เมืองแพร่จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่งดงาม มาพร้อมกับอาหารพื้นบ้านรสเลิศ โดยเฉพาะ "ขนมจีนน้ำเงี้ยว" และ "น้ำพริกน้ำย้อย" ที่เป็นซิกเนเจอร์เฉพาะของจังหวัดแพร่
เมืองแพร่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในอดีตเรียกชื่อว่า "เวียงโกศัย" และเป็นประตูสู่ล้านนา สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังภาคเหนือ ด้วยความเป็นเมืองรองที่คนไม่ค่อยพูดถึง ทำให้ทรัพยากรท่องเที่ยวต่าง ๆ ยังคงความบริสุทธิ์และไม่เหมือนใคร
เมืองแพร่เป็นบ้านเมืองสโลว์ไลฟ์ที่แท้จริง ด้วยการใช้คำว่า "ต๊ะต่อนยอน" ซึ่งสื่อถึงความค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เดิน และความสงบเงียบที่ไม่เปลี่ยนแปลงมานานหลายสิบปี
เมืองแพร่มีความพิเศษทางภาษา โดยคนแพร่พูดเร็วที่สุดในภาคเหนือ หากมีการประกวดนับมะพร้าวในโซนภาคเหนือ จังหวัดแพร่จะชนะ เพราะการพูดที่เร็วกว่าพื้นที่อื่น ขณะที่จังหวัดอื่น ๆ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย จะมีการพูดที่หวานและช้ากว่า
อาหารซิกเนเจอร์ของเมืองแพร่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว น้ำจะใสมาก ๆ รสชาติเข้มข้น แตกต่างจากขนมจีนของภาคเหนือพื้นที่อื่นที่จะมีสีเข้มจากเครื่องแกง
ส่วนประกอบสำคัญ:
น้ำพริกเฉพาะของเมืองแพร่ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น ทำจากพริกทอด หอมเจียว กระเทียมเจียว ผงเห็ด เกลือ และกะปิ ที่มาของชื่อ "น้ำย้อย" เชื่อกันว่าเกิดจากการที่เวลาทานขนมจีนเส้นสดจะมีน้ำย้อยลงมา จึงเรียกว่า "น้ำพริกน้ำย้อย"
เมืองแพร่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะการปลูกข้าวเหนียว ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนในพื้นที่ ในอดีตแทบไม่มีการปลูกข้าวเจ้า แต่เมื่อข้าวเจ้ามีราคาดี เกษตรกรจึงหันมาปลูกข้าวเจ้าขาย แต่ยังคงปลูกข้าวเหนียวไว้บริโภคในครอบครัว นอกจากนี้ เมืองแพร่ยังปลูกหอมกระเทียมได้ค่อนข้างดี ทำให้มีวัตถุดิบคุณภาพสำหรับการทำอาหารพื้นบ้าน
นอกจากขนมจีนน้ำเงี้ยวแล้ว เมืองแพร่ยังมีแกงหลากหลายชนิด เช่น
และยังมีการใช้ถั่วเน่าในเมนูอื่น ๆ เช่น การหมักถั่วเน่าปรุงรสทำเป็นเมนูต่างๆ
การเดินทางจากเชียงใหม่ไปเมืองแพร่ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางขุนเขาที่สวยงาม ระหว่างทางเราจะพบอุทยานแห่งชาติและธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ความเงียบสงบ และวัฒนธรรมที่ยังคงความดั้งเดิม เมืองแพร่คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะไปในหน้าฝนที่เขียวชอุ่ม หรือหน้าแล้งที่ให้ความรู้สึกเหงา ๆ แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
