หน้าฝน “พายุ” เข้าต่อเนื่อง ฝนตกหนักรายวันทำกรุงเทพมหานคร (กทม.) น้ำท่วมในหลายพื้นที่เป็นประจำ นับวันยิ่งวิกฤติมากขึ้นเรื่อย ๆ แนวทางแก้ไขน้ำท่วมที่ควรพิจารณามีอะไรบ้างตามมาอ่านกันได้เลย
เรื่องนี้ ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้ให้ความรู้ผ่านเฟซบุ๊ก “Sonthi Kotchawat” ไว้ว่า
1. ปัญหาน้ำท่วม กทม.
1.1 “กรุงเทพมหานคร” เป็นที่ลุ่มต่ำต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 1 เมตรโดยเฉลี่ย พื้นที่ทางด้านตะวันออกของ กทม. และบางส่วนจังหวัดสมุทรปราการเป็นพื้นที่ที่ใช้ระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยมีการทรุดตัวอย่างต่อเนื่องประมาณปีละ 1 ซม. ขณะที่โลกร้อนขึ้นมีน้ำแข็งละลายจากขั้วโลกลงสู่มหาสมุทรทุกปี น้ำทะเลขึ้นสูงเฉลี่ยปีละประมาณ 3-5 มม. มีการคาดการณ์ในกรณี worst case หากไม่มีมาตรการลดโลกร้อนหรือมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นรูปธรรมจากทั่วโลก ในปี 2573 กทม. อาจถูกน้ำทะเลไหลเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและลำคลองต่าง ๆ และเข้าสู่พื้นที่ภายในจนท่วมเกือบหมด ขณะที่การระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยก็จะยากยิ่งขึ้น
1.2 ฝนตกหนักในเขต กทม. และปริมณฑลมากกว่าปกติ ฝนจะตกมากขึ้น7% หากอุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูง 1 องศาเซลเซียส ช่วงนี้มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงหอบความชื้นมหาศาลจากมหาสมุทรอินเดียขึ้นฝั่งนำฝนมาตก ประกอบกับมีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำ พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน เมื่อมีลมมรสุมพัดเข้ามาปะทะ ทำให้ฝนตกหนักมากกว่าปรกติ บางวันบางพื้นที่ ฝนตกเกิน 100 มม.
1.3 กทม. รับน้ำฝนได้เพียง 60 มม./ชม. หากเข้าใกล้ 100 มม./ชม. ท่อระบายน้ำจะรับไม่ไหวเกิดน้ำท่วมถนนรอการระบาย ขณะที่ในคูคลองต่าง ๆ หากยังมีขยะลอยอยู่มากหรือเกิดการตื้นเขินยิ่งทำให้น้ำเต็มคลองเร็วขึ้น เกิดน้ำท่วมได้ หากยิ่งเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนด้วยแล้ว จะทำให้ระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยได้ยาก
1.4 พื้นที่รองรับน้ำของ กทม. ถูกประชาชนถมดินสร้างบ้านเรือนนอกคันกั้นน้ำกลายเป็นเมืองใหม่โดยเฉพาะในพื้นที่แก้มลิง เดิมทางด้านทิศตะวันออกของ กทม. มีถนนเป็นแนวกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำหลากทะลักจากพื้นที่บางพลี บางบ่อ เข้า กทม. ได้แก่ ถนนนิมิตรใหม่ สุวินทวงศ์ ร่มเกล้า ถนนกิ่งแก้ว ถนนบางพลี-ลาดกระบัง ดังเช่น สนามบินสุวรรณภูมิพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ตั้งในพื้นที่แก้มลิงเดิมติดถนนกิ่งแก้ว ทำให้พื้นที่รับน้ำลดลง ส่วนพื้นที่รับน้ำเดิม เช่น เขตคลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบังมีพื้นที่รับน้ำประมาณ 92,000 ไร่ ปัจจุบันเหลือเพียง 34,000 ไร่ ถูกถมเพื่อสร้างชุมชนทำให้พื้นที่หายไปจำนวนมากถึง 58,000 ไร่เพียงในระยะเวลา 20 ปี
2. แนวทางแก้ไขน้ำท่วม กทม. ที่ควรพิจารณา
2.1 ต้องพิจารณาระบบการจัดการระบายน้ำทั้งระบบในลุ่มเจ้าพระยาไม่ควรให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดจัดการกัน เองโดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ทำงานภายใต้ คณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) จะต้องมีบทบาทเป็นเจ้าภาพในการมองภาพรวม ระดมความเห็นเพื่อแก้ ไขปัญหาการระบายน้ำระหว่างเมืองและทั้งลุ่มน้ำ
2.2 พิจารณาสร้างทางระบายน้ำใหม่หรือ Water highway ระบายน้ำจาก จ.ปทุมธานี รังสิต กทม. สมุทรปราการระบายออกอ่าวไทยโดยตรง
2.3. พิจารณาแนวคิดทำโครงการ Delta work หรือการก่อสร้างเขื่อน, ผนังกันคลื่น, กำแพงกันคลื่น, ประตูระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำทะเลทะลักเข้ามาทางแม่น้ำ-ลำคลองและท่วมในเมือง คล้ายกับประเทศเนเธอร์แลนด์ ใช้วิธีสูบน้ำลงทะเล
2.4 ในกรณีเลวร้ายแก้ไขไม่ได้แล้วอาจต้องย้ายเมืองหลวงแบบประเทศอินโดนีเซียหรือไม่ อินโดนีเซียย้ายเมืองหลวงไปยังเมือง นูซันตารา บนเกาะบอร์เนียว เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและความแออัดในจาการ์ตา ซึ่งเผชิญภาวะน้ำท่วม ดินทรุด และมลพิษทางอากาศอย่างหนัก
📌อ่าน : 4 ปัจจัยอาจทำให้เกิด “น้ำท่วม” พื้นที่ภาคกลางในปีนี้
📌อ่าน : “ไทย” อันดับ 4 ของโลก เสี่ยงถูก #น้ำท่วมหนัก ปี 2050 “กรุงเทพฯ” อาจจมน้ำเกือบทั้งหมด
📌อ่าน : หาก “โลกร้อน” ถึง 1.5 องศาฯ และ 2.0 องศาฯ จะเกิดอะไรขึ้น?
📌อ่าน : อีก 5 ปีข้างหน้าจาก “โลกร้อน” สู่ “โลกเดือด” และสภาวะโลกรวนกำลังตามมา
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech