ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คนไทยกินเจน้อยลงจริงหรือไม่ ?


Insight

คมสัน ประมูลมาก

แชร์

คนไทยกินเจน้อยลงจริงหรือไม่ ?

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3275

คนไทยกินเจน้อยลงจริงหรือไม่ ?

เทศกาลกินเจ ถือศีลกินผัก ละเว้นจากการบริโภคเนื้อสัตว์ทุกชนิดและผักที่มีกลิ่นฉุนต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการถือศีล เพื่อชำระล้างทั้งร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ แต่ในช่วงหลังมักจะมีการพูดกันอย่างบ่อยครั้งว่า "คนไทยกินเจน้อยลงทุกปี" เป็นเทศกาลที่ไม่ได้รับสนใจเท่าแต่ก่อน

Thai PBS ขอชวนผู้อ่านทุกท่านร่วมค้นหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันว่า คนไทยกินอาหารเจน้อยลงทุกปีจริงหรือไม่ ? มีปัจจัยใดบ้างที่จะทำให้ลดน้อยลง และแนวโน้มของการกินอาหารเจในอนาคตจะเป็นเช่นไร

คนไทยกินเจน้อยลงทุกปีจริงหรือไม่

เริ่มจากคำถามแรกที่ทุกคนน่าจะสงสัยกันมากที่สุด มีการพูดถึงกันเป็นประจำทุกปี กับกรณีคนไทยกินอาหารเจน้อยลง โดยจากการสำรวจของ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ด้วยคำถามที่ว่า “จะกินอาหารเจในช่วงเทศกาลกินเจหรือไม่” ตั้งแต่ปี 2565 - 2567 นั้นพบว่า

ราคาอาหารเจที่สูงขึ้นเฉพาะช่วงเทศกาลกระทบกับค่าครองชีพ

ปี 2567

  • 63.9% ไม่กิน เพราะอาหารเจแพงกว่าอาหารทั่วไป และเศรษฐกิจไม่ดี
  • 36.1% กิน เพราะตั้งใจทำบุญ ลดการกินเนื้อสัตว์ และกินเป็นประจำเฉพาะช่วงเทศกาล

ปี 2566

  • 60.6% ไม่กิน เพราะอาหารแพง ไม่ตั้งใจจะกิน เศรษฐกิจไม่ดี 
  • 39.4% กิน เพราะตั้งใจทำบุญ เพื่อสุขภาพ ลดการกินเนื้อสัตว์

ปี 2565

  • 66% ไม่กิน เพราะว่าอาหารเจแพง เศรษฐกิจไม่ดี และรสชาติไม่อร่อย 
  • 34% กิน ด้วยความตั้งใจที่จะทำบุญ ชอบอาหารเจ กินตามคนรอบข้าง

จากผลสำรวจดังกล่าวแม้จะเป็นการสุ่มตัวอย่าง แต่น่าจะพอทำให้เราเห็นว่าจำนวนการกินอาหารเจมีเพิ่มขึ้นและลดลงแตกต่างกันออกไป บางปีก็เพิ่มบางปีก็ลด จึงไม่อาจฟันธงได้ว่าคนไทยกินอาหารเจน้อยลงทุกปีจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เหตุผลในการไม่กินเจนั้นสอดคล้องกันเป็นประจำทุกปี

อาหารเจแพง เศรษฐกิจไม่ดี กินเจน้อยลง

เหตุผลข้อนี้ถือได้ว่าเป็นเหตุผลที่สำคัญที่สุดที่กลุ่มตัวอย่างได้ให้ไว้ ราคาอาหารเจที่สูงขึ้นไปกระทบกับค่าครองชีพ ทำให้ความตั้งใจในการทำบุญนั้นลดลง ส่วนที่ราคาอาหารเจแพงขึ้นก็เป็นเพราะว่าเมื่อเข้าสู่เทศกาลกินเจ ความต้องการในการบริโภคอาหารเจได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะ "อุปสงค์สูงกว่าอุปทาน" ผู้ผลิตและพ่อค้าแม่ค้าจึงมีการปรับราคาสินค้า เป็นกลไลที่เกิดขึ้นตามหลักการตลาด เช่นเดียวกันกับดอกกุหลาบในวันวาเลนไทน์

ราคาผักปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจตามหลักอุปสงค์อุปทาน

นอกจากนี้วัตถุดิบทดแทนเนื้อสัตว์ วัตถุดิบแปรรูป เช่น โปรตีนเกษตร ต่างก็มีต้นทุนในการผลิต และราคาที่สูงกว่าเนื้อสัตว์เป็นปกติอยู่แล้ว พอถึงช่วงเทศกาลราคาก็ปรับสูงขึ้นไปอีกตามหลักอุปสงค์อุปทานเช่นเดียวกัน

ส่วนในมุมจิตวิทยาก็สามารถมองได้ว่า ผู้บริโภคหลายคนเคยชินกับการจ่ายราคาหนึ่งสำหรับอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นองค์ประกอบหลัก เมื่อต้องจ่ายราคาเดียวกัน หรือแพงกว่า สำหรับอาหารที่มีเพียงผักและโปรตีนทดแทน จึงรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า หรือ แพงเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารจานปกติ

กินเจเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ต้องตรงตามเทศกาลเสมอไป

ด้วยเหตุผลหลักเรื่องราคาอาหารเจที่มีราคาแพงกว่าอาหารทั่วไป และปัญหาเศรษฐกิจที่คอยกัดกินเงินกระเป๋า รูปแบบการกินอาหารเจจึงเริ่มมีการกระจายตัวออกไป ปรับเปลี่ยนรูปแบบความคิด ไม่จำเป็นกินอาหารเจเฉพาะช่วงเทศกาลเหมือนที่เคยเป็นมา เพราะอาหารเจก็ไม่ได้หากินยากเหมือนแต่ก่อน ร้านอาหารบางร้านขายอาหารเจตลอดทั้งปีก็มี อาหารจากพืชอย่าง plant - based ก็มีให้เลือกกินมากขึ้น หรือจะซื้อผักมาปรุงกินเองที่บ้านก็ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไร ส่วนเหตุผลเรื่องการงดเบียดเบียนชีวิตสัตว์ก็สามารถทำได้ทุกวันอยู่แล้ว ไม่มีจำกัดช่วงเวลาแต่อย่างใด

Plant based รูปแบบในการบริโภคอาหารทดแทนเนื้อสัตว์  (Photo by Karim SAHIB/AFP)

นอกจากการไม่กินอาหารเจเฉพาะช่วงเทศกาลแล้ว ยังมีการกินแค่บางมื้อ กินตามสะดวก ไม่จำเป็นต้องกินให้ครบทุกวัน หรือบางคนเลือกที่จะกินเฉพาะในวันพระ หรือ อาทิตย์ละ 1 วัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่ยืดหยุ่นและทำได้ง่ายกว่าการกินอาหารเจแบบตรงตามวัน

แต่ในแง่ของการเป็นพิธีกรรม การกินเจถือเป็นช่วงเวลาของการบูชาเทพเจ้าเก้าองค์ 9 วัน 9 คืน การกินเจในช่วงนี้จึงเป็นการถือศีลทำบุญละเว้นการกินสิ่งมีชีวิตร่วมกัน และได้รับพลังบุญจากการเข้าร่วมพิธีอย่างครบถ้วน ดังนั้นหากเป้าหมายของเรา คือ การทำบุญตามประเพณีพร้อมถือศีลแบบเคร่งครัด การกินอาหารเจให้ตรงตามเทศกาลยังคงเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น

ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยน รูปแบบการกินเจจึงเปลี่ยนตาม

