หน่อเหรียงของดีปักษ์ใต้ แค่ 5 วันก็ได้เงิน
หน่อเหรียง: พืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้ดีในพื้นที่เล็ก
หน่อเหรียงเป็นผลิตภัณฑ์การเกษตรที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรรายย่อย ด้วยความสามารถในการสร้างรายได้ที่ดีแม้ในพื้นที่จำกัด การเพาะหน่อเหรียงไม่เพียงแต่ง่ายต่อการทำ แต่ยังให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าอีกด้วย
หน่อเหรียงคืออะไร และมาจากไหน
หน่อเหรียงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเพาะเมล็ดเหรียงให้งอกเป็นหน่อ โดยต้นเหรียงเป็นพืชที่มีอยู่ในป่าตามธรรมชาติ ต้นเหรียงจะมีฝักที่มีเมล็ดเรียงกันเหมือนสะตอ แต่เมล็ดจะเล็กกว่า เมื่อสุกแล้วเมล็ดจะร่วงลงมา และนำมาเพาะให้เป็นหน่อเพื่อการบริโภค
เมล็ดเหรียงดิบนั้นแข็งและกินไม่ได้ จึงต้องนำมาเพาะเป็นหน่อเหรียงก่อนจึงจะบริโภคได้ มีรสชาติกรุบกรอบ คล้ายกับถั่ว
วิธีการเพาะหน่อเหรียงแบบง่าย ๆ
การเตรียมเมล็ดเหรียง
ขั้นตอนแรกของการเพาะคือการขลิบเมล็ด โดยใช้กรรไกรตัดเล็บตัดที่หัวของเมล็ดซึ่งจะมีรอยแดงๆ นิดหน่อย การขลิบนี้จำเป็นเพราะหากไม่ขลิบหน่อจะไม่ออก เมล็ดจะงอกทางก้นแต่ไม่มีหน่อ
ขั้นตอนการเพาะหน่อเหรียง
- วันที่ 1: หลังขลิบเมล็ดแล้ว นำไปล้างน้ำ 3-4 รอบเพื่อให้หมดเมือก จากนั้นแช่น้ำไว้ 5 ชั่วโมง
- วันที่ 2-5: ใช้ผ้าชุบน้ำปิดไว้เพื่อรักษาความชื้น แช่น้ำวันละ 2 ครั้ง (เช้า-เย็น) ครั้งละ 30 นาที
- วันที่ 5: พร้อมรับประทาน
การล้างและแยกหน่อเหรียง
หลังครบ 5 วัน ใช้ตะกร้าที่มีรูขนาดเหมาะสมร่อนแยกหน่อออกจากเปลือก จากนั้นล้างทำความสะอาดและแกะเปลือกที่เหลือออก เมล็ดเหรียงดิบ 1 กิโลกรัม จะได้หน่อเหรียงประมาณ 1.8 กิโลกรัม
ประโยชน์ของหน่อเหรียงต่อสุขภาพ
อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่:
- โปรตีน ช่วยสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- วิตามิน บำรุงร่างกาย
- คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงาน
- ช่วยเจริญอาหาร ทำให้ทานอาหารได้มากขึ้น
วิธีการรับประทานหน่อเหรียง
หน่อเหรียงสามารถรับประทานได้หลายวิธี:
การกินสด
การรับประทานสดจะมีรสเฝื่อน เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติแบบนี้ มักจะกินคู่กับ:
- น้ำพริกกะปิ
- แกงคั่วหมู
- ขนมจีนน้ำยา
การทำอาหาร
- แกงกะทิหน่อเหรียง - เมนูยอดนิยมที่หอมอร่อย
- ผัดใส่กุ้ง - หน่อเหรียงจะให้ความกรอบ
- สลัดโรล - เป็นผักสดในสลัด
การจำหน่ายหน่อเหรียงและสร้างรายได้
ราคาขาย
- ขายเป็นโล: 250 บาทต่อกิโลกรัม
- ขายปลีก:
- กล่อง 100 กรัม = 30 บาท
- กล่อง 150 กรัม = 30 บาท
การหาตลาดจำหน่าย
การขายทำได้โดยการวิ่งขายร้านอาหารใต้ ร้านที่มีแกงใต้มักจะสนใจซื้อหน่อเหรียงไปใช้เป็นวัตถุดิบ เจ้าของร้านจะเห็นว่าผลิตภัณฑ์สดใหม่และมีคุณภาพดี
รายได้จากการทำหน่อเหรียงในพื้นที่เล็ก
เกษตรกรสามารถทำในพื้นที่เพียง 10 ตารางวา และสร้างรายได้ 3 - 4 หมื่นบาทต่อเดือน โดยผลิตได้สัปดาห์ละ 20 - 50 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับออร์เดอร์ที่มี
การเก็บรักษาหน่อเหรียง
หน่อเหรียงที่แกะเปลือกแล้ว สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 2-3 สัปดาห์ หรือนานถึง 1 เดือน โดยใส่ในกล่องและเก็บในตู้เย็น
การจัดเก็บเมล็ดเหรียงดิบ
เมล็ดเหรียงมีฤดูกาลออกผลในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม เกษตรกรต้องซื้อเก็บไว้ทั้งปี ราคาอยู่ที่ 80 - 120 บาทต่อกิโลกรัม
วิธีเก็บรักษาเมล็ดเหรียง
- ห้ามวางบนพื้นปูน เพราะจะทำให้เมล็ดแข็งและงอกยาก
- วางบนไม้กระดาน แล้วทำทับ
- เก็บได้นาน 1-2 ปี หากยังไม่ตัดขลิบ
การนำเปลือกหน่อเหรียงมาใช้ประโยชน์
เปลือกเมล็ดหน่อเหรียงที่แกะออกมายังมีประโยชน์ สามารถนำมาทำปุ๋ยได้โดยใช้สูตร:
สูตรปุ๋ยจากเปลือกหน่อเหรียง
- เปลือกหน่อเหรียง 1 ส่วน
- กากมะพร้าว 1 ส่วน
- ดิน 1 ส่วน
- แหนแดงสด 1 ส่วน
- มูลไส้เดือน 1 ส่วน
คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดทิ้งไว้ 1 เดือนก็พร้อมใช้
หน่อเหรียงกับการทำเกษตรในพื้นที่จำกัด
หน่อเหรียงเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำเกษตรในพื้นที่จำกัด ไม่ต้องใช้ที่ดินมากมาย แค่มีน้ำกับกะละมังก็เพาะได้แล้ว เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในเมืองหรือมีพื้นที่จำกัด
การเพาะหน่อเหรียงสอนให้เรารู้ว่า "ลงมือทำคือคำตอบ" สำหรับการเริ่มต้นทำเกษตร ไม่ว่าจะเริ่มจากพื้นที่เล็กแค่ไหน หากมีใจอยากทำก็สามารถเริ่มต้นได้เสมอ
ติดตามชมรายการมหาอำนาจบ้านนา วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส
อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับลูกเหรียง
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
เกษตร Easy