เมื่อมาถึงเมืองแพร่แล้ว ผู้เยือนจะได้สัมผัสกับ "ประตูสู่ล้านนา เวียงโกศัย" อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังคงความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างสมบูรณ์
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2568 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
กินอยู่คือ
หลนเครื่องจิ้มอย่างไทย
ขนมจีนและยำอย่างทวาย
สารพัดของแนมแก้เผ็ด
อาหารพื้นบ้านจากมะเดื่อ
ตอนพิเศษ สวัสดีปีใหม่ 2568
กินเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
จานผักแสนอร่อยสำหรับเด็ก
ขนมหวานญี่ปุ่นต้อนรับปีใหม่
กินปลาสองน้ำ
แปลงร่างอาหารไหว้ตรุษจีน
ขนมจีนไม่ใส่กะทิ
อาหารถิ่นคนหนองกุดทิง
กินผักรสขมสารพัดประโยชน์
อาหารจานอร่อยของคนสูงวัย
กินเพิ่มภูมิคุ้มกันจากฝุ่นจิ๋ว
กินปลาอย่างลพบุรี
Bone Broth น้ำซุปกระดูกยอดฮิต
กินแกงอย่างคนตรัง
อาหารดับร้อน ต้อนรับสงกรานต์
อาหารถิ่นจานอร่อย
กินตามอายุครรภ์
อาหารถิ่นทวาย
เมี่ยงผลไม้รสเปรี้ยวพื้นบ้าน
อาหารสร้างอาชีพ
อาหารบำรุงเตรียมตั้งครรภ์
กินปรับสมดุลฮอร์โมน
น้ำพริกแบบชาติพันธุ์
กินตามนาฬิกาชีวิต
อาหารอินเดียเพิ่มภูมิคุ้มกัน
น้ำพริกไม่ง้อครก
อาหารไทยชื่อแปลก
อาหารไม่เหลือทิ้ง
ไอศกรีมจากข้าวไทย
อาหารจากป่าชายเลน
กินไก่และไข่อย่างยั่งยืน
สารพัดยำรสแซ่บ
สูตรเด็ดหมักเนื้อ
กินให้หมดจาน
จานเด็ดเมืองแพร่
กินอยู่คือ
หลนเครื่องจิ้มอย่างไทย
ขนมจีนและยำอย่างทวาย
สารพัดของแนมแก้เผ็ด
อาหารพื้นบ้านจากมะเดื่อ
ตอนพิเศษ สวัสดีปีใหม่ 2568
กินเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
จานผักแสนอร่อยสำหรับเด็ก
ขนมหวานญี่ปุ่นต้อนรับปีใหม่
กินปลาสองน้ำ
แปลงร่างอาหารไหว้ตรุษจีน
ขนมจีนไม่ใส่กะทิ
อาหารถิ่นคนหนองกุดทิง
กินผักรสขมสารพัดประโยชน์
อาหารจานอร่อยของคนสูงวัย
กินเพิ่มภูมิคุ้มกันจากฝุ่นจิ๋ว
กินปลาอย่างลพบุรี
Bone Broth น้ำซุปกระดูกยอดฮิต
กินแกงอย่างคนตรัง
อาหารดับร้อน ต้อนรับสงกรานต์
อาหารถิ่นจานอร่อย
กินตามอายุครรภ์
อาหารถิ่นทวาย
เมี่ยงผลไม้รสเปรี้ยวพื้นบ้าน
อาหารสร้างอาชีพ
อาหารบำรุงเตรียมตั้งครรภ์
กินปรับสมดุลฮอร์โมน
น้ำพริกแบบชาติพันธุ์
กินตามนาฬิกาชีวิต
อาหารอินเดียเพิ่มภูมิคุ้มกัน
น้ำพริกไม่ง้อครก
อาหารไทยชื่อแปลก
อาหารไม่เหลือทิ้ง
ไอศกรีมจากข้าวไทย
อาหารจากป่าชายเลน
กินไก่และไข่อย่างยั่งยืน
สารพัดยำรสแซ่บ
สูตรเด็ดหมักเนื้อ
กินให้หมดจาน
จานเด็ดเมืองแพร่