นอกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นแล้ว หน้าร้อนยังพาเอาเหล่าบรรดา “โรคร้าย” ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์มาด้วย หนึ่งในนั้นคือ “โรคแอนแทรกซ์” หลายคนคุ้นหูคุ้นตากับชื่อโรคนี้ Thai PBS ชวนมาทำความรู้จักกับ โรคแอนแทรกซ์ ให้มากขึ้น เพื่อป้องกันความร้ายแรงจากโรคนี้
โรคแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่ออันตรายที่เกิดขึ้นได้ในสัตว์กินหญ้าแทบทุกชนิด อาทิ ช้าง เก้ง กวาง หรือสัตว์เลี้ยง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ สุกร สุนัข แมว ที่สำคัญกว่านั้น เชื้อแอนแทรกซ์ สามารถติดต่อมาสู่คนได้
ชาวบ้านเรียกโรคแอนแทรกซ์อีกอย่างว่า โรคกาลี โรคนี้มีมาแต่โบราณ สาเหตุของโรค เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส แอนทราซิส (Bacillus anthracis) หากเกิดขึ้นในสัตว์ มักพบว่ามีไข้สูง ไม่กินหญ้า มีเลือดปนน้ำลายไหลออกมา หายใจลำบาก กล้ามเนื้อกระตุก ชัก แล้วตายในที่สุด
บางตัวอาจมีอาการบวมน้ำ ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด เมื่อสัตว์ตายจะพบว่ามีเลือดออกทางปาก จมูก ทวารหนัก อวัยวะเพศ เป็นเลือดสีดำ ไม่แข็งตัว ซากสัตว์ที่ตายมีลักษณะนิ่ม และเน่าเร็ว ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสัตว์ที่ตายด้วยโรคนี้
กรณีที่ แอนแทรกซ์เกิดในคน หากเกิดบริเวณผิวหนัง จะเริ่มด้วยอาการคันบริเวณที่สัมผัสเชื้อ ตามมาด้วยเป็นตุ่มแดง และกลายเป็นตุ่มพองมีน้ำใส เมื่อเริ่มยุบ ตรงกลางจะมีลักษณะเป็นเนื้อตายสีดำคล้ายแผลบุหรี่จี้ มีรายงานว่า ผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ทั่วโลกมากกว่าร้อยละ 95 เป็นชนิดแผลที่ผิวหนัง
แต่หากเกิดโรคแอนแทรกซ์ ขึ้นบริเวณทางเดินหายใจ มักมีอาการไข้ ปวดเมื่อย หรือเจ็บหน้าอก รวมถึงหายใจมีเสียงดัง หายใจลำบาก เกิดภาวะออกซิเจนต่ำ และทำให้เสียชีวิตได้
กรณีที่พบเชื้อในทางเดินอาหาร อาจเกิดในจุดใดจุดหนึ่งของลำไส้ และเกิดการอักเสบ รวมทั้งมีอาการบวมน้ำ โอกาสในการเสียชีวิตมักพบร่วมกับอาการเลือดเป็นพิษ จนเกิดอาการช็อก และเสียชีวิตในที่สุด
อุบัติการณ์ของโรคที่เกิดขึ้นเกือบทุกครั้งมักจะเกิดขึ้นในสัตว์ก่อน แล้วคนจึงไปติดเชื้อเข้ามา โดยแอนแทรกซ์ที่ผิวหนัง เกิดจากเชื้อเข้าสู่ผิวหนังบริเวณรอยถลอกหรือบาดแผล ส่วนแอนแทรกซ์ที่ทางเดินหายใจ เกิดจากการสูดหายใจเอาสปอร์ซึ่งติดมากับขนสัตว์ที่มีโรค ส่วนแอนแทรกซ์ในระบบทางเดินอาหาร มีสาเหตุจากการกินเนื้อสัตว์ที่ป่วยตายด้วยโรคนี้ แล้วไม่ปรุงให้สุกเพียงพอ
โรคแอนแทรกซ์ เป็นโรคที่พบมากในช่วงเปลี่ยนแปลงฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนต่อเนื่องฤดูฝน สัตว์ที่เป็นโรคนี้ส่วนมากเกิดจากการหายใจเอาสปอร์ของเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส แอนทราซิส (Bacillus anthracis) ที่ปนเปื้อนอยู่ในดินหรือหญ้าเข้าสู่ร่างกาย หรืออาจเกิดจากการกินน้ำและอาหารที่มีเชื้อปะปนอยู่เข้าไป
ผู้ที่เสี่ยงต่อการติดโรคแอนแทรกซ์ คือ ผู้ที่มีโอกาสสัมผัสกับสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส แอนทราซิส ได้แก่
ปัจจุบัน มีรายงานว่า ไม่พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ในไทยมาตั้งแต่ปี 2544 แต่ยังปรากฏข่าวที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายนี้อยู่ โดยเฉพาะบริเวณใกล้ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น การป้องกันในเรื่องสุขอนามัยเบื้องต้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อไม่ให้โรคร้ายแรงนี้ระบาดในประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เตือน “โรคแอนแทรกซ์” พบ 3 ผู้ป่วยในลาว เหตุกินเนื้อวัว-ควายดิบ
อ้างอิง
-โรคแอนแทรกซ์
-โรคแอนแทรกซ์ สมาคมติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย
-โรคแอนแทรกซ์ สถาบันสุขภาพสัตว์
เจ้าหน้าที่เนื้อหาออนไลน์อาวุโส Thai PBS สนใจความเคลื่อนไหวของสังคม ผู้คน และเทรนด์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ และรวมถึงเป็นสมาชิกทาสแมวมายาวนาน