‘ผลงานศิลปะ’ ทุกชิ้นล้วนมีคุณค่าและเรื่องราวในตัวเอง อย่างไรก็ดี ภาพวาด ศิลปวัตถุ รวมถึงโบราณวัตถุที่โด่งดังระดับโลกนั้น มักจะตกเป็นเป้าของขโมยขโจรอยู่บ่อยครั้ง
ถึงทุกวันนี้ มาตรการรักษาความปลอดภัยในพิพิธภัณฑ์จะแน่นหนาขึ้น แต่นักจารกรรมจำนวนไม่น้อยก็ยังพยายามลงมือฉกชิงงานศิลปะที่ประเมินค่าไม่ได้ ต่อไปนี้คือคดีดังที่เคยเกิดขึ้นจริงในพิพิธภัณฑ์ยุโรปชื่อดัง
คดีขโมยภาพ ‘โมนา ลิซา’ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ฝรั่งเศส
หากใครเคยไปพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre) ที่กรุงปารีส คงเคยได้เชยชมรอยยิ้มปริศนาของโมนา ลิซา (Mona Lisa) ภาพวาดจากฝีมือพหูสูตชาวอิตาเลียน เลโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ซึ่งถูกครอบด้วยกระจกนิรภัยอย่างดี แต่ย้อนกลับไปในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1911 ภาพวาดชิ้นนี้กลับอันตรธานไปจากที่จัดแสดง

แรกเริ่ม กีโยม อะโปลีแนร์ (Guillaume Apollinaire) กวีชาวฝรั่งเศส และปาโปล ปีกัสโซ (Pablo Picasso) ถูกต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือ แต่ภาพนี้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ในเดือนธันวาคม 1913 จู่ ๆ นายหน้าศิลปะชาวฟลอเรนซ์คนหนึ่งได้แจ้งทางการว่า มีคนพยายามจะขายภาพโมนา ลิซาให้เขา จนนำมาสู่การจับกุมขโมยได้ อาชญากรคนนี้เป็นช่างกระจกชาวอิตาเลียนที่เคยทำงานติดตั้งกรอบผลงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เขาเก็บงานชิ้นนี้ไว้ในบ้านพักถึง 2 ปีก่อนที่จะถูกจับ (โป๊ะ) ได้ ท้ายที่สุด ศาลตัดสินให้ช่างกระจกคนนี้จำคุก 7 เดือน

คดีปล้นภาพ ‘เสียงกรีดร้อง’ พิพิธภัณฑ์มุงก์ นอร์เวย์
ถ้าใครเคยดูแฟรนไชส์หนังไล่เชือด Scream ย่อมคุ้นเคยกับหน้ากากฆาตกรโกสต์เฟส (Ghostface) กัน หน้ากากนี้ได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งจากภาพวาดเสียงกรีดร้อง (The Scream) ของเอ็ดวัด มุงก์ (Edvard Munch) จิตรกรชาวนอร์เวย์ช่วงศตวรรษที่ 19-20 ด้วยลายเส้นบิดเบี้ยว สีหน้าหวาดกลัวของคนตรงกลางภาพ และการใช้สีชวนอึดอัด ภาพวาดนี้จึงสะท้อนความป่วยไข้ในจิตใจของมนุษย์ พร้อมเป็นไอคอนของศิลปะนอร์เวย์ไปโดยปริยาย

ภาพวาดเสียงกรีดร้อง เคยถูกขโมยไป 2 ครั้งในช่วงเวลา 10 ปี ครั้งแรกเกิดขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1994 โจร 2 คนเข้าไปขโมยภาพชิ้นนี้ได้โดยง่ายในเวลาเพียง 50 วินาที เพราะมาตรการรักษาความปลอดภัยยังไม่แน่นหนาพอ แต่ก็กู้ภาพวาดนี้กลับมาได้ใน 3 เดือนถัดมา ส่วนครั้งที่สองนั้น ชายติดอาวุธ 2 คนบุกพิพิธภัณฑ์มุงก์ (Munch Museum) ใจกลางกรุงออสโลช่วงกลางวันแสก ๆ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2004 พวกเขาขโมยภาพวาดเสียงกรีดร้องเวอร์ชันปี 1910 และมาดอนนา (Madonna) ได้สำเร็จ แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะจับกุมชายทั้งสองพร้อมพวกได้ แต่ต้องใช้เวลา 2 ปีถึงจะกู้ภาพวาดทั้งสองคืนมาได้ โดยที่ไม่มีการระบุถึงรายละเอียดว่าเจอที่ไหนอย่างไร

คดีขโมยอัญมณีโบราณมูลค่ากว่า 100 ล้านยูโร พิพิธภัณฑ์กรีนวอลต์ เยอรมนี
พิพิธภัณฑ์กรีนวอลต์ (Green Vault) ก่อตั้งขึ้นในปี 1723 ที่เมืองเดรสเดนของเยอรมนี พิพิธภัณฑ์เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแห่งนี้เก็บรักษาเพชรกับเครื่องประดับมากมายเอาไว้ ไอเทมโด่งดังชิ้นหนึ่งในกรีนวอลด์คือ เพชรขาวเดรสเดน (Dresden White Diamond) ขนาด 49 กะรัตของพระเจ้าออกัสตัสที่ 2 (Augustus II the Strong) ผู้ก่อตั้ง ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าราว 10-12 ล้านยูโร


