โบท็อกซ์คืออะไร และทำงานอย่างไร?
โบท็อกซ์คือสารสกัดจาก Botulinum Toxin ซึ่งออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะยับยั้งการสื่อสารระหว่างเส้นประสาทกับกล้ามเนื้อ ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวและรอยย่นลดลง โดยปกติเมื่อเราขยับกล้ามเนื้อ เช่น ขมวดคิ้ว เส้นประสาทจะส่งสัญญาณให้กล้ามเนื้อหดตัว แต่โบท็อกซ์จะทำให้การสื่อสารนี้ไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้กล้ามเนื้อไม่หดตัว ผิวจึงดูเรียบเนียนขึ้น จุดสำคัญคือ โบท็อกซ์ไม่ได้ทำให้เซลล์ตาย และฤทธิ์ของมันไม่ได้ถาวร โดยผลลัพธ์จะอยู่ประมาณ 3 – 6 เดือน จากนั้นกล้ามเนื้อจะกลับมาทำงานตามปกติได้เหมือนเดิม
โบท็อกซ์ทำให้หน้าเหี่ยวจริงหรือไม่
หลายคนอาจเคยได้ยินว่าฉีดโบท็อกซ์แล้วหน้าเหี่ยวหรือหน้าจะแข็งจนขยับไม่ได้ ซึ่งในความเป็นจริง อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเฉพาะเมื่อฉีดผิดตำแหน่งหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น อาการที่อาจพบได้ เช่น คิ้วตก ปากตก หน้าดูแข็ง หรือมีการกระจายของตัวยาในจุดที่ไม่ต้องการ ดังนั้น ความปลอดภัยของการฉีดโบท็อกซ์จึงขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์และการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น
โบท็อกซ์ทำให้เซลล์ตายหรือไม่
ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลว่าโบท็อกซ์จะทำให้เซลล์ตาย แพทย์ผิวหนังยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะโบท็อกซ์ทำงานในระดับ “สารสื่อประสาท” ไม่ได้ทำลายเซลล์โดยตรง งานวิจัยของทีม ศ. ดร. พญ.รังสิมา ในปี 2019 ยังพบว่า โบท็อกซ์ไม่ทำให้เซลล์ตาย แต่กลับกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวดูเรียบเนียนและกระชับมากกว่าเดิม

ศ. ดร. พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา ตัวแทนสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย
“ดื้อโบ” คืออะไร?
สำหรับใครที่สงสัยเรื่อง “ดื้อโบ” หรือภาวะที่ร่างกายตอบสนองต่อโบท็อกซ์น้อยลง เช่น จากที่เคยอยู่ได้นาน 6 เดือนเหลือเพียง 2–3 เดือน หรือไม่เห็นผลเลย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการฉีดบ่อยเกินไป (ถี่กว่า 3 เดือนต่อครั้ง) การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มทำให้ดื้อได้ง่าย หรือการเปลี่ยนยี่ห้อไปมาโดยไม่จำเป็น หากพบว่าผลลัพธ์ของโบท็อกซ์ลดลง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและปรับแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม
ข้อควรระวังหลังฉีดโบท็อกซ์
หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานและลดความเสี่ยงจากอาการข้างเคียง โดยควรหลีกเลี่ยงการนอนราบภายใน 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด งดการนวดหรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีด และหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เช่น ซาวน่าหรือแช่น้ำร้อน ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยากระจายไปในจุดที่ไม่ต้องการ
ศ. ดร. พญ.รังสิมากล่าวทิ้งท้ายอีกว่า โบท็อกซ์ไม่ได้ทำให้เซลล์ตาย หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรองจาก อย. ถือว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ความเสี่ยงและผลข้างเคียงมักเกิดจากการฉีดผิดวิธี หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์ตามมาได้
ขอบคุณข้อมูลจาก รายการวันใหม่วาไรตี้