ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กินไก่และไข่อย่างยั่งยืน

ออกอากาศ9 ส.ค. 68

กินอย่างยั่งยืน: เพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

การกินอาหารไม่ใช่เพียงแค่การเติมพลังงานให้กับร่างกาย แต่เป็นการเลือกกินที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลกใบนี้ การกินอย่างยั่งยืนจึงเป็นแนวทางที่สำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ

การกินอย่างยั่งยืนคืออะไร

การกินอย่างยั่งยืนหมายถึง การเลือกบริโภคอาหารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยคำนึงถึงแหล่งที่มาของอาหาร วิธีการผลิต และผลกระทบต่อระบบนิเวศ ดังที่นักกีฬาดำน้ำ อย่างทราย สิรณัฐ สก๊อต ได้กล่าวไว้ว่า "ถ้าเราทิ้งขยะในแหล่งอาหารของเรา อาหารที่เรากินก็เป็นอาหารขยะ"

การกินอย่างยั่งยืนสำคัญต่อธรรมชาติอย่างไร

  • ปัญหาของระบบประมงไทย

เริ่มต้นจากการเข้าใจปัญหาของระบบการผลิตอาหาร ปัญหาใหญ่ของทะเลไทยในปัจจุบันไม่ใช่ชาวประมงพื้นบ้าน แต่เป็นชาวประมงนายทุนที่ใช้วิธีการทำลายล้างทรัพยากรทะเล การใช้ไฟล่อปลาได้ตลอดเวลา และการใช้อวนถี่เกินไป ทำให้ไม่มีช่องวา "ถ้าเกิดเราไม่มีช่องว่างปล่อยให้ปลาเล็กปลาน้อยรอด มันไม่มีใครที่จะมาฟื้นฟูประชากรปลาต่อ"

  • ผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น

การกินอย่างยั่งยืนยังหมายถึงการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น การเลือกซื้อไข่จากเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงไก่แบบฟรีเรนจ์ (Free Range) และออร์แกนิก ทำให้ไก่ "เดินเล่นบนภูเขาแล้วก็ร้องเพลงกันระหว่างที่เขาเอ็นจอยกับชีวิตเขา" ไม่เพียงแต่ได้อาหารที่มีคุณภาพ แต่ยังช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยอีกด้วย

หลักการกินอย่างยั่งยืนในชีวิตประจำวัน

  • การเลือกอาหารตามฤดูกาล

การกินอย่างยั่งยืนเน้นการบริโภคอาหารตามฤดูกาล เช่น การกินมะม่วงในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม การกินตามธรรมชาติทำให้ได้คุณค่ามากกว่า และยังได้รับสารอาหารที่เข้มข้นที่สุด

  • การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ในประเทศ

การเลือกผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น "ไม่ต้องกินอาโวคาโดจากเม็กซิโก อาโวคาโดจากเชียงใหม่ก็น่าจะดีพอเหมือนกัน" การเลือกกินของในประเทศจะช่วยลดการขนส่งและสนับสนุนเกษตรกรไทย

วิธีการกินอย่างยั่งยืนอย่างง่าย

  • การเลือกโปรตีนอย่างรู้เท่าทัน

การกินอย่างยั่งยืนไม่จำเป็นต้องเป็นมังสวิรัติ แต่ควรเลือกแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ เช่น ไข่จากไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ หรือปลาจากแหล่งที่สะอาด การหลีกเลี่ยงอาหารทะเลจากพื้นที่ที่มีมาตรฐานการจับไม่ดี

  • การใช้ความหลากหลายทางชีวภาพ

การกินเน้นความหลากหลาย กินถั่วหลากหลายพันธุ์ เพราะอะมิโน แอซิด ในถั่วแต่ละชนิดมีไม่เหมือนกัน การใช้ข้าวหลายสีและเก็บเกี่ยวผักผลไม้ที่หลากหลาย จะช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ

การดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านการกินอย่างยั่งยืน

  • การลดขยะและมลพิษ

เริ่มต้นจากการเข้าใจว่า "ทุกอย่างที่เราใช้ในชีวิตประจำวันมีที่มาที่ไปจากแหล่งธรรมชาติ" การเลือกใช้เกลือทะเลจากทะเลที่สะอาด การหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปมากเกินไป และการสนับสนุนการเกษตรออร์แกนิก

  • การรักษาความสมดุลของธรรมชาติ

คำนึงถึงบทบาทของสัตว์ในระบบนิเวศ แม้แต่ฉลามที่ "มีบทบาทในระบบนิเวศ เขาจะกินซากวาฬซากต่าง ๆ ที่ตกค้างเหลืออยู่ ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญในมหาสมุทร"

การปรับเปลี่ยนวิถีการกินอย่างยั่งยืนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  • การเริ่มต้นจากการเลือกซื้อ

การเปลี่ยนวิถีเริ่มจากการตัดสินใจเลือกซื้อ การเลือกซื้อแบบอินทรีย์ มากกว่าอาหารแปรรูป (Processed food) และการอ่านฉลากและเข้าใจที่มาของอาหาร

  • การปรุงอาหารแบบธรรมชาติ

การกินอย่างยั่งยืนในการปรุงอาหารคือการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ เช่น การ "ใช้น้ำผัดอย่างเดียว" แทนการใช้น้ำมัน การใช้ผลไม้แห้งแทนน้ำตาล และการใช้เครื่องเทศธรรมชาติ

ผลประโยชน์ของการกินอย่างยั่งยืน

  • ผลดีต่อสุขภาพ

การกินอย่างยั่งยืนมอบประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การเลือกอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดสารเคมี และมีสารอาหารครบถ้วน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีพลังงานที่ดี

  • ผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้น้ำ และช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ "เราสามารถเลือกความสะดวกของคุณให้มันสะดวกกับธรรมชาติได้ด้วย"

บทสรุป: การกินอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

การกินอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องยากหรือต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างรุนแรง แต่เป็นการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน "วิถีของเราค่อนข้างที่จะเป็นมิตรกับธรรมชาติอยู่แล้ว" เราเพียงแต่ต้องกลับมาใส่ใจและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งตัวเราเองและโลกใบนี้

การกินอย่างยั่งยืนคือการ "กินเพื่อชีวิตที่ดีของเราและความยั่งยืนของโลก" เป็นการลงทุนในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าของประเทศไทย


อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live

กินอย่างยั่งยืน: เพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น

การกินอาหารไม่ใช่เพียงแค่การเติมพลังงานให้กับร่างกาย แต่เป็นการเลือกกินที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลกใบนี้ การกินอย่างยั่งยืนจึงเป็นแนวทางที่สำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ

การกินอย่างยั่งยืนคืออะไร

การกินอย่างยั่งยืนหมายถึง การเลือกบริโภคอาหารที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด โดยคำนึงถึงแหล่งที่มาของอาหาร วิธีการผลิต และผลกระทบต่อระบบนิเวศ ดังที่นักกีฬาดำน้ำ อย่างทราย สิรณัฐ สก๊อต ได้กล่าวไว้ว่า "ถ้าเราทิ้งขยะในแหล่งอาหารของเรา อาหารที่เรากินก็เป็นอาหารขยะ"

การกินอย่างยั่งยืนสำคัญต่อธรรมชาติอย่างไร

  • ปัญหาของระบบประมงไทย

เริ่มต้นจากการเข้าใจปัญหาของระบบการผลิตอาหาร ปัญหาใหญ่ของทะเลไทยในปัจจุบันไม่ใช่ชาวประมงพื้นบ้าน แต่เป็นชาวประมงนายทุนที่ใช้วิธีการทำลายล้างทรัพยากรทะเล การใช้ไฟล่อปลาได้ตลอดเวลา และการใช้อวนถี่เกินไป ทำให้ไม่มีช่องวา "ถ้าเกิดเราไม่มีช่องว่างปล่อยให้ปลาเล็กปลาน้อยรอด มันไม่มีใครที่จะมาฟื้นฟูประชากรปลาต่อ"

  • ผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่น

การกินอย่างยั่งยืนยังหมายถึงการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น การเลือกซื้อไข่จากเกษตรกรรายย่อยที่เลี้ยงไก่แบบฟรีเรนจ์ (Free Range) และออร์แกนิก ทำให้ไก่ "เดินเล่นบนภูเขาแล้วก็ร้องเพลงกันระหว่างที่เขาเอ็นจอยกับชีวิตเขา" ไม่เพียงแต่ได้อาหารที่มีคุณภาพ แต่ยังช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยอีกด้วย

หลักการกินอย่างยั่งยืนในชีวิตประจำวัน

  • การเลือกอาหารตามฤดูกาล

การกินอย่างยั่งยืนเน้นการบริโภคอาหารตามฤดูกาล เช่น การกินมะม่วงในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม การกินตามธรรมชาติทำให้ได้คุณค่ามากกว่า และยังได้รับสารอาหารที่เข้มข้นที่สุด

  • การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ในประเทศ

การเลือกผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น "ไม่ต้องกินอาโวคาโดจากเม็กซิโก อาโวคาโดจากเชียงใหม่ก็น่าจะดีพอเหมือนกัน" การเลือกกินของในประเทศจะช่วยลดการขนส่งและสนับสนุนเกษตรกรไทย

วิธีการกินอย่างยั่งยืนอย่างง่าย

  • การเลือกโปรตีนอย่างรู้เท่าทัน

การกินอย่างยั่งยืนไม่จำเป็นต้องเป็นมังสวิรัติ แต่ควรเลือกแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพ เช่น ไข่จากไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ หรือปลาจากแหล่งที่สะอาด การหลีกเลี่ยงอาหารทะเลจากพื้นที่ที่มีมาตรฐานการจับไม่ดี

  • การใช้ความหลากหลายทางชีวภาพ

การกินเน้นความหลากหลาย กินถั่วหลากหลายพันธุ์ เพราะอะมิโน แอซิด ในถั่วแต่ละชนิดมีไม่เหมือนกัน การใช้ข้าวหลายสีและเก็บเกี่ยวผักผลไม้ที่หลากหลาย จะช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ

การดูแลสิ่งแวดล้อมผ่านการกินอย่างยั่งยืน

  • การลดขยะและมลพิษ

เริ่มต้นจากการเข้าใจว่า "ทุกอย่างที่เราใช้ในชีวิตประจำวันมีที่มาที่ไปจากแหล่งธรรมชาติ" การเลือกใช้เกลือทะเลจากทะเลที่สะอาด การหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปมากเกินไป และการสนับสนุนการเกษตรออร์แกนิก

  • การรักษาความสมดุลของธรรมชาติ

คำนึงถึงบทบาทของสัตว์ในระบบนิเวศ แม้แต่ฉลามที่ "มีบทบาทในระบบนิเวศ เขาจะกินซากวาฬซากต่าง ๆ ที่ตกค้างเหลืออยู่ ซึ่งเป็นบทบาทที่สำคัญในมหาสมุทร"

การปรับเปลี่ยนวิถีการกินอย่างยั่งยืนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

  • การเริ่มต้นจากการเลือกซื้อ

การเปลี่ยนวิถีเริ่มจากการตัดสินใจเลือกซื้อ การเลือกซื้อแบบอินทรีย์ มากกว่าอาหารแปรรูป (Processed food) และการอ่านฉลากและเข้าใจที่มาของอาหาร

  • การปรุงอาหารแบบธรรมชาติ

การกินอย่างยั่งยืนในการปรุงอาหารคือการใช้วัตถุดิบธรรมชาติ เช่น การ "ใช้น้ำผัดอย่างเดียว" แทนการใช้น้ำมัน การใช้ผลไม้แห้งแทนน้ำตาล และการใช้เครื่องเทศธรรมชาติ

ผลประโยชน์ของการกินอย่างยั่งยืน

  • ผลดีต่อสุขภาพ

การกินอย่างยั่งยืนมอบประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การเลือกอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดสารเคมี และมีสารอาหารครบถ้วน จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีพลังงานที่ดี

  • ผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการใช้น้ำ และช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ "เราสามารถเลือกความสะดวกของคุณให้มันสะดวกกับธรรมชาติได้ด้วย"

บทสรุป: การกินอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

การกินอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องยากหรือต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างรุนแรง แต่เป็นการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน "วิถีของเราค่อนข้างที่จะเป็นมิตรกับธรรมชาติอยู่แล้ว" เราเพียงแต่ต้องกลับมาใส่ใจและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทั้งตัวเราเองและโลกใบนี้

การกินอย่างยั่งยืนคือการ "กินเพื่อชีวิตที่ดีของเราและความยั่งยืนของโลก" เป็นการลงทุนในอนาคตที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าของประเทศไทย


อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย