ช่วงนี้เกิดพายุต่อเนื่อง ประกอบกับอยู่ในช่วงหน้าฝน ฝนตกบ่อย ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัดของไทย เพื่อเตรียมรับมือล่วงหน้า Thai PBS และ Thai PBS Sci & Tech ขอนำ 4 ปัจจัยที่อาจทำให้เกิด “น้ำท่วม” ในพื้นที่ภาคกลางในปีนี้ ความรู้จากนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
สำหรับเรื่อง ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้ให้ความรู้ผ่านเฟซบุ๊ก “Sonthi Kotchawat” ไว้ว่า

1. ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมของทุกปี “ร่องความกดอากาศต่ำ” ได้เลื่อนลงมาพาดขวางในทิศตะวันออก-ตะวันตกพาดผ่านพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน ขณะที่มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงแรงพัดจากอ่าวไทยและมหาสมุทรอันดามันหอบเอาความชื้นขึ้นไปปะทะ ดังนั้น จึงอาจมีฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง รวมทั้ง กทม. เป็นฝนตกทางด้านทิศใต้เขื่อนที่รับน้ำจากภาคเหนือทั้งจากเขื่อนภูมิพลจังหวัดตาก (แม่น้ำปิง), เขื่อนสิริกิติ์จังหวัดอุตรดิตถ์ (แม่น้ำน่าน) เขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมาจังหวัดลำปาง (แม่น้ำวัง)
2. ขณะที่มีน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมามากจากพายุคาจิกิและหนองฟ้า ทำให้ “เขื่อนเจ้าพระยา” ต้องเพิ่มการระบายน้ำเพื่อรองรับมวลน้ำจำนวนมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ท้ายเขื่อน เช่น จังหวัดสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อาจสูงขึ้นและต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน ขณะนี้เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มอัตราการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาแบบขั้นบันไดในอัตราตั้งแต่ 1,500 - 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 30 - 110 เซนติเมตร การระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นนี้อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ เช่น จังหวัดอ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา

3. หากมีฝนตกที่ใต้เขื่อนลงมามากในช่วงนี้จะทำให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาแถบ บางบาล เสนา ภาชี บางปะหัน น้ำจะท่วมโดยเฉพาะอำเภอนอกเขตคันกั้นน้ำรวมทั้งในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งหลายแห่งระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นท่วมชุมชนหลายแห่งโดยเฉพาะ 30 ชุมชนนอกแนวเขตคันกั้นน้ำ
4. โดยปกติประมาณเดือนกันยายนและตุลาคมของทุกปี จะมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวขึ้นในเขตทะเลจีนใต้ และจะมีทิศทางพัดเข้าสู่ประเทศไทยบ้างประมาณ 1-2 ลูก ดังนั้นถ้าหากมีพายุดังกล่าวพัดเข้ามาจะยิ่งเพิ่มให้เกิดฝนตกหนักมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำจากภาคเหนือไหลลงสู่ภาคกลางมากยิ่งขึ้น โดยต้องจับตาดูต่อไป
📌อ่าน : “ไทย” อันดับ 4 ของโลก เสี่ยงถูกน้ำท่วมหนัก ปี 2050 “กรุงเทพฯ” อาจจมน้ำเกือบทั้งหมด
📌อ่าน : หาก “โลกร้อน” ถึง 1.5 องศาฯ และ 2.0 องศาฯ จะเกิดอะไรขึ้น?
📌อ่าน : อีก 5 ปีข้างหน้าจาก “โลกร้อน” สู่ “โลกเดือด” และสภาวะโลกรวนกำลังตามมา
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech




















