EN

แชร์

Copied!

มาตรการ “กดดัน” กัมพูชา กระทบคอลเซนเตอร์หรือไม่ ?

14 มิ.ย. 6812:31 น.
1
มาตรการ “กดดัน” กัมพูชา กระทบคอลเซนเตอร์หรือไม่ ?
มาตรการกดดันจากไทย แม้จะกระทบต่อผู้คนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แต่สถิติกลับสะท้อนว่าคดีแสกมเมอร์และค้ามนุษย์ ลดลงในทันทีนับจากการออกมาตรการ แต่การกดดันที่ยาวนานจะทำให้ขบวนการเหล่านี้จะหมดไปได้หรือไม่

นับตั้งแต่ความขัดแย้งเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย – กัมพูชา จนทำให้กองทัพบกประกาศใช้มาตรการจำกัดการผ่านแดนระหว่างสองประเทศขึ้น แม้อาจจะกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คนตามแนวชายแดน แต่ยังมีผลพลอยได้ด้วยเช่นเดียวกัน เนื่องจากช่วง 3 วัน ของการบังคับใช้มาตรการ พบคดีหลอกลวงออนไลน์ (Scammer) และ การค้ามนุษย์ ลดลง

มาตรการ “กดดัน” กัมพูชา ทำสถิติหลอกลวงลด

ทีมโฆษกกองทัพไทย ได้เปิดข้อมูลหลังการใช้มาตรการจำกัดการผ่านแดนไทย-กัมพูชา ของกองทัพบก ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 มิ.ย. 68 สืบเนื่องจากการยกระดับมาตรการดูแลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงการเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ และประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและตำรวจชายแดน ส่งผลให้เห็นถึงคดีแสกมเมอร์และคดีค้ามนุษย์ ที่พบว่ามียอดการแจ้งความถูกหลอกลดลงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา

ทั้งนี้พบว่า สถิติการแจ้งความผ่าน ศูนย์ AOC ในคดีหลอกลวงออนไลน์ (Scammer) และ การค้ามนุษย์ ระหว่างวันที่ 6 – 8 มิ.ย. 68 มีสถิติลดลงต่อเนื่อง ดังนี้

6 มิ.ย. 68
รับแจ้งผ่าน
Online : 235
Walkin : 77
Walkin + Online : 7
ศูนย์ AOC : 991
รวม 1,310 ครั้ง

7 มิ.ย. 68
รับแจ้งผ่าน
Online : 208
Walkin : 38
Walkin + Online : 10
ศูนย์ AOC : 859
รวม 1,115 ครั้ง

8 มิ.ย. 68
รับแจ้งผ่าน
Online : 183
Walkin : 25
Walkin + Online : 5
ศูนย์ AOC : 685
รวม 898 ครั้ง

จากสถิติดังกล่าวพบว่า มาตรการกดดันส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานการณ์ด้านอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะจำนวนคดีหลอกลวงออนไลน์ (Scammer) และ การค้ามนุษย์ ที่ลดลงถึงร้อยละ 31.45 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาปกติ

เชื่อ “ตัดเน็ต” กระทบคนไทยร่วมขบวนการคอลเซนเตอร์

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ กสทช. เตรียมตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่จะส่งไปประเทศกัมพูชา ว่าจะส่งผลกระทบกับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ตั้งฐานอยู่ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา หลายจุด โดยเฉพาะแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตของไทย หรือที่มีการทำสัญญาเช่า-ซื้อสัญญาณอินเทอร์เน็ตระบบสายของไทย

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.

