Loading...

แชร์

Copied!

โพสต์เฟซบุ๊กอ้างสื่อแชร์คำพูด “กัน จอมพลัง” ถูก “ปูติน” ชื่นชมผ่าน BBC แท้จริงอ้างโลโก้-บิดเบือนข้อความ

24 ต.ค. 6821:00 น.
การเมือง#ข่าวบิดเบือน
โพสต์เฟซบุ๊กอ้างสื่อแชร์คำพูด “กัน จอมพลัง” ถูก “ปูติน” ชื่นชมผ่าน BBC แท้จริงอ้างโลโก้-บิดเบือนข้อความ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพแอบอ้างสื่อดัง พร้อมคำอ้าง "กัน จอมพลัง" ถูก "ปูติน" ยกย่องผ่าน BBC ตรวจสอบแล้วเป็นเพียงข่าวปลอม พบบางส่วนหลงเชื่อ

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : Facebook

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์อ้างข่าวสด เผยแพร่โควตคำพูดของ “กัน จอมพลัง”ก จากข่าวสด

ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ไมตรี นั่นนายใช่ไหม” โพสต์ภาพของ “กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก” พร้อมข้อความระบุว่า “ผมรักประเทศไทยเพราะนี่คือบ้านของผม ผมไม่เคยโดน 112 เหมือนคุณไอซ์ ทุกวันนี้ผมไปไหนมีแต่คนรัก ทุกที่ที่ผมไปเจริญขึ้น มีแต่คนร้องไห้ดีใจเมื่อเห็นผม ล่าสุดปูตินเอ่ยปากชมผมผ่าน BBC แต่สส.พรรคส้มเคยทำอะไรให้ประเทศบ้างไหม หรือด้อยค่าไปวัน ๆ กัน จอมพลัง” พร้อมระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นช่วงการตอบโต้กันของ “กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก” โดยระบุที่มาของภาพดังกล่าวว่ามาจาก ข่าวสด

โควตคำพูดที่ไม่มีอยู่จริง

Thai PBS Verify ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวด้วย Google Lens พบว่า ภาพข่าวดังกล่าวเป็นการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “กรรมกรข่าวคุยนอกจอ” ซึ่งได้มีการเชิญ “กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก” มาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสด เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงภาพรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ซึ่งเป็นช่วงการพูดคุยของ “กัน จอมพลัง” กับ “ไอซ์ รักชนก” เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68

อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบเนื้อหาที่มีการใช้สัมภาษณ์กว่า 2 ชั่วโมง 19 นาที ไม่พบว่า “กัน จอมพลัง” ได้เอ่ยถึง “ปูติน” ไว้ในช่วงที่เขาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ปรับข้อความ แอบอ้างโลโก้สื่อสร้างข่าวปลอม

ส่วนข้อความที่อ้างว่าภาพดังกล่าวมาจาก “ข่าวสด” นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ภาพข่าวดังกล่าวถูกนำมาจากโพสต์ของข่าวสด ที่เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า

น้ำเสียงคุณกันเปลี่ยนไป
“น้ำเสียงคุณกันในวันนั้น รับบทมือปราบมาร ปราบทุกคนที่เข้าข้างเขมร แล้วพร้อมถล่มทุกคนที่พูดไม่เข้าหู หรือพูดไม่ถูกใจเอฟซี แต่วันนี้น้ำเสียงของคุณกันเปลี่ยนไป กระแสสังคมอาจไม่ให้คุณกันขี่ไปได้ตลอด ไปทำร้ายคนอื่นได้ตลอด คุณกันเลยคิดว่าต้องเปลี่ยนน้ำเสียง เลยมาเล่นบทพ่อพระที่ถูกกระทำ ดิฉันเห็นใจคุณกันเป็นอย่างยิ่ง ที่ถูกตั้งคำถามอย่างหนักมาก ขอส่งกำลังใจให้จริงๆ”
#ไอซ์รักชนก พูดถึง #กันจอมพลัง

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงภาพของข่าวสด ซึ่งไม่มีข้อความตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด

ขณะที่ภายในภาพมีข้อความระบุว่า “น้ำเสียงคุณกันในวันนั้น รับบทมือปราบมาร แต่วันนี้น้ำเสียงคุณกันเปลี่ยนไป พอดีกระแสสังคมอาจไม่ให้คุณกันขี่ไปตลอด คุณกันเลยคิดว่าต้องเปลี่ยนน้ำเสียง วันนี้เลยมาเล่นบทพ่อพระที่ถูกกระทำ” ซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาตามที่ถูกระบุไว้แต่อย่างใด

