ไม่ต่างจากเรื่องราวในหนัง แต่เป็นเรื่องจริง ยิ่งทางมหาดไทย เจ้าของพื้นที่ ถึงขั้นผู้ว่าฯ ทำหนังสือรายงานปลัดมหาดไทย กล่าวหาดีเอสไอ ลุแก่อำนาจ บุกเข้าบ้านอดีตผู้สมัคร สว. โยไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ไม่ได้แสดงบัตรเป็นเจ้าหน้าที่ ถอดปลั๊กไฟของกล้องวงจรปิด หวังไม่ให้มีการบันทึกภาพและเสียง ทั้งบังคับให้รับสารภาพว่า ได้ทำผิดฮั้วการเลือก สว.จริง อ้างว่าคนอื่นรับสารภาพไปหมดแล้ว
ทั้งยังได้เห็น 4 สว.อำนาจเจริญ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนและขอความเป็นธรรม ต่อ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.ในฐานะประธานกมธ. กิจการองค์กรอิสระ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ วุฒิสภา และร้องถึงนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา กรณีอดีตผู้สมัคร สว.ในอำนาจเจริญ ถูกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเรียกสอบสวนโดยไม่เป็นธรรม มีลักษณะเลือกปฏิบัติ ไม่เป็นกลาง
ทั้งเตรียมส่งเป็นเอกสารเพิ่มเติม ยื่นให้กับป.ป.ช.เรื่องที่ 92 สว. ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการทำหน้าที่ของดีเอสไอไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นคำร้องของ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร กับคณะ ยื่นสอย
ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความเป็นรัฐมนตรี ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธานกรรมการคดีพิเศษ สิ้นสุดลง ซึ่งล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติให้ ให้แก้ไขคำร้องเพิ่มเติมได้ เมื่อ 9 เม.ย.2568
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ยอมรับว่า DSI ลงพื้นที่จริง แต่งหรือไม่แต่งเครื่องแบบสามารถทำได้ แต่ปฏิเสธเรื่องข่มขู่คุกคามพยาน อดีตผู้สมัคร สว.ที่อำนาจเจริญ และไม่ได้มีพฤติการณ์บังคับให้รับสารภาพ และเห็นว่า หนังสือร้องเรียนดังกล่าวเป็นการดิสเครดิต DSI หรือไม่
เรื่องยังบานปลายไปถึงรัฐมนตรียุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรี ที่พูดว่า ดีเอสไอลงไปสืบพยานบุคคลกว่า 10 ปากที่ จ.อำนาจเจริญ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีพยานมากกว่า 300 ปาก แต่ไม่จำเป็นต้องสอบทั้งหมด อ้างว่าพยานที่ถูกสอบให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ทั้งยังระบุว่า โดยหลักการสอบสวนคดีพิเศษ มีกฎหมายมาตรา 22 เมื่อประสานไปยังผู้ว่า ต้องให้ความร่วมมือ หากไม่ร่วมมือจะมีโทษที่เกี่ยวข้องจำคุก 1-10 ปี ตอนนี้ได้ให้อธิบดีดีเอสไอใช้กฎหมายและข้อบังคับนี้แล้ว
เท่ากับเป็นการตอกย้ำถึงอำนาจของดีเอสไอ ที่สามารถลงพื้นที่ไปสอบสวนคดีที่รับเป็นคดีพิเศษได้ และคดีนี้เป็นเรื่องข้อหาอั้งยี่ ที่ดีเอสไอรับทำคดีฮั้วเลือกสว. ควบคู่กับ กกต.ที่ทำคดีเลือกตั้ง โดยระบุข้อกฎหมาย มาตรา 22 พ.ร.บ.คดีพิเศษ 2547 ระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการประสานการปฏิบัติงานป้องกันและปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีพิเศษ ให้ กคพ. มีอำนาจออกข้อบังคับการปฏิบัติหน้าที่ในคดีพิเศษ ระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ พ.ต.อ.ทวี ยังอ้างถึงพยานวัตถุ เทคโนโลยี รวมถึงร่องรอยทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งหากมีจริงตามอ้าง จะเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธ เพราะเป็นการแกะรอยจาก Base Station หรือสถานีฐานโทรศัพท์ เป็นหนึ่งในยุทธวิธีล่าคนร้าย โยงพิกัดที่อยู่จากสัญญาณโทรศัพท์ได้ และเคยถูกนำมาใช้ในหลายคดีที่ผ่านมา
ยังไม่นับหลักฐานสำคัญฯ คือเรื่องเส้นเงิน ที่ว่ากันว่า ดีเอสไอ แกะรอยตามเส้นทางการโอนเงิน ที่มีไปถึงอดีตผู้สมัคร สว.บางคน อาจจะโดยคาดคิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และกลายเป็นเรื่องวัวพันหลัก แกะอย่างไรก็ไม่ออก และอาจเชื่อมโยงไปถึงนักการเมืองบางคนในค่ายการเมืองใหญ่
คดีฮั้วสว.ไม่เพียงถูกมองว่า เป็นศึกใหญ่ระหว่างมหาดไทยกับดีเอสไอเท่านั้น ยังถูกมองว่า น่าจะเป็นสงครามตัวแทนระหว่างพรรคการเมือง หลังจากก่อนหน้านี้ มีความพยายามให้ สว.เปลี่ยนค่ายสีเสื้อ
เพราะ สว.ยังจะมีบทบาทสำคัญกับการให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นกรรมการในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ดังได้เห็นล่าสุด ศ.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี และนายชาตรี อรรจนานันท์ ถูก สว.ตีตกในชั้นวุฒิสภาทั้งคู่ ทั้งที่ผ่านคณะกรรมการสรรหาแล้ว
ยังมีกรรมการในองค์กรอิสระ ทั้งกกต. ปปช. กสม. คตง. และอื่น ๆ ที่สว.จะเป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่สะท้อนความได้เปรียบของสว.และพรรคการเมืองที่มีความสัมพันธ์กับ สว. แต่เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองใหญ่บางพรรค ต้องการขอแชร์หรืออยากได้แบ่งปันสัดส่วน
คดีฮั้วเลือก สว. ล่าสุด มีข่าวว่า กกต.จ่อฟัน 60 สว.ล็อตแรก ส่วนหนึ่งจะเป็นคนเด่น และมีบทบาทไม่น้อย หลังจากชุดสืบสวนไต่สวน ที่กกต.และดีเอสไอตั้งร่วมกัน ได้สรุปเพื่อดำเนินคดีฮั้วเลือกสว. และเตรียมยื่นศาลฎีกาฯ ให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองต่อไป
ใครจะโดน ใครจะอยู่ ใครจะไป เดี๋ยวได้รู้กัน
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : พบปลาน้ำกก-น้ำโขง เป็นตุ่ม หวั่นสารพิษทำลายระบบนิเวศปลา จ.เชียงราย
“พริษฐ์” จี้สภาฯ แจงกรณีงบฯ ออกแบบอาคารจอดรถ 104.5 ล้านบาท
วาติกันเปิดกำหนดการเคร่งครัด คัดเลือก "ผู้นำคริสตจักร" คนใหม่