Thai PBS Verify หาคำตอบมาให้กับผู้คนที่สงสัย โดยเราได้พูดคุยกับ ทนายทัศไนย ไชยแขวง อาจารย์วุฒิคุณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และอดีตอุปนายกสภาทนายความ ที่มาคลายข้อสงสัยให้กับประชาชนถึงประเด็นดังกล่าว

ทนายทัศไนย ไชยแขวง อาจารย์วุฒิคุณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และอดีตอุปนายกสภาทนายความ
เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรประชาชนได้หรือไม่?
การขอดูบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่สามารถขอดูได้ เพราะถือเป็นอำนาจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เรื่องอำนาจหน้าที่ในการป้องกันหรือปราบปรามการกระทำความผิด ตามมาตรา 6 ในบทบัญญัติทั่วไป เรื่องอำนาจหน้าที่ บวกกับระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการปฏิบัติงานของสายตรวจ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเจ้าหน้าที่พบเห็นอะไร หรือมีเหตุสงสัย ก็สามารถตรวจค้นได้ โดยมีกฎหมายรองรับอยู่ แต่หากตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำการยึดบัตรเหล่านั้นไปโดยไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา จะไม่สามารถกระทำได้
ยึดบัตรได้หรือไม่?
เรื่องการยึดบัตรประชาชนนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะยึดบัตรประชาชนได้ เว้นแต่ว่า ตำรวจจะอาศัยหลักประมวลกฎหมายอาญา ก็คือบัตรประชาชนนั้นถูกใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งมีลักษณะเหมือนของกลางในคดีอื่น ๆ เช่น มีดที่ถูกใช้ก่อเหตุฆาตกรรม หรือกรณีของการยึดรถ ที่ถูกนำมาใช้ในการแข่งขันบนถนนหลวง โดยสำหรับบัตรประชาชนนั้น อาจจะถูกใช้ไปเป็นหลักฐาน หากถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงหรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดเป็นต้น
ตำรวจไม่มีอำนาจถ่ายรูปบัตรประชาชน
ส่วนกรณีการขอถ่ายรูปบัตรประชาชน ถือว่าไม่มีกฎหมายระบุเอาไว้ชัดเจน ซึ่งการถ่ายรูปหรือการบันทึกการจับกุมสามารถทำได้ เพียงแต่ว่าต้องเป็นเหตุที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วเท่านั้น ว่าเป็นผู้กระทำความผิดในชั้นจับกุม และได้มีการควบคุมตัว รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐาน หากบัตรนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องในคดีก็สามารถถ่ายรูปบัตรประชาชนของเราไว้เป็นหลักฐานได้ แต่หากเป็นการตรวจค้นธรรมดา ไม่ได้มีเหตุหรือมีการแจ้งความใด ๆ เจ้าหน้าที่จะยังไม่มีอำนาจในการที่จะถ่ายรูปบัตรประชาชนเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามแม้จะมีอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้น หรือขอดู แต่ก็อาจจะขัดกับกฎหมายอื่น ๆ ที่มีอำนาจเป็น พ.ร.บ.เหมือนกัน เช่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล หรือ PDPA เนื่องจากบัตรประชาชนเป็นเอกสารที่ระบุถึงบุคคลเหล่านั้นได้ เป็นข้อมูลที่สามารถบ่งบอกถึงสถานที่อยู่ วัน เดือน ปีเกิด รวมถึงข้อมูลสำคัญอื่น ๆ เช่น เลขประจำตัวประชาชน ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต ก็อาจจะขัดกับข้อกฎหมาย PDPA ได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ข้อมูลหลุดเมื่อไหร่อาจถูกสวมรอย
ในหลายกรณี มีการร้องเรียนว่า สำเนาบัตรประชาชนที่เคยให้ไว้กับบางองค์กร ถูกนำไปใช้เปิดบัญชีธนาคาร สมัครบริการโทรศัพท์มือถือ หรือขอสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง และสร้างความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลโดยตรง ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงช่องโหว่ในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของหลายหน่วยงาน
แนวทางป้องกัน / คำแนะนำสำหรับประชาชน
-
ให้ยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อมีผู้ขอสำเนา / ถ่ายภาพบัตร
-
ถ่ายเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น เบลอส่วนข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง
-
ระบุ วัตถุประสงค์ / ระยะเวลา / ขอบเขตการใช้งาน ของสำเนา (เช่น ใช้สมัครงาน ใช้ภายใน 30 วัน)
-
เก็บรักษาสำเนา / ภาพบัตรให้ปลอดภัย เช่น ตั้งรหัส, เข้ารหัส, ลบข้อมูลเมื่อหมดวัตถุประสงค์
-
หากถูกยึดบัตรโดยไม่มีเหตุสมควร ให้ร้องเรียน / ดำเนินการทางกฎหมาย
แม้ปัจจุบันยังมีความเข้าใจผิดอยู่มากเกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูล แต่กฎหมาย PDPA ได้เปิดช่องให้ประชาชนสามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองได้มากขึ้น และมีสิทธิร้องเรียน หรือเรียกร้องค่าชดเชยหากพบว่าข้อมูลของตนถูกนำไปใช้โดยไม่ชอบ
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่ใช่เพียงแค่การรู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ แต่คือการมี “สติ” ทุกครั้งที่ถูกขอข้อมูลส่วนตัว และกล้าที่จะตั้งคำถาม รวมถึงปฏิเสธหากเห็นว่าการร้องขอนั้นเกินสมควรหรือไม่มีเหตุผลเพียงพอ