เปิดศักราชใหม่ เริ่มต้นปี 2569 ไปดูกันว่า ปฏิทินวันหยุดเดือนมกราคม 2569 มีวันหยุดราชการ ตลอดจนวันสำคัญที่น่ารู้อะไรกันบ้าง รวมทั้งวันหยุดเดือนนี้ มีสถานที่ไหนที่น่าเดินทางไปกัน
ปฏิทินวันหยุด วันสำคัญ เดือนมกราคม 2569
วันพฤหัสบดี 1 มกราคม 2569 : วันขึ้นปีใหม่
“ปี” หมายถึง เวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครั้งหนึ่ง ราว 365 วัน หรือ 12 เดือนตามสุริยคติ “ปีใหม่” จึงหมายถึงการขึ้นรอบปีใหม่ หลังจาก 12 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งผู้คนนิยมใช้โอกาสนี้ในการเฉลิมฉลอง เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ หรือสิ่งที่เป็นสิริมงคล เช่น การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ต้อนรับปีใหม่ การเปิดกิจการใหม่ การทำบุญใส่บาตรในวันแรกของปีใหม่ เป็นต้น
วันศุกร์ที่ 2 มกราคม 2569 : วันหยุดพิเศษ
วันสำคัญอื่น ๆ ในเดือนมกราคม 2568
8 มกราคม : วันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ประสูติเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2530 ทรงเป็นพระราชธิดาพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระเชษฐภคินีและพระอนุชา 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
เมื่อแรกประสูติ ทรงดำรงพระอิสริยยศ “หม่อมเจ้า” มีพระนามว่า “หม่อมเจ้าบุษย์น้ำเพชร มหิดล” ต่อมาได้รับพระราชทานพระนามใหม่ว่า “หม่อมเจ้าจักรกฤษณ์ยาภา มหิดล” จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานพระนามใหม่ว่า “หม่อมเจ้าสิริวัณวรี มหิดล” ภายหลังพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น “พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์” เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2548
พระองค์สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนจิตรลดา ต่อมาได้สำเร็จการศึกษาศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 1 (เหรียญทอง) ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทรงได้รับรางวัลนิสิตดีเด่นประจำปีการศึกษา 2551 และทรงศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ณ วิทยาลัยสมาคมการออกแบบเสื้อผ้าปารีส (École de la chambre syndicale de la couture parisienne) ประเทศฝรั่งเศส
พระอัจฉริยภาพในด้านต่าง ๆ ของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการออกแบบแฟชันและเครื่องประดับในระดับนานาชาติ โดยทรงออกแบบเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ “SIRIVANNAVARI BANGKOK” ทรงสนับสนุนผ้าไทยและออกแบบลายมัดหมี่ชื่อ “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ทรงโปรดกีฬาแบดมินตันและการขี่ม้า ทรงเป็นนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย รวมถึงทรงคว้าแชมป์ประเภท Dressage ในกีฬาขี่ม้ารายการไทยแลนด์แชมเปียนชิป คิงส์คัพ 2012 ด้านดุริยศิลป์และคีตศิลป์ ทรงประพันธ์บทเพลงเพื่อใช้ในการแสดงแฟชันโชว์แบรนด์เสื้อผ้าของพระองค์ และยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของ “Royal Bangkok Symphony Orchestra”

11 มกราคม 2568 : วันเด็กแห่งชาติ
“วันเด็กแห่งชาติ” ตรงกับวันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 ในเดือนมกราคมของทุกปี จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม (3 ตุลาคม 2498) ตามจุดประสงค์ของที่องค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) ที่กำหนดให้มีวันเด็กสากล (World Children's Day) ขึ้น
โดยใช้ชื่อว่า Universal Children's Day เพื่อกระตุ้นให้สังคมโลกร่วมกันส่งเสริม สร้างความตระหนัก และร่วมพัฒนาศักยภาพและความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ทั่วโลก รวมทั้งยังเป็นการฉลองอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child) อีกด้วย
