วันนี้ (21 พ.ค.2568) คิวอาร์โค้ดบนตู้บริจาคและตำแหน่งต่าง ๆ ภายในวัดดาวดึงษาราม เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร คือ ระบบที่พัฒนาร่วมกัน ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย และ กรมสรรพากร เป็นโครงการพัฒนาระบบบริจาคเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Donation ที่ทำมาตั้งแต่ปี 2561
เมื่อมีผู้บริจาคเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ด จะเข้าสู่ระบบ E-Donation คือ บริจาคเงินผ่าน Mobile Banking ซึ่งกรมสรรพากรจะบันทึกข้อมูลได้ทันที ผู้บริจาค นำไปใช้ในการหักลดหย่อนภาษีได้ และเงินที่บริจาคก็จะตรงเข้าบัญชีวัดโดยตรง
ส่วนอีกหนึ่งในข้อมติของมหาเถรสมาคม ที่ให้จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้ทันสมัย ตรวจสอบได้ จะเป็นการทำที่ละเอียดขึ้น แบ่งเป็น 6 รายการ ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดทำบัญชีวัด ผู้ออกแบบ คือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร.คือ
- สมุดบัญชีรายรับรายจ่ายรายวัน
- สมุดบัญชีเงินฝาก
- สมุดบัญชีแยกรายรับ
- สมุดบัญชีแยกรายจ่าย
- สมุดบัญชีงบฯ ประจำปี
- เล่มรายงานงบฯ ประจำปี

หากเดินตามแนวปฏิบัตินี้ วัดต้องบันทึก วัน-เดือน-ปี รายการรับ จำนวนเงิน รวมเงินที่ได้รับทั้งปี และรายการที่จ่ายไปอย่างละเอียด ซึ่งรายการที่ 6 ต้องส่งให้สำนักงานศาสนสมบัติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทุกปี และในอนาคต หากจะดึงเอาหน่วยงานด้านการตรวจสอบการเงินเข้าร่วมทำงานในอนาคต เมื่อเกิดข้อสงสัย ในบัญชีที่ 6 วัดจะถูกเรียกตรวจทั้ง 5 บัญชีแรกทันที
เจ้าอาวาสวัดดาวดึงษาราม ระบุว่า แนวทางนี้ หากเกิดปัญหากับวัดขนาดเล็ก ที่พระสงฆ์ หรือ ไวยาวัจกร ไม่มีความรู้เรื่องการจัดทำบัญชีโดยละเอียด อาจเกิดความผิดพลาด บกพร่อง จนไปเข้าข่ายการทำผิดระเบียบได้ ก่อนจะเริ่มเดินหน้าการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด จึงควรส่งผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี ไปอบรมกับทุกวัดกว่า 40,000 แห่ง ให้เข้าใจก่อน
อ่านข่าวอื่น :
แกะรอยผลประโยชน์ "วัดไร่ขิง" เงินบริจาค-อำนาจ-โครงสร้าง-ทรัพย์สิน
มติ ครม.เห็นชอบ "ขรก.-จนท.รัฐ" ลาบวช เฉลิมพระเกียรติฯ ไม่ถือเป็นวันลา