อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความนิยมของโครงการ ก็มีมิจฉาชีพฉวยโอกาสสร้างช่องทางหลอกลวงประชาชน โดยใช้ชื่อโครงการเป็นเครื่องมือในการล่อลวงผู้เสียหาย โดยพบว่าระหว่างช่วงเปิดลงทะเบียน มีการสร้าง แอปพลิเคชันปลอมชื่อ “คนละครึ่งพลัส คู่มือรับสิทธิ์” ออกมาหลอกประชาชนให้ดาวน์โหลด
แอปฯปลอม “คนละครึ่งพลัส คู่มือรับสิทธิ์”
Thai PBS Verify ตรวจสอบพบ แอปฯ ปลอมดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ใน Google Play Store พร้อมตกแต่งให้ดูน่าเชื่อถือ มีการใช้ชื่อ โลโก้ และคำอธิบายคล้ายกับของจริง อีกทั้งยังมี คะแนนรีวิวเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.7 – 4.9 ดาว และมียอดดาวน์โหลด 100,000 ครั้ง รวมถึงมีผู้ใช้หลายรายเข้ามารีวิวว่าแอปฯ นี้ในเชิงบวก เช่น “โหลดง่าย” “ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริง” ซึ่งสร้างความสับสนให้กับประชาชนจำนวนมาก
คอมเมนต์โหลดแอปฯ คนละครึ่งพลัส คู่มือรับสิทธิ์
ดีอีเอสเตือน! ระวังลิงก์ปลอม “คนละครึ่งพลัส” ย้ำลงทะเบียนผ่าน “เป๋าตัง” เท่านั้น
นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และโฆษกกระทรวงดีอี เปิดเผยว่า สำหรับช่องทางการลงทะเบียนรับสิทธิ์ในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่ถูกต้อง ประชาชนผู้มีสิทธิ์ จะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประชาชน อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป โดยสามารถลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.ดาวน์โหลดและติดตั้ง แอปพลิเคชัน เป๋าตัง” ผ่าน App Store หรือ Google Play (รองรับ Android 9.0+ และ iOS 15.0+)
2.เปิดแอปฯ และยินยอมการจัดการข้อมูล
3.เตรียมบัตรประชาชน ถ่ายรูปบัตร กรอกเบอร์มือถือรับรหัส OTP
4.ยืนยันตัวตนได้ 2 วิธี คือ
– Krungthai NEXT : เข้าสู่ระบบ กรอกรหัส รับ OTP ตั้ง PIN
– สแกนใบหน้า : สแกนหน้า ตั้ง PIN เปิดใช้งาน Face/Touch ID
5.ยอมรับเงื่อนไขการใช้งาน รอระบบตรวจสอบ หากสำเร็จจะแสดงการ์ด G-Wallet บนหน้าจอ
นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และโฆษกกระทรวงดีอี
กรณีที่ประชาชนลงทะเบียนสำเร็จ จะได้รับข้อความดังนี้
– ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัส จำนวน 2,000 บาท เริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 29 ต.ค. 68 (สำหรับผู้ที่ไม่อยู่ในระบบภาษี)
– ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัส จำนวน 2,400 บาท เริ่มใช้สิทธิได้วันที่ 29 ต.ค. 68 (สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี)
กรณีผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” มาก่อน จะขึ้นข้อความ “กำลังรอผลการลงทะเบียน ระบบจะแจ้งผลผ่านการแจ้งเตือนของแอปฯ เป๋าตัง หรือ SMS ภายใน 3 วัน”
ภาพจาก อินโฟกราฟฟิก มัดรวม! วิธีอัปเดตและลงทะเบียนแอปฯ “เป๋าตัง” ก่อนรับสิทธิ “คนละครึ่งพลัส”
ในกรณีของประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิ จะขึ้นข้อความดังนี้
– ไม่สามารถลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสได้ (อายุต่ำกว่า 16 ปี บริบรูณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน)
– คุณได้รับสิทธิเพิ่มวงเงินจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว จึงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสได้
– ไม่สามารถลงทะเบียนคนละครึ่งพลัสได้
“กระทรวงดีอี ขอให้ประชาชนลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ผ่าน แอปฯ “เป๋าตัง” ที่สามารถดาวน์โหลดจาก App Store หรือ Google Play ซึ่งถือเป็นช่องทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น ไม่ควรกดลิงก์ หรือสแกน QR Code ที่ปรากฏข้อความชักชวนให้ลงทะเบียน ซึ่งมีการส่งต่อกัน จากแหล่งที่มาไม่แน่ชัด โดยอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้” นางสาวสุชาดา กล่าว
หากประชาชน พบข่าวน่าสงสัย ข้อมูลบิดเบือน สามารถแจ้งเบาะแส และตรวจสอบข่าวปลอมได้ที่ โทรสายด่วน 1111 ต่อ 87 (24 ชม.) หรือที่ เว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com
CIB เตือน! มิจฉาชีพแอบอ้าง “คนละครึ่งพลัส” หลอกดูดเงินผ่านลิงก์ – โซเชียล
ด้าน พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.) ได้ให้สัมภาษณ์กับ Thai PBS Verify ถึงการสังเกตแอปฯ ปลอม พร้อมออกมาแนะนำและเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงในช่วงที่มีการเปิดลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่งพลัส”
พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.)
พ.ต.อ.เนติ ระบุว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบคือ ประชาชนหลงเชื่อช่องทางปลอมในการลงทะเบียน โดยอยากให้ประชาชนเข้าใช้เฉพาะช่องทางที่รัฐบาลประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการเท่านั้น คือ แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าแก๊งคอลเซนเตอร์หรือ “สแกมเมอร์” มักใช้จังหวะช่วงโครงการรัฐเปิดลงทะเบียน เข้ามาหลอกลวงประชาชน โดยพฤติกรรมหลอกลวงในกรณี “คนละครึ่งพลัส” พบได้ 3 รูปแบบหลัก ได้แก่
- การส่งข้อความ (SMS) อ้างว่าเป็นการช่วยเหลือในการลงทะเบียนเพื่อความรวดเร็ว พร้อมแนบลิงก์ให้กดเข้าไป เมื่อผู้ใช้กดลิงก์ดังกล่าว มักนำไปสู่การดูดเงินจากบัญชี
- การโทรศัพท์จากหมายเลขแปลกปลอม อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ติดต่อพูดคุยกับประชาชน จากนั้นจะชวนแลกไลน์ โดยใช้บัญชีไลน์ปลอมที่มีโลโก้หรือรูปภาพคล้ายแอปฯ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง และอาจหลอกให้โอนเงินในที่สุด
- การโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook Instagram หรือ TikTok โดยทำทีเป็นเพจหรือบัญชีที่ช่วยเหลือประชาชนในการลงทะเบียน ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นช่องทางของมิจฉาชีพ
พ.ต.อ.เนติ ย้ำว่า “หากต้องการลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ให้ทำผ่านช่องทาง แอปฯ เป๋าตัง เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวและเงินในบัญชี”
ในกรณีที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อ ให้รีบโทรแจ้งที่ สายด่วน AOC 1441 ซึ่งเป็นศูนย์กลางรับแจ้งเหตุอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอายัดบัญชีหรือเงินที่ถูกหลอกได้อย่างทันท่วงที
