ในมุมมองทางชีววิทยา เพศถูกกำหนดโดยโครโมโซม (XX สำหรับหญิง, XY สำหรับชาย) และลักษณะทางกายภาพ เช่น อวัยวะสืบพันธุ์ แต่ในบางกรณี บุคคลอาจมีลักษณะทางชีววิทยาที่ไม่ชัดเจน หรือที่เรียกว่า "อินเตอร์เซ็กส์" (Intersex) ซึ่งอาจมีโครโมโซมหรืออวัยวะที่ไม่ตรงกับกรอบชาย-หญิงแบบดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม อัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) ซึ่งเป็นความรู้สึกภายในว่าตนเองเป็นเพศใด อาจไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดหรือลักษณะทางกายภาพ เช่น บุคคลข้ามเพศ (Transgender) ที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพศตรงข้ามกับร่างกาย หรือบุคคลที่ไม่อยู่ในกรอบชาย-หญิง เช่น Non-Binary
ในทางกฎหมายของไทย เพศถูกจำกัดอยู่ในกรอบ "ชาย" และ "หญิง" เท่านั้น ตามที่ระบุในเอกสารราชการ เช่น บัตรประชาชนหรือสูติบัตร การสมรสก็จำกัดเฉพาะคู่ชาย-หญิง ส่งผลให้บุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศหลากหลายเผชิญปัญหาในการใช้ชีวิต เช่น การถูกบังคับใช้คำนำหน้าชื่อที่ไม่ตรงกับตัวตน หรือการถูกปฏิเสธสิทธิพื้นฐาน ความไม่สอดคล้องระหว่างกฎหมาย ชีววิทยา และจิตใจ
จึงเป็นที่มาของการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ ถึง 3 ฉบับ ได้แก่
- ร่าง พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศ พ.ศ. …. (GEN-ACT) เป็นร่างที่ภาคประชาชนร่างขึ้น โดยใช้กลไกเข้าชื่อเสนอกฎหมายซึ่งต้องรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างน้อย 10,000 รายชื่อ
- ร่าง พ.ร.บ.รับรองเพศ พ.ศ. … ผลักดันโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และเปิดรับฟังความคิดเห็น
- ร่าง พ.ร.บ.การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. … โดย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.ก้าวไกล (ในขณะนั้น) อย่างไรก็ตาม ร่างนี้ถูกพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2567 และสภาลงมติไม่รับหลักการ (เห็นด้วย 154 เสียง, ไม่เห็นด้วย 257 เสียง) ทำให้ร่างนี้ตกไปในวาระที่ 1

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
1.ร่าง GEN-ACT
ถือเป็นความหวังของภาคประชาชนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงระบบกฎหมายให้ยอมรับความหลากหลายทางเพศอย่างแท้จริง ร่างนี้จัดทำโดยองค์กรเครือข่ายด้านความหลากหลายทางเพศ เช่น สมาคมบุคคลข้ามเพศแห่งประเทศไทย และสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย โดยใช้กลไกการเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 133 (3) ซึ่งต้องรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างน้อย 10,000 รายชื่อเพื่อยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร การรวบรวมรายชื่อเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 ผ่านเว็บไซต์ https://www.gen-act.org และยังคงดำเนินต่อไป
สาระสำคัญของร่าง GEN-ACT
- รับรองอัตลักษณ์ทางเพศตามเจตจำนง บุคคลสามารถระบุเพศสภาพของตนเองได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางการแพทย์ เช่น การผ่าตัดแปลงเพศ หรือการรับรองจากแพทย์ ทำให้บุคคลข้ามเพศและบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อและเพศในเอกสารราชการได้ตามความต้องการ
- คุ้มครองบุคคลอินเตอร์เซ็กส์ ร่างนี้ใช้คำว่า "บุคคลที่มีลักษณะเพศทางชีววิทยาที่หลากหลาย" และกำหนดสิทธิในการเลือกเพศของตนเองเมื่อโตขึ้น โดยไม่ถูกบังคับให้ผ่าตัดหรือระบุเพศตั้งแต่แรกเกิด
- สิทธิพื้นฐานอื่น ๆ รวมถึงสิทธิในการศึกษา การจ้างงาน และการเข้าถึงบริการสาธารณะ โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติจากอัตลักษณ์ทางเพศ
ร่าง GEN-ACT เน้นหลักการที่ว่า "มนุษย์ทุกคนมีสิทธิในการกำหนดอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง" และสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล โดยอ้างอิงถึงข้อ 31 ของหลักการยอกยาการ์ตา ซึ่งระบุว่า บุคคลมีสิทธิเข้าถึงการรับรองทางกฎหมายโดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนร่างกายหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
2.ร่าง พ.ร.บ.รับรองเพศ พ.ศ. …
ร่างนี้จัดทำโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่มุ่งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเพศและส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากชุมชนที่มีความหลากหลายทางเพศ และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.รับรองเพศ พ.ศ. ...
- รับรองเพศสภาพโดยไม่ต้องผ่านการแพทย์ เช่นเดียวกับร่าง GEN-ACT ร่างนี้กำหนดให้บุคคลสามารถยื่นขอรับรองเพศสภาพตามเจตจำนงของตนเองได้ โดยไม่ต้องมีเอกสารทางการแพทย์หรือการผ่าตัดแปลงเพศ ซึ่งถือเป็นการลดอุปสรรคสำหรับบุคคลข้ามเพศและบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
- ระบุเพศในเอกสารราชการ อนุญาตให้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อและเพศในเอกสาร เช่น บัตรประชาชน สูติบัตร หรือหนังสือเดินทาง เพื่อให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศ
- คุ้มครองบุคคลอินเตอร์เซ็กส์ ร่างนี้ใช้คำว่า "บุคคลอินเตอร์เซ็กส์" และกำหนดแนวทางเพื่อป้องกันการผ่าตัดกำหนดเพศโดยไม่จำเป็นในเด็กทารก รวมถึงให้สิทธิในการเลือกเพศเมื่อบุคคลบรรลุนิติภาวะ
- ป้องกันการเลือกปฏิบัติ มีบทบัญญัติที่ห้ามการเลือกปฏิบัติในด้านการศึกษา การจ้างงาน และการเข้าถึงบริการสาธารณะ โดยอิงจากอัตลักษณ์ทางเพศหรือการแสดงออกทางเพศ
ร่างนี้เกิดจากความพยายามของภาครัฐในการตอบสนองต่อปัญหาที่บุคคลข้ามเพศและบุคคลอินเตอร์เซ็กส์เผชิญในชีวิตประจำวัน เช่น การถูกปฏิเสธการจ้างงานเนื่องจากคำนำหน้าชื่อไม่ตรงกับรูปลักษณ์ หรือการถูกบังคับใช้เอกสารที่ไม่สะท้อนตัวตน กรมกิจการสตรีฯ มองว่าร่างนี้จะช่วยสร้างสังคมที่ยอมรับความหลากหลายและลดการกีดกันทางเพศ

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
3.ร่าง พ.ร.บ.การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. … (พรรคก้าวไกล)
ร่างนี้เสนอโดยนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล (ในขณะนั้น) ถูกยื่นเข้าสภาผู้แทนราษฎรและพิจารณาในวาระแรกเมื่อวันที่ 21 ก.พ.2567 แต่ถูกสภาลงมติไม่รับหลักการ ด้วยคะแนน 154 ต่อ 257 เสียง
สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.การรับรองเพศฯ
- กำหนดกลไกการยื่นขอรับรองเพศสภาพ โดยผู้ยื่นต้องมีสัญชาติไทยและไม่มีประวัติอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความผิดทางเพศหรือการค้ามนุษย์
- อนุญาตให้เปลี่ยนคำนำหน้าชื่อและเพศในเอกสารราชการ รวมถึงกำหนดสิทธิสำหรับบุคคลอินเตอร์เซ็กส์ โดยเรียกว่า "บุคคลเพศกำกวม" ในร่างนี้
- คุ้มครองสิทธิในการศึกษา การจ้างงาน และการเข้าถึงบริการสาธารณะ โดยห้ามการเลือกปฏิบัติจากอัตลักษณ์ทางเพศ
- มีบทลงโทษสำหรับการละเมิด เช่น การกีดกันบุคคลเพศกำกวมจากการศึกษา หรือการผ่าตัดกำหนดเพศทารกโดยไม่จำเป็น
เหตุผลที่ร่างฯ ถูกคว่ำ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วน โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทย แสดงความกังวลว่าร่างนี้อาจนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรม เช่น การเปลี่ยนคำนำหน้าเพื่อหลอกลวงหรือลวนลามผู้อื่น นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามถึงผลกระทบในระบบราชการ เช่น การจัดการในเรือนจำสำหรับผู้ต้องขังที่มีอัตลักษณ์ทางเพศหลากหลาย
อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนร่างนี้ รวมถึงนายธัญวัจน์ ยืนยันว่าร่างนี้มุ่งคืนเจตจำนงในการระบุเพศให้แก่ชุมชน LGBTQ+ และเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ทั้งนี้ ในช่วง Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจ เดือน มิ.ย.ของทุกปี ชุมชน LGBTQ+ และผู้สนับสนุนทั่วโลกเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศและผลักดันสิทธิที่เท่าเทียม ในประเทศไทย ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งความก้าวหน้าด้วยการบังคับใช้ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ.2567 หรือ "กฎหมายสมรสเท่าเทียม" ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.2568 อนุญาตให้บุคคลทุกเพศจดทะเบียนสมรสได้อย่างเท่าเทียม
กฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ แต่การต่อสู้เพื่อสิทธิของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศยังไม่สิ้นสุด ร่าง GEN-ACT และร่างจากกรมกิจการสตรีฯ เป็นความหวังที่เหลืออยู่ในการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศตามเจตจำนง ซึ่งจะช่วยให้บุคคลข้ามเพศและบุคคลอินเตอร์เซ็กส์ใช้ชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของกฎหมายสมรสเท่าเทียมพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้เมื่อมีแรงผลักดันจากทั้งภาคประชาชนและนักการเมือง

ภาพประกอบข่าว
ภาพประกอบข่าว
ที่มา : Genact.org, ร่างพระราชบัญญัติรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ การแสดงออกทางเพศสภาพ และคุณลักษณะทางเพศ พ.ศ. .... , รายงานผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างกฎหมาย ร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ พ.ศ. ....
อ่านข่าวอื่น :
นายกฯ ยันไม่โยกงบฯ 1.57 แสนล้าน แก้ยาเสพติด ตามไอเดีย “ทักษิณ”
สภาฯ ผ่านฉลุย เปลี่ยนชื่อ "สำนักงานทรัพย์สินฯ" เป็น "พระคลังข้างที่"