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์ปลอม (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ ภาพจากโพสต์ของข่าวสด (ขวา)

ข้อมูลปลอม สร้างข่าวปลอม

ขณะที่ข้อความที่มีการกล่าวอ้างถึง BBC นั้น จากการตรวจสอบแท็กข่าวของเว็บไซต์ดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ไม่พบว่ามีการนำเสนอข่าวเรื่องของ ปูติน ที่ออกแถลงการณ์ ผ่าน BBC เกี่ยวกับการยกย่อง กัน จอมพลัง ในช่วงเดือนนี้หรือก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงผลการค้นหาแท็กข่าวที่เกี่ยวข้องกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งไม่พบข่าวที่เกี่ยวข้องกับ กัน จอมพลัง ในข่าวของ BBC แต่อย่างใด

ข่าวปลอมดาบสองคม พร้อมทำลายทุกฝ่าย 

สิ่งที่พบจากข่าวดังกล่าวคือการใช้ภาพจริง แต่ใช้คำพูด หรือเนื้อหาที่ปลอม และการที่แคปชันที่ถูกทำขึ้นมานั้น มีการนำมาเขียนโดยพาดพิงกรณี 112 ซึ่งถือเป็นกรณีที่ Sensitive ของเมืองไทย และถือว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเกลียดชัง รวมไปถึงโหนกระแสความรักชาติ โดยใช้ข้ออ้างในเรื่องของกรณี 112 มาลงดาบ ซึ่งแน่นอนว่า มีกลุ่มฐานเสียงที่พร้อมที่จะเชื่อเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นการโพสต์ในลักษณะนี้ จึงถือเป็นอันตรายกับทั้งสองคน ได้แก่ ตัวของ “รักชนก” ที่อาจจะมีกระแสความเกลียดชัง เนื่องจากข้อกล่าวอ้าง 112 ขณะที่กับ “กัน จอมพลัง” แม้เจ้าตัวจะไม่ได้พูดก็ตาม แต่คำพูดดังกล่าวจะกลายเป็น “กัน จอมพลัง” มีการโหนสถาบัน ซึ่งก็เป็นอันตรายเช่นเดียวกันกับตัวของ “กัน จอมพลัง” ดังนั้น Content นี้ถือเป็น Content ที่ปลอมและสร้างให้เกิดอารมณ์ร่วม ในการจูงใจให้เกิดความแตกแยก โดยใช้ 112 เป็นตัวลงดาบคน ซึ่งถือเป็นการลงดาบคนทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน

รศ.พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล

รศ.พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล นักวิจัยประจำสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ขณะที่ช่องทางในการโพสต์ก็ถือไปอีกหนึ่งช่องทาง ที่บ่งบอกถึงการรวมกลุ่ม รวมหมู่เหล่า เพื่อที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งกลุ่มลักษณะเหล่านี้ บางครั้งมีผู้ติดตามมากกว่าเพจสาธารณะ และการที่ตั้งเป็นกลุ่มเฉพาะจึงมีความน่ากลัวตรงที่ การโพสต์ต่าง ๆ จะสามารถชักจูงผู้คนในกลุ่มได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นข่าวปลอมก็ตาม เปรียบเสมือนกับห้องเสียงสะท้อนที่มีขนาดใหญ่ ที่ผู้ที่อยู่ในห้องดังกล่าว ไม่มีสิทธิ์ที่จะฟังเรื่องอื่น ๆ เพราะอยู่ในห้องที่มีผู้ที่มีความเชื่อลักษณะเดียวกัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรา 112 ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ ที่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งข่าวจริง หรือข่าวปลอม ในการชักจูงให้เกิดอารมณ์ หรือสร้างความเกลียดชัง ไม่ว่าจะกับผู้ที่ชอบหรือไม่ชอบมาตรานี้ก็ตาม

ที่ผ่านมาเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับการสื่อสารเรื่องของความเกลียดชังที่พบว่ายิ่งคุณรักฝ่ายหนึ่งเท่าไหร่คุณก็จะมีโอกาสเกลียดอีกฝ่ายหนึ่งมากเท่านั้น เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก

กระบวนการตรวจสอบ

  • ตรวจสอบแหล่งที่มาของภาพ (Visual Verification):
    • ใช้ Google Lens ค้นหาที่มาของภาพบุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง (“กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก”) พบว่าภาพต้นฉบับมาจากรายการสัมภาษณ์สด “กรรมกรข่าวคุยนอกจอ” เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68
  • ตรวจสอบการอ้างอิงคำพูด (Quote Verification):
    • ตรวจสอบเนื้อหาการสัมภาษณ์ฉบับเต็ม (ความยาวกว่า 2 ชั่วโมง 19 นาที) ไม่พบ คำพูดที่ถูกโควต โดยเฉพาะประโยคที่อ้างถึง “ปูตินเอ่ยปากชมผมผ่าน BBC”
  • ตรวจสอบการแอบอ้างสื่อ (Source Verification):
    • ตรวจสอบโพสต์ต้นฉบับจากสื่อที่ถูกอ้างถึง (ข่าวสด) ในวันและเวลาที่ใกล้เคียงกัน (20 ต.ค. 68) พบว่าโพสต์ต้นฉบับของข่าวสดมีข้อความที่กล่าวถึงการวิจารณ์ของ ไอซ์ รักชนก ต่อ กัน จอมพลัง แต่ ไม่มี ข้อความตามที่โพสต์ปลอมนำไปกล่าวอ้างแต่อย่างใด
  • ตรวจสอบข้อมูลอ้างอิงจากแหล่งข่าวต่างประเทศ (External Fact Check):
    • ตรวจสอบเว็บไซต์ข่าวของ BBC ที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดี ปูติน แต่ ไม่พบ รายงานข่าวที่ระบุว่าปูตินกล่าวชมเชย “กัน จอมพลัง” ตามที่ถูกอ้างถึง

ผลกระทบของข้อมูลเท็จเหล่านี้

  • สร้างความเข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือ:
    • ต่อบุคคล: ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในเจตนา, คำพูด, และทัศนคติของ “กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก” ซึ่งอาจนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่เป็นธรรม
    • ต่อสื่อ: การแอบอ้าง “ข่าวสด” และ “BBC” ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในสื่อมวลชนที่แท้จริง
  • ขยายความแตกแยกทางการเมือง:
    • ข้อความที่ระบุว่า “ผมไม่เคยโดน 112 เหมือนคุณไอซ์” และ “สส.พรรคส้มเคยทำอะไรให้ประเทศบ้างไหม” มีเจตนาชัดเจนในการ สร้างความขัดแย้งและตอกย้ำความเกลียดชัง ระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนทางการเมืองต่าง ๆ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของผู้สร้าง Fake News ในประเด็นอ่อนไหว
  • สร้างความสับสนในข้อมูลต่างประเทศ:
    • การอ้างถึงบุคคลระดับโลกอย่าง ปูติน และสำนักข่าวระดับโลกอย่าง BBC ทำให้ข่าวปลอมดูมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่งผลให้ผู้รับสารที่ขาดการตรวจสอบหลงเชื่อว่า มีเหตุการณ์ระดับโลกมาเกี่ยวข้องกับประเด็นในประเทศจริง

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงส่วนหนึ่งของผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ดังกล่าว

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

  • หยุดและอย่าแชร์
    • การแชร์ข่าวปลอมทำให้คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ให้ตั้งสติและ ห้ามกดปุ่มแชร์ จนกว่าจะตรวจสอบเสร็จสิ้น
  • ตรวจสอบแหล่งที่มาของภาพและคำพูด
    • ใช้เครื่องมือค้นหาภาพย้อนหลัง เช่น Google Lens เพื่อดูว่าภาพถูกนำไปใช้ที่ไหนบ้าง และมาจากแหล่งที่มาต้นฉบับหรือไม่
    • คัดลอก ข้อความที่ถูกอ้างอิง ไปค้นหาใน Google พร้อมกับชื่อบุคคลที่พูด เพื่อดูว่ามีสื่อที่น่าเชื่อถือรายงานคำพูดนั้นจริงหรือไม่ โดยเฉพาะคำพูดที่ดูเกินจริงหรือสุดโต่ง
  • ตรวจสอบจากช่องทางทางการ
    • ตรวจสอบกับรายการบน YouTube หรือ Facebook และ เลื่อนดูนาทีที่สำคัญ เพื่อหาว่าคำพูดนั้นมีจริงหรือไม่
    • หากมีการอ้างอิงถึงสื่อต่างประเทศ (เช่น BBC) ให้เข้าเว็บไซต์ของสื่อนั้นโดยตรง แล้วค้นหาด้วยคำสำคัญ (ปูติน และ กัน จอมพลัง) เพื่อยืนยันว่ามีรายงานจริงหรือไม่
  • แจ้งรายงาน
    • กดรายงาน (Report) โพสต์ดังกล่าวไปยังแพลตฟอร์ม (Facebook, TikTok, X, ฯลฯ) ว่าเป็น ข้อมูลเท็จ (False Information) หรือ สแปม (Spam) เพื่อให้แพลตฟอร์มลดการมองเห็นและลบโพสต์นั้นออกจากระบบ