จนกระทั่งในปี 2506 คณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติมีความเห็นว่า ช่วงเดือนตุลาคมตรงกับช่วงฤดูฝนในประเทศไทย ทำให้ไม่สะดวกต่อการจัดงานวันเด็ก รวมทั้งยังเป็นวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันทำงาน ผู้ปกครองไม่สามารถพาบุตรหลานมาร่วมงานได้
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบ ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507 ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดงานวันเด็กแห่งชาติ มาเป็นวันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 ในเดือนมกราคม ตามข้อเสนอของคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งมีความเหมาะสมและสะดวกมากกว่า เนื่องจากเลยช่วงฤดูฝนมาแล้ว รวมทั้งยังเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
ทำให้ในปี 2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติ และเริ่มมีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติอีกครั้ง ในวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ในปี 2508 (9 มกราคม 2508) และปฏิบัติต่อมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2569 โดยนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี คือ
รักชาติไทย ใส่ใจโลก
13 มกราคม : วันการบินแห่งชาติ (Thailand's National Aviation Day)
ในปี 2454 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ถึงความจำเป็นและประโยชน์ของเครื่องบินที่ต้องมีไว้เพื่อป้องกันประเทศ จึงมีคำสั่งให้นายทหาร 3 นาย คือ พลอากาศโท พระยาเฉลิมอากาศ, นาวาอากาศเอก พระยาเวหาสยานศิลปสิทธิ์ และนาวาอากาศเอก พระยาทะยานพิฆาต ไปเรียนวิชาการบินที่ประเทศฝรั่งเศส หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้ทรงสถาปนาแผนกการบินขึ้นในกระทรวงกลาโหม เป็นผลให้กิจการการบินของไทยได้รับการพัฒนาขึ้นมาตามลำดับ
ต่อมาในวันที่ 31 พฤษภาคม 2537 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เห็นชอบกำหนดให้วันที่ 13 มกราคมของทุกปีเป็น “วันการบินแห่งชาติ” เริ่มในปี 2538 เป็นต้นมา เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โดยในวันนี้จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของการบินไทย และคุณประโยชน์ของกิจการการบิน
13 มกราคม 2380 : “หมอบรัดเลย์” ทำการผ่าตัดครั้งแรกในประเทศไทย
ในงานฉลองของวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เกิดเหตุการณ์กระบอกปืนใหญ่ที่เอามาทำเป็นไฟพะเนียงอย่างดอกไม้ไฟธรรมดา เพื่อทำให้เป็นของแปลก เกิดระเบิดแตกออกเป็นชิ้นน้อยใหญ่ ถูกคนในบริเวณนั้นตาย 8 คน และมีคนบาดเจ็บอีกจำนวนมาก มีพระสงฆ์รูปหนึ่งกระดูกแขนแตก จำเป็นต้องตัดแขนเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้
“หมอบรัดเลย์ - แดเนียล บีช แบรดลีย์ (Daniel Beach Bradley)” หรือที่คนไทยนิยมเรียก “หมอปลัดเล” นายแพทย์ชาวอเมริกันที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้ทำการผ่าตัดแขนพระรูปนั้นในที่เกิดเหตุ โดยไม่มีการใช้ยาสลบ จึงช่วยพระไว้ได้ (สมัยนั้นคนไทยยังไม่ทราบว่า จะตัดบางส่วนของร่างกายมนุษย์และยังมีชีวิตอยู่ได้)

14 มกราคม : วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีหนังสือไปถึงคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 4 มกราคม 2533 เสนอขออนุมัติให้วันที่ 14 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ” เนื่องจากวันที่ 14 มกราคม 2532 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2484 และพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504
พระราชกำหนดดังกล่าวได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยความเห็นของคณะรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งการให้สัมปทานป่าไม้สิ้นสุดลงทั้งแปลงได้ อันเนื่องมาจากอุทกภัยภาคใต้ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2531 โดยเฉพาะที่ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช และวาตภัยจากพายุเกย์ ที่จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2532 ซึ่งนอกจากจะทำให้ประชาชนได้รับความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งด้านจิตใจและเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง
15 มกราคม 2477 : พิธีเปิด “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี”
เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2477 ได้มีพิธีเปิด “อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” หรือ “อนุสาวรีย์ย่าโม” ซึ่งข้าราชการและประชาชนชาวนครราชสีมาได้ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิของย่าโม โดยได้ “ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี” เป็นผู้ออกแบบร่วมกับ “พระเทวาภินิมมิต (ฉาย เทียมศิลป์ชัย)” ประติมากรเลื่องชื่อในสมัยนั้น นับเป็นอนุสาวรีย์ของสามัญชนสตรีคนแรกของประเทศไทย
“อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี” หรือ “อนุสาวรีย์ย่าโม” เริ่มก่อสร้างในปี 2476 เป็นอนุสาวรีย์หล่อด้วยทองแดงรมดำ สูง 1.85 เมตร หนัก 325 กิโลกรัม โดยย่าโมแต่งกายด้วยเครื่องยศพระราชทาน ในท่ายืน มือขวากุมดาบ ปลายดาบจรดพื้น มือซ้ายเท้าเอว หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ตั้งอยู่บนฐานไพทีสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ซึ่งใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของท่าน
ทั้งนี้ “ท้าวสุรนารี” มีนามเดิมว่า “คุณหญิงโม” เป็นภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา ในปี 2369 เจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ได้ยกทัพเข้ายึดเมืองโคราช “คุณหญิงโม” จึงได้รวบรวมชาวบ้านเข้าสู้รบและต่อต้านกองทัพเจ้าอนุวงศ์ไม่ให้ยกมาตีกรุงเทพฯ ได้เป็นผลสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาท่านให้เป็น “ท้าวสุรนารี” โดยชาวจังหวัดนครราชสีมาเรียกท่านว่า “ย่าโม”

16 มกราคม : วันครู
“วันครู” ถูกกำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 16 มกราคมของทุกปี จากคำปราศรัยของ “จอมพล ป.พิบูลสงคราม” นายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ที่ได้นำเสนอในที่ประชุมผู้แทนคณะครูทั่วประเทศ ในคราวประชุมวิสามัญของคุรุสภา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2499 ให้มี “วันครู” ขึ้น เพื่อรำลึกถึงความสำคัญของครู
และเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2499 คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภา จึงมีการประกาศให้วันที่ 16 มกราคม ซึ่งเป็นวันประกาศพระราชบัญญัติครู พุทธศักราช 2488 ในราชกิจจานุเบกษา เป็น “วันครู”
วัตถุประสงค์ของ “วันครู” มีขึ้นเพื่อระลึกถึงพระคุณของบูรพาจารย์ ส่งเสริมความสามัคคี ความเข้าใจอันดีของครูและประชาชน รวมทั้งยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพครู นอกจากนี้ยังเป็นวันที่ครูได้มาพบปะแลกเปลี่ยน เพื่อถ่ายทอดชีวิตของการเรียนการสอนเด็ก ๆ ในโรงเรียน รวมถึงสวัสดิภาพของครูในปัจจุบันและอนาคตด้วย
อ่านบทความ
- วันครูไม่ใช่วันไหว้ครู! เปิดความแตกต่างที่น่าทึ่ง 6 ประเทศทั่วโลก
- ปัญหาของ “ครูทั่วโลก” ที่ไม่ได้มีแค่เรื่อง “เงิน”
17 มกราคม : วันโคนมแห่งชาติ
17 มกราคม ของทุกปีเป็น “วันโคนมแห่งชาติ” ที่กำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงความสำคัญต่ออาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทย และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่เกษตรกร จนทำให้เรามีนมดื่มกินจนถึงทุกวันนี้

18 มกราคม : วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
“วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” หรือ “วันยุทธหัตถี” ตรงกับวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี ถือเป็นวันที่ระลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2135 ในสงครามระหว่างกรุงศรีอยุธยากับกรุงหงสาวดี จนได้รับชัยชนะ
การทำยุทธหัตถีในครั้งนั้น เป็นการทำยุทธหัตถีที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย และยังเป็นการรบบนบกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย เมื่อเสร็จสงครามยุทธหัตถีแล้ว สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โปรดให้สร้างสถูปเป็นอนุสรณ์ไว้ที่ทุ่งหนองสาหร่าย ตำบลตระพังตรุ ตรงกับที่ทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา เรียกกันว่า “เจดีย์ยุทธหัตถี”
ในการนี้ กองทัพไทยจึงถือเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถี มีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา เป็น “วันกองทัพไทย” โดยเป็นวันรัฐพิธี แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ
ปฏิทินวันหยุด กิจกรรมที่น่าสนใจเดือนมกราคม 2569
ประเพณี ตากธัมม์ ตานข้าวใหม่หิงไฟพระเจ้า ประจำปี 2569
งานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก “ประเพณี ตากธัมม์ ตานข้าวใหม่หิงไฟพระเจ้า ประจำปี 2569” ตั้งแต่วันที่ 1 – 3 มกราคม 2569 เวลา 09.00 - 21.00 น. วัดสูงเม่น อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่
พบกับกิจกรรมไฮไลท์ อาทิ พิธีทำบุญตักบาตรขึ้นปีใหม่ ชมนิทรรศการ “ตากธัมม์ เมืองคัมภีร์ธัมม์โบราณ 5 ฐานการเรียนรู้ กว่าจะเป็นคัมภีร์ใบลาน” ขบวนชุดขาวแพร่ธัมม์ที่ยาวที่สุดในโลก (White Parade) ชมการแสดง แสง สี เสียง “ตามรอยคัมภีร์ครูบามหาเถร มรดกธัมม์ มรดกโลก”
พิธีแห่ข้าวใหม่ และ ไม้หิงไฟพระเจ้า บูชาธัมม์ รอบวิหารพระเจ้าใจ๋ดี วัดสูงเม่น (ข้าวแดง ข้าวหลาม ข้าวปัน ข้าวจี่ ข้าวแคบ) ชมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรมวิถีล้านนาบนเวทีลานธัมม์ พิธีสืบชะตาคัมภีร์ธัมม์ โชตกะพระพุทธศาสนา 5,000 พระวัสสาแล พิธีจุดประทีบล้านนา 108 ดวง กิจกรรมสาธิตมรดกภูมิปัญญา กิจกรรมเวิร์คช็อป เเละ ตลาดวัฒนธรรม กาดหมั้ว คัวเมืองธัมม์
วัน - เวลา : 1 - 3 ม.ค. 69
สถานที่ : วัดสูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่
เทศกาลหุ่นโคมไฟนครสวรรค์ ครั้งที่ 8
เปิดม่านความงดงามภายใต้ธีม “Spirits of Nature & Island of Youth” อลังการกว่าทุกปี ชูอัตลักษณ์นครแห่งความหลากหลาย นำเสนอมิติใหม่ของศิลปะหุ่นโคมไฟ ที่ผสานความเชื่อ วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน ผ่านพื้นที่จัดแสดงหลากหลาย เช่น “แสงแห่งความสามัคคี”
วัน - เวลา : 1 - 3 ม.ค. 69
สถานที่ : อุทยานสวรรค์ จ.นครสวรรค์

งาน“มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม (CHARMING Chiang Mai Flowers Festival)”
เริ่มแล้วกับความงดงาม ท่ามกลางแสงไฟในยามค่ำคืน พร้อมเพลิดเพลินกับดอกไม้หลากสีสันตลอดทั้งเดือน สัมผัสความงดงามของดอกไม้และมนต์เสน่ห์แห่งล้านนา ในงาน “มนต์เสน่ห์เชียงใหม่ เมืองดอกไม้งาม (CHARMING Chiang Mai Flowers Festival)” ภายใต้แนวคิด “The World Heritage of Lanna – มนต์เสน่ห์ล้านนา เมืองมรดกโลก” ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 – 4 มกราคม 2569 เปิดให้เข้าชม เวลา 08.30 – 23.00 น.
