ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ใครจะเป็น "โป๊ป" องค์ต่อไป ? 13 คาร์ดินัล ผู้นำคนใหม่แห่งวาติกัน

ต่างประเทศ
15:08
3,702
ใครจะเป็น "โป๊ป" องค์ต่อไป ? 13 คาร์ดินัล ผู้นำคนใหม่แห่งวาติกัน
อ่านให้ฟัง
18:25อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การเลือกตั้งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่กำลังเป็นที่จับตาทั่วโลก ด้วยการปฏิรูปของโป๊ปฟรานซิสที่ทำให้คณะคาร์ดินัลมีความหลากหลายมากขึ้น ผู้สมัครจากเอเชีย แอฟริกา และยุโรปต่างมีคุณสมบัติโดดเด่น ท่ามกลางคำถามสำคัญว่า ผู้นำคนต่อไปจะนำพาคริสตจักรไปในทิศทางใด ?

วันนี้ (22 เม.ย.2568) CNN รายงาน การเลือกตั้งสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ในโบสถ์น้อยซิสทีนเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทรงพลังและลึกลับที่สุดในโลกศาสนา คำกล่าวโบราณที่ว่า "ผู้ที่เข้าสู่การประชุมในฐานะพระสันตะปาปา มักออกมาในฐานะคาร์ดินัล" สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของกระบวนการนี้

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเลือกตั้งในปี 2556 เมื่อ คาร์ดินัล จอร์จ แบร์โกกลิโอ จากอาร์เจนตินา ได้รับเลือกเป็น "สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส" แทน คาร์ดินัล อันเจโล สโกลา แห่งมิลาน ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเต็งจนถึงวินาทีสุดท้าย

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงปฏิรูปคณะคาร์ดินัลผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างลึกซึ้ง โดยทรงแต่งตั้งคาร์ดินัลจากภูมิภาคที่ไม่เคยมีตัวแทนในอดีต เช่น ตองกา เฮติ และ ปาปัวนิวกินี การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้คณะคาร์ดินัลมีความหลากหลายมากขึ้น สะท้อนถึงความเป็นสากลของคริสตจักรคาทอลิกที่มีสมาชิกกว่า 1,400 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ความหลากหลายนี้ทำให้การคาดเดาผลการเลือกตั้งยากยิ่งขึ้น เนื่องจากคาร์ดินัลจากนอกยุโรปอาจมีมุมมองที่แตกต่างจากระบบโรมันแบบดั้งเดิม

13 คาร์ดินัลเหมาะสมตำแหน่ง "สมเด็จพระสันตะปาปา"

คาร์ดินัลที่ถูกจับตามองในฐานะ "ปาปาบิเล" (Papabile) หรือผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็น "สมเด็จพระสันตะปาปา" ต่างมีประสบการณ์และบุคลิกที่โดดเด่น แต่ละคนนำเสนอวิสัยทัศน์ที่อาจกำหนดอนาคตของคริสตจักรในทิศทางที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. คาร์ดินัล ปิเอโตร ปาโรลิน อายุ 70 ปี จากอิตาลี
เลขาธิการแห่งรัฐวาติกัน เกิดในแคว้นเวเนโต ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นนักการทูตที่เปี่ยมประสบการณ์ ดำรงตำแหน่งผู้บริหารอันดับ 2 ของวาติกันตั้งแต่ปี 2556 เคยเป็นตัวแทนของวาติกันในเวเนซุเอลา และมีส่วนร่วมในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพของโคลอมเบียในปี 2559

ปาโรลินเป็นผู้นำการเจรจาทางการทูตที่สำคัญ เช่น ข้อตกลงกับจีนเกี่ยวกับการแต่งตั้งบิชอป และการสร้างความสัมพันธ์กับเวียดนาม ความรู้ลึกซึ้งเกี่ยวกับคริสตจักรโลกและทักษะการบริหารทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง ความสุขุมรอบคอบและความสามารถในการประสานงานระหว่างกลุ่มต่าง ๆ ในคริสตจักรเป็นจุดเด่นของเขา

แม้จะสนับสนุนการปฏิรูปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส แต่เขามีแนวทางที่ระมัดระวังและอนุรักษนิยมกว่า อย่างไรก็ตาม การต่อต้านนโยบายของสหรัฐฯ ในบางประเด็น เช่น แผนสันติภาพกาซาของ ปธน.ทรัมป์ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งหากได้รับเลือก โอกาสในการได้รับเลือกของเขาถือว่าสูงมาก เนื่องจากประสบการณ์และความสามารถในการรวมกลุ่มคาร์ดินัลที่หลากหลาย

2. คาร์ดินัล มัตเตโอ ซุปปิ อายุ 69 ปี จากอิตาลี

เกิดในกรุงโรม เป็นสมาชิกของกลุ่มซานต์เอจิดิโอ องค์กรคาทอลิกที่มุ่งเน้นด้านมนุษยธรรม มีบทบาทสำคัญในการเจรจาสันติภาพในโมซัมบิกในปี 2535 และได้รับมอบหมายจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสให้เป็นผู้นำภารกิจสันติภาพในยูเครนในปี 2566

ซุปปิเป็นที่รู้จักจากความเรียบง่าย เช่น การขี่จักรยานในโบโลญญา และการเข้าถึงชุมชน LGBTQ+ ความสามารถในการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างกลุ่มต่าง ๆ และความมุ่งมั่นต่อสันติภาพและความยุติธรรมทำให้เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่คาร์ดินัลที่สนับสนุนการปฏิรูป

อย่างไรก็ตาม การขาดประสบการณ์ในระดับบริหารของวาติกันอาจเป็นข้อจำกัดเมื่อเทียบกับคาร์ดินัลปาโรลิน โอกาสในการได้รับเลือกของเขาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะหากคาร์ดินัลต้องการผู้นำที่เน้นความเมตตาและการเจรจา

3. คาร์ดินัล หลุยส์ อันโตนิโอ ตาเกิล อายุ 67 ปี จากฟิลิปปินส์

หัวหน้าสำนักเผยแพร่ศาสนาของวาติกัน เกิดในฟิลิปปินส์ ได้รับฉายาว่า "ฟรานซิสแห่งเอเชีย" เนื่องจากความถ่อมตนและความใกล้ชิดกับวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เขาเคยเป็นหัวหน้าองค์กรการกุศลระดับโลกของคริสตจักร (Caritas Internationalis) และทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำคริสตจักรในประเทศกำลังพัฒนา ความสามารถในการสื่อสารที่ดึงดูดใจและการเป็นตัวแทนของคริสตจักรที่กำลังเติบโตในเอเชียเป็นจุดเด่น

การได้รับเลือกจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีสมเด็จพระสันตะปาปาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม มีคำวิจารณ์เกี่ยวกับทักษะการบริหาร หลังจากการปรับโครงสร้างองค์กร Caritas ทำให้ตาเกิลลาออกจากตำแหน่งประธาน โอกาสในการได้รับเลือกสูงมาก เนื่องจากความนิยมและการเป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักรสากล

4. คาร์ดินัล ปาโบล วิร์จิลิโอ ซิอองโก เดวิด อายุ 66 ปี จากฟิลิปปินส์

มีชื่อเล่นว่า "อัมโบ" เป็นผู้นำที่กล้าเผชิญหน้ากับความอยุติธรรม โดยเฉพาะในช่วงการปราบปรามยาเสพติดของ อดีต ปธน.โรดริโก ดูแตร์เต ซึ่งทำให้เดวิดเผชิญภัยคุกคามถึงชีวิต เขาเป็นผู้นำสภาบิชอปแห่งฟิลิปปินส์ และได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปคริสตจักรในปี 2567 เดวิดเน้นวิสัยทัศน์ของคริสตจักรที่ "ครอบคลุม" และเป็น "โรงพยาบาลสนาม"

ความกล้าหาญและความมุ่งมั่นต่อความยุติธรรมทำให้เขาเป็นที่เคารพในหมู่คาร์ดินัลและชุมชนท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม การขาดประสบการณ์ในระดับวาติกันอาจเป็นข้อจำกัด โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง หากคาร์ดินัลต้องการผู้นำจากเอเชียที่มีจุดยืนชัดเจนด้านความยุติธรรม

5. คาร์ดินัล เจอรัลด์ ไซเปรียน ลาครัวซ์ อายุ 67 ปี จากแคนาดา
อาร์ชบิชอปแห่งควิเบก เป็นผู้นำคริสตจักรในสังคมที่มีอัตราฆราวาสสูง เขาเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาของสมเด็จพระสันตะปาปา และมีความสามารถในการบริหารพร้อมความอ่อนไหวต่อความต้องการของชุมชนท้องถิ่น ลาครัวซ์เน้นคริสตจักรที่มีจิตวิญญาณแห่งการเผยแพร่ศาสนา ประสบการณ์ในสังคมฆราวาสทำให้เข้าใจความท้าทายของคริสตจักรในโลกสมัยใหม่

อย่างไรก็ตาม ลาครัวซ์เคยเผชิญข้อกล่าวหาการล่วงละเมิดในทศวรรษ 1980 แต่การสืบสวนของวาติกันยืนยันว่าไม่มีมูล ข้อกล่าวหานี้อาจยังคงส่งผลต่อการพิจารณาของคาร์ดินัลบางคน แต่ผลการสืบสวนที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์อาจช่วยลดข้อกังวล โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลาง

6. คาร์ดินัล ฟริดอลิน อัมบองโก เบซุงกู อายุ 65 ปี จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
อาร์ชบิชอปแห่งกินชาซา สมาชิกคณะฟรานซิสกันคาปูชิน ดูแลคริสตจักรที่มีสมาชิกกว่า 7,000,000 คน เป็นผู้นำที่มีอิทธิพลด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย กล้าต่อสู้กับการทุจริตและอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธในคองโก การเป็นตัวแทนของคริสตจักรที่กำลังเติบโตในแอฟริกาทำให้เบซุงกูเป็นสัญลักษณ์ของอนาคตคริสตจักร

อย่างไรก็ตาม เขามีจุดยืนอนุรักษนิยมในบางประเด็น เช่น การต่อต้านการอวยพรคู่รักเพศเดียวกัน ซึ่งอาจขัดแย้งกับกลุ่มก้าวหน้า โอกาสในการได้รับเลือกของเขาค่อนข้างสูง หากคาร์ดินัลต้องการผู้นำจากแอฟริกาที่มีอิทธิพลทางศีลธรรม

7. คาร์ดินัล โจเซฟ โทบิน อายุ 72 ปี จากสหรัฐอเมริกา
อาร์ชบิชอปแห่งนวร์ก สมาชิกคณะเรเดมป์ตอริสต์ ซึ่งมุ่งเน้นการช่วยเหลือคนยากจน เคยทำงานในวาติกันและเป็นผู้นำคณะมิชชันนารีในกว่า 80 ประเทศ โทบินพูดได้หลายภาษา สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส อิตาลี และเป็นนักเคลื่อนไหวด้านผู้อพยพ เคยท้าทายนโยบายห้ามรับผู้อพยพชาวซีเรียในรัฐอินเดียนา ความเป็นผู้นำที่เข้าถึงง่ายและประสบการณ์สากลทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งจากสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม การเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาจากสหรัฐฯ อาจถูกมองว่ามีอิทธิพลทางการเมืองมากเกินไป โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับการยอมรับจากคาร์ดินัลนอกสหรัฐฯ

8. คาร์ดินัล โรเบิร์ต เพรโวสต์ อายุ 69 ปี จากสหรัฐอเมริกา
หัวหน้าสำนักบิชอปของวาติกัน เกิดในชิคาโก สหรัฐอเมริกา เป็นสมาชิกคณะออกัสตินียน เขาเคยทำงานในเปรูเป็นเวลานานและเป็นบิชอปแห่งชิกายาโย เพรโวสต์ดูแลการแต่งตั้งบิชอปทั่วโลก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอิทธิพลสูงในวาติกัน ประสบการณ์ในเปรูช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการเลือกผู้นำจากสหรัฐฯ และความสามารถในการบริหารทำให้เขาเป็นที่ยอมรับ

อย่างไรก็ตาม เขาขาดความโดดเด่นในระดับสากลเมื่อเทียบกับคาร์ดินัลที่มีชื่อเสียงมากกว่า โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับการเป็นผู้สมัครประนีประนอม

9. คาร์ดินัล ทาร์ซิซิอุส อิซาโอะ คิคูชิ อายุ 66 ปี จากญี่ปุ่น 
อาร์ชบิชอปแห่งโตเกียว เป็นมิชชันนารีที่ทำงานในแอฟริกา รวมถึงกานาและการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากรวันดาในปี 2537 เขาเป็นผู้นำองค์กรการกุศล Caritas Internationalis ตั้งแต่ปี 2546 และเป็นผู้นำสภาบิชอปญี่ปุ่น คิคูชิมีจุดยืนต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ ความหลากหลายของประสบการณ์และการสนับสนุนการปฏิรูปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทำให้เขาเป็นตัวแทนที่น่าสนใจจากเอเชีย

อย่างไรก็ตาม คริสตจักรญี่ปุ่นมีขนาดเล็ก ซึ่งอาจจำกัดอิทธิพลของเขาในหมู่คาร์ดินัล โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลาง แต่เป็นสัญลักษณ์ของความหลากหลายในคริสตจักร

10. คาร์ดินัล มิชาเอล เชอร์นี อายุ 78 ปี จากแคนาดา 
หัวหน้าสำนักส่งเสริมการพัฒนามนุษย์ของวาติกัน เกิดในเชโกสโลวาเกียและเติบโตในแคนาดา เป็นสมาชิกคณะเยสุอิต ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในแอฟริกาและลาตินอเมริกา รวมถึงการก่อตั้งสถาบันสิทธิมนุษยชนในเอลซัลวาดอร์และเครือข่ายช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ในแอฟริกา ความมุ่งมั่นต่อความยุติธรรมทางสังคมและประสบการณ์สากลทำให้เขาเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม การเป็นเยสุอิตเช่นเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสอาจทำให้คาร์ดินัลบางคนลังเล โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากอายุที่มากและข้อจำกัดจากคณะเยสุอิต

11. คาร์ดินัล คริสโตบัล โลเปซ โรเมโร อายุ 72 ปี จากโมร็อกโก
อาร์ชบิชอปแห่งราบัต เป็นสมาชิกคณะซาเลเซียน ซึ่งมุ่งเน้นการศึกษาเยาวชน เขาเคยทำงานในปารากวัยและมีประสบการณ์ในโมร็อกโกด้านการเจรจากับศาสนาอิสลาม โลเปซ โรเมโรเน้นว่าคริสตจักรไม่ใช่ "องค์กรตะวันตก" และสนับสนุนการปฏิรูปของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ความเชี่ยวชาญในการเจรจาระหว่างศาสนาและความมุ่งมั่นต่อการรวมทุกคนเป็นจุดเด่นของเขา

อย่างไรก็ตาม คริสตจักรในโมร็อกโกมีขนาดเล็ก ซึ่งอาจลดอิทธิพลของเขา โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลาง

12. คาร์ดินัล ฌอง-โคลด โฮลเลอริช อายุ 66 ปี จากลักเซมเบิร์ก
อาร์ชบิชอปแห่งลักเซมเบิร์ก เป็นเยสุอิตที่ประสานงานการประชุมปฏิรูปคริสตจักร (Synod) 2 ครั้งล่าสุด เขาใช้ชีวิตในญี่ปุ่นหลายปีและพูดได้หลายภาษา รวมถึงภาษาญี่ปุ่น โฮลเลอริชเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสและเคยเป็นประธานกลุ่มบิชอปในสหภาพยุโรป ความสามารถในการบริหารและประสบการณ์สากลทำให้เขาเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม การเป็นเยสุอิตอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับคาร์ดินัลบางคน โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง 

13. คาร์ดินัล เปเตอร์ แอร์เดอ อายุ 72 ปี จากฮังการี 
อาร์ชบิชอปแห่งเอสซ์แตร์กอม-บูดาเปสต์ ฮังการี เป็นนักกฎหมายคริสตจักรที่มีแนวคิดอนุรักษนิยม เขาได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการให้คริสตจักรกลับสู่กฎเกณฑ์ที่เข้มงวด แอร์เดอมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ ปธน.วิกตอร์ ออร์บาน และเคยแสดงจุดยืนต่อต้านการรับผู้อพยพ โดยมองว่าเป็นการค้ามนุษย์ ความชัดเจนในจุดยืนและความรู้ด้านกฎหมายคริสตจักรเป็นจุดเด่นของเขา

อย่างไรก็ตาม การขาดความสามารถในการสื่อสารที่ดึงดูดใจและแนวคิดอนุรักษนิยมอาจจำกัดการสนับสนุนจากกลุ่มก้าวหน้า โอกาสในการได้รับเลือกของเขาอยู่ในระดับปานกลาง ขึ้นอยู่กับความต้องการของคาร์ดินัลในทิศทางอนุรักษนิยม

ปัจจัยพิจารณาคาร์ดินัลผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

  • ทิศทางของคริสตจักร จะสานต่อการปฏิรูปของพระสันตะปาปาฟรานซิสในด้านความเมตตาและการรวมทุกคน หรือหันไปสู่แนวทางอนุรักษนิยม ?
  • การเป็นตัวแทนระดับโลก คริสตจักรที่เติบโตในเอเชียและแอฟริกาอาจผลักดันให้มีผู้นำจากภูมิภาคเหล่านี้ 
  • อายุ การเลือกตั้งครั้งล่าสุดเน้นผู้นำที่มีอายุมาก (พระสันตะปาปาฟรานซิสอายุ 76 ปีเมื่อได้รับเลือก) เพื่อให้มีวาระสั้นลง
  • ความสามารถในการบริหารและการทูต ผู้สมัครอย่างปาโรลินและซุปปิมีประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ความท้าทายระดับโลก

ผู้นำที่คาดไม่ถึง ได้รับเลือกด้วยวิสัยทัศน์แห่งความเมตตา

จากการวิเคราะห์ประวัติศาสตร์คริสตจักร มีหลายกรณีที่สมเด็จพระสันตะปาปาไม่ได้มาจากกลุ่มผู้สมัครที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง ได้แก่

  • สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 1 (ค.ศ.1978) คาร์ดินัล อัลบิโน ลูชานี ไม่ได้อยู่ในรายชื่อปาปาบิเลที่สื่อคาดการณ์ แต่ได้รับเลือกเนื่องจากความถ่อมตนและความเป็นที่รักของคาร์ดินัล
  • สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 (ค.ศ.1978) คาร์ดินัล คาโรล วอยตีวา จากโปแลนด์ เป็นตัวเลือกที่ไม่คาดคิด เนื่องจากเป็นคาร์ดินัลจากนอกอิตาลีครั้งแรกในรอบ 455 ปี
  • สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (ค.ศ. 2013) คาร์ดินัล จอร์จ แบร์โกกลิโอ ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งเมื่อเทียบกับ คาร์ดินัล สโกลา แต่ความเรียบง่ายและวิสัยทัศน์ของท่านชนะใจคาร์ดินัล

กรณีเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งในวาติกันมักมี แสงสว่างแห่งคริสตจักร ผู้ก้าวจากความเงียบสู่บัลลังก์นักบุญเปโตร เนื่องจากคาร์ดินัลอาจแสวงหาผู้สมัครที่สามารถประนีประนอมระหว่างกลุ่มต่าง ๆ หรือนำเสนอวิสัยทัศน์ที่คาดไม่ถึง

การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของคริสตจักรคาทอลิก คาร์ดินัล ตาเกิล จากฟิลิปปินส์มีโอกาสสูงจากความสามารถในการสื่อสารและการเป็นตัวแทนของเอเชีย แต่ข้อกังวลเรื่องการบริหารอาจทำให้ คาร์ดินัล ปาโรลิน หรือ ซุปปิ จากอิตาลีมีน้ำหนักมากขึ้น คาร์ดินัล อัมบองโก จากคองโกก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการผู้นำจากแอฟริกา

ท้ายที่สุด กระบวนการเลือกตั้งในโบสถ์น้อยซิสทีนยังคงเต็มไปด้วยความลึกลับและการตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับการอธิษฐานและการเจรจา สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ต่อไปจะต้องเป็นผู้นำที่สามารถรวมใจผู้ศรัทธาทั่วโลก พร้อมเผชิญความท้าทายแห่งยุคสมัยด้วยความเมตตา ปัญญา และความกล้าหาญ

อ่านข่าวอื่น :

จากบัวโนสไอเรสสู่วาติกัน “โป๊ปฟราสซิส” พระผู้ทรงเปลี่ยนแปลงศาสนจักร

รายนามสมเด็จพระสันตะปาปา 10 พระองค์ล่าสุด แห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก

"วาติกัน" เผย สาเหตุ "โป๊ป ฟรานซิส" สิ้นพระชนม์

12 ปี วาติกันใต้ร่มเงา "พระสันตะปาปาฟรานซิส"