แต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2019 กลุ่มโจรลอดเข้ากรีนวอลด์ผ่านลูกกรงเหล็ก ใช้ขวานทุบกระจก แล้วขโมยเครื่องประดับหลายสิบชิ้นที่ใช้เพชรรวมกันกว่า 4,300 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 113 ล้านยูโรไปได้ แม้แต่เพชรขาวเดรสเดนก็ถูกฉกไปด้วยเช่นกัน ภายหลัง ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยซึ่งเกี่ยวข้องกับ ‘แก๊งเรมโม (Remmo clan)’ เครือข่ายอาชญากรในเบอร์ลินได้ ขณะที่อัญมณีส่วนใหญ่นั้นคืนสู่พิพิธภัณฑ์

คดีวัตถุนับพันชิ้นหาย-ถูกขโมย-เสียหาย บริติชมิวเซียม อังกฤษ
บริติชมิวเซียม (British Museum) รวบรวมงานศิลปะ โบราณวัตถุ ประติมากรรม และอื่น ๆ อีกมากมายไว้กว่า 8 ล้านชิ้น แต่นำมาจัดแสดงจริงเพียง 80,000 ชิ้น หรือคิดเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ของที่มีอยู่ทั้งหมด เมื่อมีการหมุนเวียนไอเทมจัดแสดงตลอดเวลา ประกอบกับมีข้าวของในความดูแลมากเพียงนี้ จึงกลายเป็นช่องว่างให้ผู้ไม่หวังดีอาจ “จิ๊ก” วัตถุต่าง ๆ ออกไปเป็นเวลาหลายปี

ในปี 2021 มีข้อสงสัยว่า วัตถุบางชิ้นในบริติชมิวเซียมอาจถูกขโมยไป แต่ไม่มีพยานหลักฐานมากพอให้พิพิธภัณฑ์ได้สืบสวนต่อ ปีถัดมา พนักงานตรวจสอบพบว่า มีวัตถุชิ้นหนึ่งวางอยู่ผิดที่ผิดทางในห้องจัดแสดงกรีก-โรมัน จนนำมาสู่การไล่รายการสิ่งของจัดแสดงกันใหม่ ตำรวจเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง ในที่สุด บริติชมิวเซียมประกาศเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2023 ว่า วัตถุถูกขโมย หาย หรือเสียหายรวมกันกว่า 2,000 ชิ้น และได้ปลดพนักงานออกไป 1 คน สิ่งที่หายไปส่วนใหญ่คือ อัญมณีและเครื่องประดับจากแผนกกรีก-โรมัน จนถึงตอนนี้ พิพิธภัณฑ์ได้ติดตามวัตถุคืนมาได้แล้ว 626 ชิ้น และคืบหน้ากับการค้นหาไอเทมอื่น ๆ อีก 100 ชิ้น ทั้งนี้ ยังไม่มีการดำเนินคดีอาญากับใครแต่อย่างใด


คดีปล้นเครื่องเพชรยุคนโปเลียน พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ฝรั่งเศส
กลับมาที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์อีกครั้ง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ตุลาคม 2025 ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ไม่นาน กลุ่มโจร 4 คนบุกเข้าไปยังหอศิลป์อพอลโล (Apollo Gallery) ใช้ลูกหมูไฟฟ้าข่มขู่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แล้วขโมยเครื่องประดับที่ “ประเมินค่ามิได้ทางวัฒนธรรม” ไป 8 ชิ้น รวมถึงสร้อยคอเพชรประดับมรกตของมารี หลุยส์ (Marie Louise) จักรพรรดินีในจักรพรรดินโปเลียน (Napoleon) เหตุทั้งหมดเกิดขึ้นในเวลาเพียง 7 นาที ไม่นานหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่พบมงกุฎของจักรพรรดินียูเชนี (Eugenie) ในจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 (Napoleon III) ซึ่งใช้เพชรนับพันชิ้นตกแต่ง ร่วงอยู่บนพื้น

โลรองต์ นูเญซ (Laurent Nuñez) รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสและอดีตผู้บัญชาการตำรวจกรุงปารีส กล่าวว่า ระบบรักษาความปลอดภัยในพิพิธภัณฑ์ฝรั่งเศส “อ่อนแออย่างมาก” อีกทั้งหนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น ก็เกิดเหตุปล้นพิพิธภัณฑ์ 2 ครั้งที่ปารีสและเมืองลิโมช (Limoges) จึงยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาดังกล่าวของประเทศ

ทั้งหมดนี้คืออาชญากรรมส่วนหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นจริงในพิพิธภัณฑ์ชื่อดัง ไม่เพียงแต่คดีโจรกรรมในลักษณะนี้จะสร้างความเสียหายต่อ “มรดกมนุษยชาติ” แต่ยังทำให้ชีวิตของผู้บริสุทธิ์เสี่ยงไปด้วย หากใครถูกลูกหลงจนเป็นอะไรไป นั่นก็คงเป็นความสูญเสียที่ประเมินค่าไม่ได้อย่างแท้จริง ดังนั้น พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ จึงต้องเข้มงวดกับการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายเช่นนี้ในอนาคต
Thai PBS NOW รวมสารพัดเรื่องราวที่คุณอาจสนใจ
อ้างอิง
- AFP
- British Museum
- Culture Re-View: Edvard Munch 'The Scream' is stolen in broad daylight, Euronews
- How two men stole Edvard Munch's The Scream in just 50 seconds — and how authorities managed to get the painting back, ABC News
- Reuters
ติดตามบทความและเรื่องราวทันทุกกระแสที่ Thai PBS NOW: www.thaipbs.or.th/now