นอกจากการกินอาหารเจแล้ว ยังมีรูปแบบการบริโภคที่ละเว้นเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่มีความคล้ายคลึงกันอีกหลายรูปแบบ ซึ่งได้กลายเป็นเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ทำให้เราไม่จำเป็นต้องกินเจแต่เพียงอย่างเดียว เป็นทางเลือกในการละเว้นเนื้อสัตว์ที่ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ โดยเฉพาะในกลุ่มคน Gen Y และคน Gen Z ที่อาจมองว่าการกินในรูปแบบนี้สะดวกกว่า ไม่จำเป็นต้องถือศีลแบบเคร่งครัด และเป็นการกินที่สามารถรักษาสุขภาพไปได้พร้อม ๆ กันอีกด้วย

อาหารเพื่อสุขภาพ ทางเลือกสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการละเว้นเนื้อสัตว์

  • มังสวิรัติ คือ การงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ซึ่งรวมถึงเนื้อปลาและอาหารทะเลด้วย แต่ยังคงอนุญาตให้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ได้ เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง ได้ รวมไปถึงกินผักที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม หัวหอม กุยช่าย ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
  • วีแกน คือ รูปแบบการใช้ชีวิตที่งดเว้นผลิตภัณฑ์ที่มาจากสัตว์ทุกชนิดทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็น เนื้อสัตว์ นม ไข่ หรือแม้กระทั่ง น้ำผึ้ง ก็ไม่สามารถกินได้ นอกจากนี้วีแกนยังขยายขอบเขตไปถึงการไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เบียดเบียนสัตว์ เช่น เสื้อผ้าหรือรองเท้าที่ทำจากหนัง ขนสัตว์ และเครื่องสำอางที่ทดลองกับสัตว์ เป็นพื้นฐานการกินที่มีที่มามาจากหลักจริยธรรมและการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
  • Raw food คือ รูปแบบการบริโภคที่เน้นอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน หรือผ่านความร้อนในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 42 องศา เพื่อคงเอนไซม์และคุณค่าทางอาหารให้มากที่สุด ไม่มีการใช้แป้ง เนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ เช่น นม เนย อีกทั้งต้องไม่มีการปรุงรสด้วยสารสังเคราะห์จำพวก ผงชูรส น้ำปลา และน้าตาล ใช้เกลือทะเล ผลไม้ มาแต่งกลิ่นเพิ่มรสชาติแทน

ท้ายที่สุดแล้วแม้จะไม่อาจฟันธงได้ว่าคนไทยกินเจน้อยลงทุกปีจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่เราทราบได้ก็คือ ราคาค่าอาหารเจ ค่าครองชีพ และปัญญาเศรษฐกิจ คือ ตัวแปรที่สำคัญที่สุดในการปรับลดขึ้นหรือลดลงของจำนวนผู้กินอาหารเจในแต่ละปี นอกจากนี้ไลฟ์สไตล์รูปแบบการใช้ชีวิต รูปแบบการกิน ก็ได้สร้างทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับผู้ที่มีความสนใจในการละเว้นเนื้อสัตว์ ทำให้ความสนใจในการกินอาหารเจลดน้อยลง ดังนั้นในอนาคตแม้ว่าการกินเจตรงวันตามเทศกาลอาจจะมีการปรับลดจำนวนลงแปรผันไปตามสภาพเศรษฐกิจ แต่รูปการกินโดยละเว้นเนื้อสัตว์อาจจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคนในยุคปัจจุบัน 

ติดตามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาลกิจเจ

อ้างอิง

  • เปิดผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลกินเจ ปี 67 โดย  ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
  • กินเจ กินมังสวิรัติ กินวีแกน ต่างกันอย่างไร กินอะไรได้-ไม่ได้บ้าง โดย โรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
     

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เทศกาลกินเจกินเจกินเจ 2568
คมสัน ประมูลมาก

ผู้เขียน: คมสัน ประมูลมาก

นักดื่มกาแฟที่เขียนบทความได้นิดหน่อย

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด