กลายเป็นข้อกังวลสำหรับผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งทุกคนเมื่อเข้าสู่ช่วงใกล้เลือกตั้ง หลังเกิดกรณีประชาชนหลายคนถูกสวมสิทธิเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
Thai PBS ชวนทุกคนมาดูข้อปฏิบัติหากถูกสวมสิทธิทางการเมือง ถูกสวมสิทธิเป็นสมาชิกพรรคการเมือง สวมสิทธิเลือกตั้ง ทุกคนต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ถูกสวมสิทธิสมัครสมาชิกพรรคการเมืองต้องทำอย่างไร ?
การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมีผลต่อการดำเนินการหลายอย่างของพรรคการเมือง การสวมสิทธิสมาชิกพรรคการเมืองโดยที่ประชาชนผู้นั้นไม่ได้รู้เห็น ไม่สมัครใจจึงถือเป็นความผิดได้
ที่ผ่านมาเกิดกระแสประชาชนหลายคนพบว่าตัวเองถูกสวมสิทธิสมัครสมาชิกพรรคการเมืองในช่วงที่ใกล้เลือกตั้ง ประชาชนที่เกิดข้อสงสัยว่าตัวเองถูกสวมสิทธิสมัครสมาชิกพรรคการเมืองหรือไม่ ? สามารถดำเนินการได้ดังนี้
ตรวจสอบการถูกสวมสิทธิสมัครสมาชิกพรรคการเมือง โดยสามารถตรวตสอบความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ที่เว็บไซต์ของ กกต. https://party.ect.go.th/services/member-check หรือบริการสายด่วน 1444 เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง หากพบว่าไม่ถูกต้อง แปลว่ากำลังถูกสวมสิทธิสมัครสมาชิกพรรคการเมือง ต้องดำเนินการต่อ
ดำเนินการแจ้งพรรคการเมืองให้แก้ไขข้อมูล โดยติดต่อไปยังพรรคการเมืองที่ปรากฏชื่อว่าเป็นสมาชิกพรรคอย่างไม่ถูกต้อง ประชาชนที่ถูกสวนสิทธิสมัครสมาชิกพรรคอาจแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หากตรวจสอบพบว่าถูกสวมสิทธิ์จริง นายทะเบียนพรรคการเมือง จะดำเนินการลบชื่อออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น โดยถือว่าบุคคลดังกล่าว ไม่เคยเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองนั้นมาตั้งแต่ต้น
แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง สามารถติดต่อหรือส่งหลักฐานได้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เลขที่ 120 อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 หรือโทร 02-1418486-92 โทรสาร. 02-1438585
บทลงโทษกรณีสวนสิทธิสมัครสมาชิกพรรคการเมือง
ผู้ที่กระทำการสวมสิทธิสมัครสมาชิกพรรคการเมืองถือว่ามีความผิดทางกฎหมายการเมืองตั้ง ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษกับผู้ที่เป็นนายทะเบียนสมาชิกของพรรคการเมืองรวมถึงพรรคการเมืองพรรคนั้น ๆ
บทลงโทษมีการกำหนดไว้ให้ นายทะเบียนสมาชิกจัดทำทะเบียนสมาชิกอันเป็นเท็จ หรือพรรคการเมืองใดแอบอ้างว่าผู้ใดสมัครเป็นสมาชิกของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ตามมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560
“สวมสิทธิ์เลือกตั้ง” กรณีละเมิดสิทธิทางการเมืองที่ต้องระวัง
ในช่วงการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา พบกรณีการถูกสวมสิทธิการเลือกอย่างต่อเนื่อง ทั้งการสวมสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า จนถึงการสวมสิทธิ์เลือกตั้งหน้าคูหา ทั้งนี้ ยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เมื่อเจอกรณีสวนสิทธิ์เลือกตั้ง
ผู้ถูกสวมสิทธิ์สามารถดำเนินการร้องเรียนผ่านการแจ้งความ และร้องเรียนต่อประธานกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ที่ผ่านมา กรณีถูกสวมสิทธิ์หน้าคูหา มีการให้ผู้ร้องรียกลงคะแนนเสียงของตัวเองได้ทันที ขณะที่กรณีสวมสิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า มีเพียงการรับเรื่องร้องเรียน
ที่ผ่านมา กรณีสวมสิทธิ์เลือกตั้งนั้นยังไม่มีกลไกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง แต่มีลักษณะเป็นหน่วยงานอิสระภาคประชาชนร่วมกันตรวจสอบเท่านั้น
อ้างอิง
- สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
- เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อประชาธิปไตย



















