุดเดียว
  • 5 ตุลาคม 2519 วันแห่งการปลุกปั่นความเกลียดชัง มีการนำภาพการแสดงละครของนักศึกษาไปบิดเบือน และเผยแพร่ข้อความที่กล่าวหาว่านักศึกษากระทำการหมิ่นสถาบันฯ มีการปลุกระดมและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เข้าจัดการกับกลุ่มนักศึกษาที่ธรรมศาสตร์

กองกำลังพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Photo by AFP)

6 ตุลาคม 2519 ความรุนแรงที่ถูกปลดปล่อย

  • เวลาประมาณ 01.00 น. สัญญาณของความรุนแรงได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อมีกลุ่มคนพยายามบุกรุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นครั้งคราว นอกจากนี้บริเวณกำแพงมหาวิทยาลัยด้านสนามหลวง ได้เริ่มมีการเข้าตรึงกำลังเข้าล้อมมหาวิทยาลัย
  • เวลาประมาณ 04.00 น. กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน และกองกำลังติดอาวุธ รวมถึงกลุ่มมวลชนฝ่ายขวา เช่น กลุ่มกระทิงแดง ได้เข้าโอบล้อมพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จากทุกทิศทาง มีการทำลายสิ่งกีดขวาง และบุกรุกเข้าไปภายในมหาวิทยาลัย และเริ่มมีการระดมยิงอาวุธหนักเข้าใส่พื้นที่มหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหตุการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว

ศูนย์นิสิตฯ ช่วยกันเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ (Photo by AFP)

  • เวลาประมาณ 07.00 น. มีการบุกเข้าควบคุมพื้นที่ทั้งหมดของมหาวิทยาลัย จนเกิดการสังหารหมู่ ทำร้ายร่างกาย รุมประชาทัณฑ์ ผู้เข้าร่วมชุมนุมอย่างโหดเหี้ยม ส่วนผู้ที่ยอมจำนนจะถูกจับกุม และเปลื้องผ้าให้อยู่ในสภาพที่อับอาย ซึ่งมิได้จำกัดอยู่แค่ในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ลุกลามออกมาสู่ท้องถนน จนกลายเป็นภาพความรุนแรงที่น่าสะเทือนใจที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย
  • เวลาประมาณ 18.00 น. คณะทหารนำโดย พลเรือเอก สงัด ชลออยู่ ในนามคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ได้รัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาล ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช และยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2517 ความรุนแรงจึงได้ยุติลง และถือได้ว่าเป็นการปิดฉากยุคประชาธิปไตยเบ่งบานอย่างสมบูรณ์

บทเรียนจากความรุนแรงที่ต้องจดจำ

หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการตั้งข้อหาให้กับทางฝั่งนักศึกษา และมีการสอบสวนผู้ที่ใช้ความรุนแรง เพื่อหาคำตอบ หาทางออกให้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม คดี 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งมีผลให้การดำเนินคดีต่อนักศึกษา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นอันยุติลง ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าร่วมชุมนุม เจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจตระเวนชายแดน หรือกลุ่มผู้ก่อเหตุ ทำให้ไม่มีผู้กระทำความผิดฝ่ายใดถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย สร้างความคลางแคลงใจให้เกิดขึ้นในสังคม 

ญาติผู้เสียชีวิตยังคงเก็บหลักฐานไว้เป็นอย่างดี (Photo by Lillian SUWANRUMPHA_AFP)

ท้ายที่สุดแล้วจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สะท้อนให้เห็นว่า การบิดเบือนข้อมูล ข่าวลวง สามารถเป็นเครื่องมือในการสร้างความเกลียดชังเพื่อทำลายความเป็นมนุษย์ของผู้ที่มีอุดมการณ์ต่างกัน ความขัดแย้ง ความเห็นต่าง สามารถนำไปสู่ความโหดร้ายที่รุนแรงเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ความขัดแย้งสมควรที่จะต้องถูกคลี่คลายหาทางออกด้วยการพูดคุย ความอดทน และการเห็นถึงคุณค่าความมนุษย์

ดังนั้นในทุก ๆ วันที่ 6 ตุลา จึงไม่ใช่เพียงการรำลึกถึงผู้เสียชีวิต แต่คือการเรียนรู้ที่จะประคับประคองสังคมที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางความคิดให้ดำรงอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ เพื่อป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เพราะประเทศจะไม่สามารถมั่นคงได้ หากสังคมไม่เกิดการยอมรับความเห็นต่าง หากประชาชนยังมองว่าความรุนแรงเป็นส่วนหนึ่งในการหาทางออกให้กับปัญหา

บทความที่เกี่ยวข้องเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองในเดือนตุลาคม

อ้างอิง

  • เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519, สถาบันพระปกเกล้า
  • 47 ปี คดี 6 ตุลา 19, มติชนสุดสัปดาห์

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

6 ตุลา 19ความรุนแรงการเมือง
คมสัน ประมูลมาก

ผู้เขียน: คมสัน ประมูลมาก

นักดื่มกาแฟที่เขียนบทความได้นิดหน่อย

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด