Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : Facebook
ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์อ้างข่าวสด เผยแพร่โควตคำพูดของ “กัน จอมพลัง”ก จากข่าวสด
ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ “ไมตรี นั่นนายใช่ไหม” โพสต์ภาพของ “กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก” พร้อมข้อความระบุว่า “ผมรักประเทศไทยเพราะนี่คือบ้านของผม ผมไม่เคยโดน 112 เหมือนคุณไอซ์ ทุกวันนี้ผมไปไหนมีแต่คนรัก ทุกที่ที่ผมไปเจริญขึ้น มีแต่คนร้องไห้ดีใจเมื่อเห็นผม ล่าสุดปูตินเอ่ยปากชมผมผ่าน BBC แต่สส.พรรคส้มเคยทำอะไรให้ประเทศบ้างไหม หรือด้อยค่าไปวัน ๆ กัน จอมพลัง” พร้อมระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นช่วงการตอบโต้กันของ “กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก” โดยระบุที่มาของภาพดังกล่าวว่ามาจาก ข่าวสด
โควตคำพูดที่ไม่มีอยู่จริง
Thai PBS Verify ตรวจสอบโพสต์ดังกล่าวด้วย Google Lens พบว่า ภาพข่าวดังกล่าวเป็นการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “กรรมกรข่าวคุยนอกจอ” ซึ่งได้มีการเชิญ “กัน จอมพลัง” และ “ไอซ์ รักชนก” มาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสด เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68
ภาพบันทึกหน้าจอแสดงภาพรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ซึ่งเป็นช่วงการพูดคุยของ “กัน จอมพลัง” กับ “ไอซ์ รักชนก” เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68
อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจสอบเนื้อหาที่มีการใช้สัมภาษณ์กว่า 2 ชั่วโมง 19 นาที ไม่พบว่า “กัน จอมพลัง” ได้เอ่ยถึง “ปูติน” ไว้ในช่วงที่เขาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ปรับข้อความ แอบอ้างโลโก้สื่อสร้างข่าวปลอม
ส่วนข้อความที่อ้างว่าภาพดังกล่าวมาจาก “ข่าวสด” นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ภาพข่าวดังกล่าวถูกนำมาจากโพสต์ของข่าวสด ที่เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า
ภาพบันทึกหน้าจอแสดงภาพของข่าวสด ซึ่งไม่มีข้อความตามที่ถูกกล่าวอ้างแต่อย่างใด
ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์ปลอม (ซ้าย) เปรียบเทียบกับ ภาพจากโพสต์ของข่าวสด (ขวา)
ข้อมูลปลอม สร้างข่าวปลอม
ขณะที่ข้อความที่มีการกล่าวอ้างถึง BBC นั้น จากการตรวจสอบแท็กข่าวของเว็บไซต์ดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับ ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ไม่พบว่ามีการนำเสนอข่าวเรื่องของ ปูติน ที่ออกแถลงการณ์ ผ่าน BBC เกี่ยวกับการยกย่อง กัน จอมพลัง ในช่วงเดือนนี้หรือก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
ภาพบันทึกหน้าจอแสดงผลการค้นหาแท็กข่าวที่เกี่ยวข้องกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งไม่พบข่าวที่เกี่ยวข้องกับ กัน จอมพลัง ในข่าวของ BBC แต่อย่างใด
ข่าวปลอมดาบสองคม พร้อมทำลายทุกฝ่าย
สิ่งที่พบจากข่าวดังกล่าวคือการใช้ภาพจริง แต่ใช้คำพูด หรือเนื้อหาที่ปลอม และการที่แคปชันที่ถูกทำขึ้นมานั้น มีการนำมาเขียนโดยพาดพิงกรณี 112 ซึ่งถือเป็นกรณีที่ Sensitive ของเมืองไทย และถือว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเกลียดชัง รวมไปถึงโหนกระแสความรักชาติ โดยใช้ข้ออ้างในเรื่องของกรณี 112 มาลงดาบ ซึ่งแน่นอนว่า มีกลุ่มฐานเสียงที่พร้อมที่จะเชื่อเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นการโพสต์ในลักษณะนี้ จึงถือเป็นอันตรายกับทั้งสองคน ได้แก่ ตัวของ “รักชนก” ที่อาจจะมีกระแสความเกลียดชัง เนื่องจากข้อกล่าวอ้าง 112 ขณะที่กับ “กัน จอมพลัง” แม้เจ้าตัวจะไม่ได้พูดก็ตาม แต่คำพูดดังกล่าวจะกลายเป็น “กัน จอมพลัง” มีการโหนสถาบัน ซึ่งก็เป็นอันตรายเช่นเดียวกันกับตัวของ “กัน จอมพลัง” ดังนั้น Content นี้ถือเป็น Content ที่ปลอมและสร้างให้เกิดอารมณ์ร่วม ในการจูงใจให้เกิดความแตกแยก โดยใช้ 112 เป็นตัวลงดาบคน ซึ่งถือเป็นการลงดาบคนทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน
รศ.พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล นักวิจัยประจำสถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ขณะที่ช่องทางในการโพสต์ก็ถือไปอีกหนึ่งช่องทาง ที่บ่งบอกถึงการรวมกลุ่ม รวมหมู่เหล่า เพื่อที่จะเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งกลุ่มลักษณะเหล่านี้ บางครั้งมีผู้ติดตามมากกว่าเพจสาธารณะ และการที่ตั้งเป็นกลุ่มเฉพาะจึงมีความน่ากลัวตรงที่ การโพสต์ต่าง ๆ จะสามารถชักจูงผู้คนในกลุ่มได้โดยง่าย ไม่ว่าจะเป็นข่าวปลอมก็ตาม เปรียบเสมือนกับห้องเสียงสะท้อนที่มีขนาดใหญ่ ที่ผู้ที่อยู่ในห้องดังกล่าว ไม่มีสิทธิ์ที่จะฟังเรื่องอื่น ๆ เพราะอยู่ในห้องที่มีผู้ที่มีความเชื่อลักษณะเดียวกัน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรา 112 ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ ที่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งข่าวจริง หรือข่าวปลอม ในการชักจูงให้เกิดอารมณ์ หรือสร้างความเกลียดชัง ไม่ว่าจะกับผู้ที่ชอบหรือไม่ชอบมาตรานี้ก็ตาม
ที่ผ่านมาเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับการสื่อสารเรื่องของความเกลียดชังที่พบว่ายิ่งคุณรักฝ่ายหนึ่งเท่าไหร่คุณก็จะมีโอกาสเกลียดอีกฝ่ายหนึ่งมากเท่านั้น เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึก





