เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2568 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการจับกุมผู้อพยพยังคงรวมตัวกันเดินขบวนบนท้องถนนใจกลางลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น (10 มิ.ย.) แม้นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส จะประกาศคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานในยามวิกาล หรือ เคอร์ฟิว ในบางพื้นที่ตั้งแต่เวลา 20.00-06.00 น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่นก็ตาม โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติการปล้นสะดมและทำลายทรัพย์สิน
ตำรวจลอสแอนเจลิส ระดมกำลังเข้าประจำการและเคลื่อนกำลังเร่งสลายการชุมนุมหลังคำสั่งเคอร์ฟิวมีผลบังคับใช้ ขณะที่กรมตำรวจลอนแอนเจลิส (Los Angeles Police Department) ระบุว่า มีผู้ถูกจับกุม 225 คนเมื่อวันอังคาร ในจำนวนนี้ 203 คนไม่ยอมสลายการชุมนุม และอีก 17 คน ฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว
ส่วนบรรยากาศในลอสแอนเจลิส ช่วงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น (11 มิ.ย.) หลังการประกาศเคอร์ฟิวในคืนแรก ดูเหมือนจะสงบลงเล็กน้อย โดยย่านใจกลางเมืองเต็มไปด้วยผู้คนที่ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ และยังไม่เห็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ ที่ถูกส่งมาหลายร้อยนายเข้าประจำการในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่ง ระบุว่า นาวิกโยธินกลุ่มดังกล่าวกำลังเข้ารับการฝึกเพื่อจัดการกับการฝ่าฝืนกฎหมาย ที่ฐานทัพเรือในเคาน์ตี ออเรนจ์ และยังไม่มีกำหนดการแน่นอนว่าจะถูกส่งมาเสริมกำลังเนชันแนล การ์ด 4,000 นาย ที่ถูกส่งมาคุ้มครองเจ้าหน้าที่ ICE และทรัพย์สินราชการเมื่อใด
กลาโหมยันส่งทหารคุมประท้วง LA. ถูกกฎหมาย
ด้าน พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวต่อสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า การส่งทหารหลายพันนายไปลอสแอนเจลิส เป็นเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมเสริมว่า การส่ง เนชันแนล การ์ด และ นาวิกโยธิน ถูกต้องตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบการส่งกำลังทหารไปลอสแอนเจลิส ระบุว่า ทหารที่ถูกส่งไปประจำการนั้นเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลาง โดยทหารจะไม่มีอำนาจในการจับกุมบุคคลใด ๆ แต่สามารถควบคุมตัวบุคคลไว้ชั่วคราว จนกว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจะเข้าจับกุม พร้อมทั้งระบุว่า จะไม่มีการใช้กระสุนจริงระหว่างการประจำการที่ลอสแอนเจลิส

จนถึงขณะนี้ในลอสแอนเจลิส มีผู้ถูกจับกุมไปแล้วร่วม 400 คน ซึ่งรวมถึงผู้อพยพผิดกฎหมาย 330 คน และอีก 157 คนถูกจับกุมฐานทำร้ายร่างกายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ และมี 1 คนถูกจับกุมฐานพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ขณะที่อัยการของรัฐบาลกลางตั้งข้อหาชาย 2 คน ในข้อหาขว้างระเบิดเพลิงใส่ตำรวจ
นายกเทศมนตรี LA. ชี้มาตรการทรัมป์จุดชนวนประท้วง
ขณะที่ระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกเทศมนตรีระดับภูมิภาค 30 คนวานนี้ คาเรน บาสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส กล่าวหาว่าการประท้วงที่เกิดขึ้นเป็นผลจากปฏิบัติการกวาดล้างผู้อพยพของ โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการกระทำที่ยั่วยุชาวเมือง ด้วยการให้เกิดการหวาดกลัวและตื่นตระหนก โดยเหตุวุ่นวายเริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (6 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ ICE บุกจับผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และขณะนี้การประท้วงต่อต้านมาตรการปราบปรามผู้อพยพที่เกิดขึ้นในลอสแอนเจลิส เริ่มลุกลามไปหลายเมืองทั่วประเทศ
ภาพความโกลาหล เมื่อรถยนต์คันหนึ่งเร่งความเร็วฝ่ากลุ่มผู้ประท้วงบนถนนในนครชิคาโก จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ขณะที่สื่อท้องถิ่นระบุว่าตำรวจพยายามให้คนขับรถคันดังกล่าวเปลี่ยนเส้นทาง เนื่องจากมีรถตำรวจจอดกีดขวาง แต่คนขับกลับไม่สนใจคำสั่งและเร่งเครื่องขับรถฝ่าฝูงชนออกไป ชิคาโกเป็น 1 ในกว่า 10 เมือง ทั่วประเทศ ที่ตอนนี้กำลังเผชิญกับการประท้วงต่อต้านมาตรการปราบปรามผู้อพยพของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นที่ลอสแอนเจลิส
ขณะที่ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ไม่ไกลจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี ผู้ประท้วงออกมารวมตัวกันบนท้องถนนแสดงพลังต่อต้าน ICE และเรียกร้องให้ผู้นำท้องถิ่นดำเนินการเพื่อปกป้องชุมชนจากการมาตรการโจมตีผู้อพยพของทรัมป์
ขณะที่ คลอเดีย เชนบาม ปธน.เม็กซิโก ระบุว่า มีชาวเม็กซิกันถูกควบคุมตัวในสหรัฐฯ 61 คน ท่ามกลางการประท้วงที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ระบุว่าชาวเม็กซิกันเหล่านี้ถูกควบคุมตัวระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ICE หรือระหว่างการประท้วง ผู้นำเม็กซิโก ระบุด้วยว่า ไม่เห็นด้วยกับการบุกเข้าตรวจค้นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้อพยพผิดกฎหมายของทางการกลางสหรัฐฯ และต่อต้านการประท้วงรุนแรงทุกรูปแบบด้วย
อ่านข่าวอื่น :