แต่คาดว่าอาจไม่ได้ส่งผลกระทบกับแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบจานดาวเทียม หรือ แก๊งคอลเซนเตอร์บางกลุ่ม ที่ตั้งฐานเข้าไปลึกภายในประเทศกัมพูชา จึงเชื่อว่าหากดำเนินมาตรการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตของประเทศกัมพูชาจริง จะมีโอกาสให้คนไทยที่ทำงานในแก๊งคอลเซนเตอร์ หรือขบวนการผิดกฎหมายตามแนวชายแดนขอกลับเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น เพราะแก๊งคอลเซนเตอร์จะดำเนินการต่อไม่ได้

นักวิชาการเชื่อ ตัดเน็ต-ตัดไฟ กดดันได้ระยะหนึ่ง

ด้าน รศ. ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ให้ความคิดเห็นว่า การกดดันจากฝั่งไทยที่มีต่อกัมพูชา จะกระทบกับแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างแน่นอน แต่หากปล่อยให้เวลายาวนานขึ้น เชื่อว่าแก๊งคอลเซนเตอร์จะสามารถปรับตัวได้ และอาจมีกลยุทธ์ใหม่ ๆ ออกมาเช่นเดียวกับในฝั่งของเมียนมา ที่แม้จะมีการตัดน้ำมัน ตัดไฟ หรือตัดเน็ตจนส่งผลกระทบ แต่เมื่อผ่านระยะเวลาไปสักระยะหนึ่ง ก็จะมีการปรับตัว จากที่เคยพึ่งพาจากไทย ไปใช้แหล่งอื่นหรือผลิตบางอย่างขึ้นมาทดแทน ซึ่งตนเชื่อว่าหากใช้มาตรการที่เข้มงวดก็จะได้ผล แต่จะใช้ได้ในระยะเวลาหนึ่งเพียงเท่านั้น

นอกจากนี้แม้จะมีการใช้มาตรการต่าง ๆ ให้ยาวนานก็ตาม แต่ก็เชื่อว่า กลุ่มแก๊งคอลเซนเตอร์จะปรับตัวได้ ด้วยการขยับเข้าไปให้ห่างจากชายแดนไทย รวมถึงการสนับสนุนจากโครงข่ายที่แก๊งคอลเซนเตอร์พัวพันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชาเทา หรือไทยเทา ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งจะทำให้ขบวนการเหล่านี้ยังคงอยู่ต่อไปได้

รศ. ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาเคยมีบทเรียนมาแล้ว โดยเฉพาะกับบริเวณชายแดนเมียนมา ซึ่งกรณีนี้เชื่อว่า ก็จะมีความคล้ายคลึงกัน ถึงแม้จะมีความแตกต่างกันบ้างก็ตาม แต่หลักการก็คือ เมื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ถูกกดดัน หรือตัดช่องทางการติดต่อ กลุ่มขบวนการเหล่านี้ก็จะหาทางต่อสู้ด้วยการหาที่พึ่งใหม่ ที่ทำให้กลุ่มของพวกเขาสามารถดำรงอยู่รอดต่อไปได้

ส่องมาตรการควบคุมการเปิด-ปิด ชายแดน ไทย-กัมพูชา

ขณะที่ล่าสุดกองกำลังบูรพา ประกาศปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว โดยกองกำลังบูรพาได้มีการปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า ในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว เพื่อมุ่งอำนวยความสะดวกประชาชน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน มีรายละเอียดดังนี้

1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน : เปิด – ปิด เวลา 08.00 – 16.00 น. และผ่อนปรนให้รถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ (จากเดิมที่ไม่อนุญาตรถบรรทุก) โดยจำกัดจำนวนคันที่ 70 คัน/ต่อวัน ทั้งขาเข้าและขาออก

2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ : เปิด – ปิด เวลา 08.00 – 12.00 น. และผ่อนปรนให้รถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ (จากเดิมที่ไม่อนุญาตรถบรรทุก) โดยจำกัดจำนวนคันที่ 30 คัน/ต่อวัน ทั้งขาเข้าและขาออก

3.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา : คงเวลาเปิด – ปิด เวลา 08.00 – 12.00 น. โดยห้ามรถบรรทุก
หกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออก แต่หากจำเป็นต้องเดินทางสัญจรสามารถใช้เส้นทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน)

นอกจากนี้ได้มีการผ่อนปรน โดยอนุโลมในการเดินทางข้ามแดนของนักเรียนชาวกัมพูชา สามารถผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรบการค้าบ้านหนองปรือ ในช่วงเช้า ตั้งแต่ เวลา 06.00 – 08.00 น. และช่วงเย็น
เวลา 17.00 – 18.00 น.