ไฮไลท์สำคัญภายในงานนิทรรศการสวนไม้ดอกไม้ประดับ “The Wonder Flower Land” ชมความงดงามของดอกไม้เมืองหนาว พันธุ์ไม้หาชมยากในบรรยากาศสวนสวยอลังการและดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ นิทรรศการกล้วยไม้ “Orchid Land” จัดแสดงกล้วยไม้ไทยหลากหลายชนิด พร้อมไม้คลุมดินตระกูลเฟิร์นและมอสตกแต่งประดับประดา การแสดงน้ำพุดนตรี Wonder Fountain Music Laser Show การแสดงน้ำพุดนตรีประกอบแสง สี เสียง และพลุเอฟเฟกต์สุดตระการตา
ชมทุ่งไฟประดับที่ใหญ่และสวยสุดยามค่ำคืน “สวนแสงอัจฉริยะ - THE WORLD HERITAGE OF LANNA” พร้อมบอลลูนหงส์สุดน่ารัก ความสูงกว่า 10 เมตร การแสดง Light of Glory โชว์ศิลปะ วัฒนธรรมล้านนา ผสมผสานแสง สี เสียง อลังการและการจัดแสดงโขนบนเวทีกลางน้ำ
วัน - เวลา : 1 - 4 ม.ค. 69
สถานที่ : ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ (สวน อบจ.เชียงใหม่) และพื้นที่โดยรอบหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.เชียงใหม่
PATTAYA THE SEALEBRATION OF LIGHT AND LEGACY
ร่วมดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความสุขกับการประดับตกแต่งแสงไฟสุดตระการตา ภายใต้แนวคิด “PATTAYA THE SEALEBRATION OF LIGHT AND LEGACY” เนรมิตเมืองท่องเที่ยวระดับโลกให้เปล่งประกายยามค่ำคืน พร้อมเปิด 11 จุดแลนด์มาร์กแสงไฟทั่วเมือง ให้ทุกคนได้เก็บภาพความประทับใจตลอดเทศกาล
พบ 11 จุดไฮไลต์แสงไฟทั่วพัทยา เกาะกลาง ถนนสุขุมวิท พัทยากลาง / ใต้ทางต่างระดับแยกมอเตอร์เวย์ / เกาะกลาง ถนนสุขุมวิท พัทยาเหนือ / เกาะกลางถนนพัทยาเหนือ / ศาลาว่าการเมืองพัทยา / สวนสาธารณะลานโพธิ์ นาเกลือ / วงเวียนโลมา / ซุ้มหน้าโรงแรมโอโซ่ / โค้งดุสิต / ถนนชายหาดพัทยา / หาดจอมเทียน
วัน - เวลา : 1 - 4 ม.ค. 69
สถานที่ : พัทยา จ.ชลบุรี
งาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025”
ชวนมาเติมเต็มให้ใจฟูท่ามกลางความงดงามของหมู่มวลดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ที่เชียงราย กับงาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025” ภายใต้แนวคิด “สายนทีแห่งศรัทธา ธ สถิตในใจตราบนิจนิรันดร์” ภายในงานพบกับสวนดอกไม้ 4 ฤดู - Summer / Rainy / Winter / Spring ชมนิทรรศการพระราชกรณียกิจ งานศิลปะ-วัฒนธรรมล้านนา ชอปถนนคนเดินริมกก / โซน Food Truck / กาแฟ–ชาเชียงราย เรียนรู้วิถีชีวิตล้านนาและชาติพันธุ์กว่า 17 ชาติพันธุ์ อุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน และไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายสายพันธุ์
วัน - เวลา : 1 - 7 ม.ค. 69
สถานที่ : สวนไม้งามริมน้ำกก อบจ.เชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย

เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง Colors of Doi Tung
เทศกาลสีสันแห่งดอยตุง Colors of Doi Tung 12th The Monsters’ Journey “Blooming Inspiration” ผจญภัยไปกับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าดอยตุง สานต่อแรงบันดาลใจจากฟากฟ้า ไฮไลต์สุดพิเศษที่ห้ามพลาด อาทิ ผจญภัยในสวนดอกไม้ลายชนเผ่าที่สวนแม่ฟ้าหลวง ท่ามกลางวิวภูเขาและสายลมหนาว ชิลกับถนนคนเดินดอยตุง รวมของกิน และงานคราฟต์ จากครอบครัว 6 ชนเผ่า
เพลินกับการแสดงชนเผ่า ดนตรีพื้นเมือง และเวิร์กช็อปงานคราฟต์ เก็บเควสสุดสนุกใน “สวนแม่ฟ้าหลวง” ลุ้นรางวัลใหญ่ประจำปี ชมฝนดาวตก เจมินิดส์ (Geminids Meteor Shower) และคอนเสิร์ต “Jazz in the Garden” พร้อมกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่สุดอบอุ่นบนดอยตุง
วัน - เวลา : 1 - 25 ม.ค. 69
สถานที่ : ดอยตุง จ.เชียงราย
เทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ ไม้เมืองหนาว
ชมความสดชื่นสวยงาม สูดอากาศดี ๆ ให้เต็มปอด เพลิดเพลินผ่อนคลายไปกับเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ ไม้เมืองหนาว ดอกไม้งามแห่งขุนเขา หนาวสุดกลางสยาม ณ สวนพฤษชาติ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 18.00 น. เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
วัน - เวลา : 1 - 31 ม.ค. 69
สถานที่ : สวนพฤษชาติ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี
งาน “Akha Dinner”
ดินเนอร์อาหารอาข่า “Akha Dinner” ท้าลมหนาว ณ ดอยผาหมี เปิดประสบการณ์สัมผัสรสชาติอาหารอาข่าแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งดนตรีสดและการแสดงสะท้อนวิถีชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ของชนชาติพันธุ์ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสวัฒนธรรมได้เเบบใกล้ชิดท่ามกลางสายลมหนาวและวิวหลักล้าน ภายในงานพบกับอาหารพื้นถิ่นชาติพันธุ์อาข่า การแสดงวัฒนธรรมชาติพันธุ์ การแสดงดนตรีสดภายในงาน
วัน - เวลา : 31 ม.ค. 69
สถานที่ : ลานกางเต๊นท์ บูซอโฮมสเตย์ บ้านผาหมี อ.แม่สาย จ.เชียงราย
ปฏิทินวันหยุด มกราคม 2569 เที่ยววัดไหว้พระ 5 ภาค รับพรปีใหม่
ท่องเที่ยวรับปีใหม่เดือนแรกของปีอย่างเดือนมกราคม การเดินทางไหว้พระทำจิตใจให้สงบปลอดโปร่งเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปีที่จะมาถึง Thai PBS รวบรวมวัดน่าสนใจจาก 5 ภาค ที่ต่างมีเสน่ห์และคุณอาจยังไม่เคยไปเที่ยวมาก่อน
วัดร่องเสือเต้น จังหวัดเชียงราย

วัดที่มีเอกลักษณ์ความวิจิตรเฉพาะตัวที่ตั้งอยู่ในชุมชนร่องเสือเต้น ตำบลริมกก จังหวัดเชียงราย หลังจากได้รับการบูรณะด้วยผลงานของอาจารย์นก “สล่านก” พุทธา กาบแก้ว ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ลูกศิษย์ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ พลิกฟื้นจากวัดร้างที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน กลายมาเป็นวัดที่มีความสวยงามแปลกตา ด้วยศิลปะประยุกต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีน้ำเงินฟ้าให้ความสงบ พร้อมสถาปัตยกรรมปูนปั้นสุดประณีต
จุดน่าสนใจของวัดร่องเสือเต้น คือพระอุโบสถสีน้ำเงินฟ้าที่ประดิษฐานของพระพุทธรัชมงคลบีตรีโลกนาถ ที่มีความหมายถึง “พระพุทธเจ้าทรงเป็นมงคลเจ้าในความเป็นราคา เป็นที่พึ่งในสามโลก” โดยรูปลักษณ์สูงถึง 6.5 เมตร พร้อมสีขาวมุก มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนที่ไหน
ผู้ที่สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดร่องเสือเต้น www.facebook.com/RSTBlueTemple โทร. 06 4347 3636
วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา

ถือเป็นวัดโด่งดังแห่งภาคอีสาน เป็นที่พำนักของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเกจิอาจารย์แห่งโคราช มีประวัติอันยาวนาน ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จากวัดเล็ก ๆ มีการพัฒนาจนมีศาสนสถานมากมาย
สถานที่สำคัญในวัดแห่งนี้คือ หอเทพวิทยาคม หรือ วิหารเทพวิทยาคม (วิหารปริสุทธปัญญา) เป็นอุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ ถือเป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎกที่รวบรวมพุทธประวัติ พุทธวินัย และพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าเอาไว้เพื่อเป็นความรู้ให้กับประชาชนที่สนใจ ประกอบไปด้วยสถานปัตยธรรมที่มีความสวยงาม เป็นอาคารทรงกลมขนาดใหญ่ จำลองและบอกเล่าเรื่องราวพุทรประวัติ ภายในยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังและงานศิลปะแนวพุทธศิลป์ที่งดงาม
นอกจากนี้ในวัดบ้านไร่ยังมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณที่รวบรวมชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่วัยเยาว์จนอุปสมบทและเป็นพระอริยสงฆ์เป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก
ผู้ที่สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา โทร. +66 4425 3113
วัดแหลมสอ สุราษฎร์ธานี

วัดแหลมสอถือเป็นวัดที่มีความสวยงามเฉพาะตัว ซ่อนตัวเองอย่างเงียบสงบอยู่ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จุดเด่นที่ใครไปเยือนก็ต้องสังเกตเห็นคือพระเจดีย์แหลมสอ ที่เป็นเจดีย์สีทองอร่ามทรงแบบศิลปะศรีวิชัย ที่ตั้งอยู่ริมทะเลบนเกาะสมุย สร้างขึ้นโดยหลวงพ่อแดง พระที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวเกาะสมุยเมื่อนานมาแล้ว
ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่มีประวัติอันยาวนาน มีที่มาจากประเทศศรีลังกา ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญทางโบราณคดีจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ความสวยงามของเจดีย์และทิวทิศน์ทะเลที่อยู่เบื้องหลัง ช่วยให้ประชาชนที่มาไหว้พระได้มีใจที่สงบร่มเย็น
ผู้ที่สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดแหลมสอ 99/9 ถนนแหลมเส็ด ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วัดโสธรวรารามวรวิหาร ฉะเชิงเทรา

วัดสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดฉะเชิงเทรา ถือเป็นวัดใหญ่ที่มีชื่อเสียง เป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวฉะเชิงเทรา มีชื่อเสียงทั้งในด้านของความงดงามในเชิงพุทธศิลป์ตามแบบศิลปะล้านช้าง เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ วัดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายโดยฝีมือของชาวมอญ
วัดตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางไม่นาน สามารถเดินทางได้สะดวก ถือเป็นวัดใหญ่อีกแห่งที่เหมาะสำหรับจะท่องเที่ยวไหว้รับพรสำหรับปีใหม่นี้
ผู้ที่สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดโสธรวรารามวรวิหาร โทร. 0 3851 1048, 0 3851 1666
วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ

วัดอรุณราชวราราม วัดเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อเดิมว่าวัดแจ้ง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากความสวยงาม พร้อมสัญลักษณ์ “ยักษ์วัดแจ้ง” ที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ก่อนจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคนรุ่นใหม่
นอกจากความสวยงามในช่วงกลางวัน ในช่วงกลางคืนมักจะมีการจัดแสงไฟย้อมสีพระปรางค์วัดอรุณ สร้างความงดงามที่แตกต่างกันออกไปตามวันสำคัญต่าง ๆ เช่น พระปรางค์วัดอรุณสีน้ำเงินในวันเด็กสากล (World Chidren’s Day) และสีเขียวในวันชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ รวมถึงเทศกาลไฟกลางคืนต่าง ๆ อีกด้วย วัดอรุณราชวรารามจึงเป็นทั้งวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ก็มีความร่วมสมัย เหมาะทั้งไปท่องเที่ยวพักผ่อนพร้อมไหว้พระขอพรให้ชีวิตความสุขไปตลอดปี
ผู้ที่สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วัดอรุณราชวราราม โทร. 0 2891 2185
คำแนะนำสำหรับนักเดินทางตามแผนท่องเที่ยววันหยุดในเดือนมกราคม 2569
- ติดตามข่าวสารและประกาศจากกรมทางหลวงอย่างใกล้ชิด
- เตรียมแผนสำรองในกรณีที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางหรือยกเลิกการเดินทาง
- ใช้เส้นทางเลี่ยงตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
- เผื่อเวลาเดินทางให้มากขึ้น เนื่องจากอาจต้องใช้เส้นทางอื่นที่ไกลกว่าปกติ
- ตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
- ตรวจสอบปฏิทินท่องเที่ยวเดือนพฤศจิกายน และเลือกจุดหมายปลายทางที่มีสภาพภูมิอากาศปลอดโปร่ง
- ตรวจสอบเส้นทางการเดินทางล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมซ้ำซาก
- เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย แบตเตอรี่สำรอง และยาประจำตัว
เกร็ดทั่วไปสำหรับท่องเที่ยววันหยุดในช่วงต้นปี
- การเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ควรมีการวางแผนอย่างรอบคอบ เริ่มจากการจองที่พักล่วงหน้าเนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีอากาศเย็นสบาย
- ควรศึกษาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวอย่างละเอียด ทั้งช่วงเวลาเปิด-ปิด ค่าธรรมเนียมเข้าชม และกิจกรรมพิเศษในช่วงเทศกาล พร้อมทั้งเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศและกิจกรรมที่จะทำ
- สำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ ควรนัดแนะจุดนัดพบและเบอร์ติดต่อฉุกเฉินให้ชัดเจน ถ่ายรูปบัตรประชาชนและเอกสารสำคัญเก็บไว้ในโทรศัพท์ และแชร์ตำแหน่ง GPS ให้คนในครอบครัวทราบ
- การเตรียมงบประมาณควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน และพกบัตรเครดิตติดตัวไว้ด้วย นอกจากนี้ควรตรวจสอบประกันการเดินทางให้ครอบคลุมกิจกรรมที่จะทำ โดยเฉพาะกิจกรรมผจญภัยหรือกีฬาทางน้ำ
- ที่สำคัญควรศึกษาวัฒนธรรมและข้อควรปฏิบัติของแต่ละท้องถิ่น เพื่อการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบและเคารพชุมชนท้องถิ่น รวมถึงเตรียมถุงผ้าสำหรับใส่ของและกระบอกน้ำส่วนตัวเพื่อลดการใช้พลาสติก
- ทั้งนี้ควรติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และเผื่อเวลาพักผ่อนระหว่างทริปเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง จะได้เที่ยวอย่างมีความสุขและปลอดภัยตลอดการเดินทาง
ขอให้เดือนมกราคม เป็นช่วงเวลาที่ดีของทุก ๆ คน เดินทางท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย




















