ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตัดเส้นเลือดธุรกิจ (เทา) กาสิโน แผลลึก "ก๊กอาน-ทักษิณ-ฮุน เซน"

การเมือง
17:18
198
ตัดเส้นเลือดธุรกิจ (เทา) กาสิโน แผลลึก "ก๊กอาน-ทักษิณ-ฮุน เซน"

ชนวนแตกหัก ลามเป็นการ "เอาคืน" ระหว่าง "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ และสมเด็จ ฮุน เซน หลังคลิปลุง-หลาน ถูกปล่อยออกมาเป็นเหตุให้ "แพทองธาร ชินวัตร" ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ บานปลายสู่การออกหมายจับและเข้าตรวจค้น ยึดอายัดทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 1,170 บาท ของ "ก๊กอาน" นักการเมืองกัมพูชา เจ้าของเครือข่าย Crown Casino resort ในกทม.เมื่อต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

ตำรวจไซเบอร์ ภายใต้การนำของ "พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ" ผบช.สอท. ยังขยายผลขอศาลอาญาออกหมายจับลูกของเขา 3 คน คือ "จุรี-ภูเฌอหลิน-กิตติศักดิ์ คล่องกิจกล" ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และอาจสวมบัตรประชาชนผิดกฎหมาย

เนื่องจากพบความผิดปกติของเอกสารการแจ้งเกิด "เชอรี่" หรือ "จุรี" เมื่อเดือนพ.ค. 2526 แต่กลับมีการทำบัตรประชาชนครั้งแรกในเดือน มิถุนายน 2541 และทำบัตรต่อมาอีก 4 ครั้งในปี 2548, 2556, 2561 (2 ครั้ง) และทั้งหมดทำที่สำนักงานเขตเดียวกัน เป็นหน้าที่ตำรวจจะขยายผลสืบสวนต่อไป

ก๊กอาน เจ้าพ่อ "คราวน์ กาสิโน" กัมพูชา

สำหรับ ก๊กอาน หรือ ฟู ก๊กอาน เป็นเจ้าของกลุ่มบริษัท Crown Casino ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปอยเปตและสีหนุวิลล์ และเชื่อมโยงนักการเมืองระดับสูงในกัมพูชา โดยเฉพาะอาณาจักรธุรกิจกาสิ โนในปอยเปต ในฐานะเจ้าของตึกสูง 17, 18, 20, 25 ชั้น และปล่อยให้เช่าชั้นทำธุรกิจสีเทา

เมื่อ 5 ปีที่แล้วเคยมีรายงานระบุว่า "ก๊กอาน” น่าจะมีทรัพย์สินอย่างจากการทำธุรกิจต่าง ๆ ในกัมพูชา ไทย สิงคโปร์ มูลค่า 2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 88,000 ล้านบาท

และหากไม่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองข้ามชาติ "ปฎิบัติการ"เด็ดปีกเครือข่ายก๊กอานในไทย คงเกิดขึ้นได้ยากเพราะ ทักษิณ -ฮุน เซนและก๊กอาน ต่างคุ้นเคยกันมาก่อน ไม่เช่นนั้น เครือญาติและลูกๆของเขา คงไม่สามารถมีบัตรประชาชน เข้ามาอาศัยและครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทยได้อย่างแน่นอน

หากฟากการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐไม่เปิดไฟเขียวเคลียร์ทางให้ตำรวจบุกเข้า ไปตรวจค้นบ้านพักถึง 19 จุด แม้ไม่สามารถจับกุมใครได้เลย แต่ทำให้ "ฮุน เซน" ได้เห็นภาพ "ก๊กอาน" คนสนิทข้างกาย ถูกตำรวจไทยไล่ตามจับ จนทำให้ผู้นำกัมพูชาถึงกับควันออกหู ออกมาโต้ตอบผ่านข้อความทางเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 8 ก.ค.2568 ว่า

"ไทยควรเตือนตัวเอง! ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อทางการและตำรวจไทยที่เริ่มปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ภายในอาณาเขตของตน...ความพยายามนี้จะช่วยลดการไหลบ่าของอาชญากรรมไซเบอร์ที่ทะลักเข้ามาในกัมพูชา ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งมาอย่างยาวนานทั่วผืนแผ่นดินไทย"

หากย้อนเหตุการณ์ในปี 1995 หลังมีการเลือกตั้งในกัมพูชา และสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มนิ่ง ประเทศที่อยู่ในภาวะสงครามมานาน และขาดรายได้ที่จะนำมาลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน โดยในปี 1999 นักธุรกิจกลุ่มแรกที่เข้ามาคือ ก๊กอาน ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวกัมพูชาที่มีฐานธุรกิจดั้งเดิมอยู่แล้ว 

ก๊กอาน เป็นหนึ่งในนักธุรกิจและนักการเมืองทรงอิทธิพลที่สุดของกัมพูชา เกิดที่จังหวัดเกาะกงเมื่อปี 2497 ปัจจุบันอายุ 71 ปี มีเชื้อสายจีน ไหหลำ และกัมพูชา ทำให้มีชื่อจีนว่า "ฝู กั๋วอัน" พูดได้ 4 ภาษา คือ เขมร ไทย จีน และ เวียดนาม

ในปี 2001 ทางการจีนจึงเข้ามาเปิดสัมพันธ์กับกัมพูชา และถือเป็นจุดเริ่มต้นของทุนจีนที่เข้ามาในลักษณะรัฐวิสาหกิจ ที่เข้ามาลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่กัมพูชาก็ไม่ได้มีงบประมาณจึงจำเป็นต้องสร้างประเทศด้วยการพนัน และ "ก๊กอาน" เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งในขณะนั้นที่เข้าร่วมลงทุนกับนายทุนชาวจีน

ก๊กอาน เป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของกลุ่มบริษัท Anco Brothers Co.,Ltd. ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ มีกิจการมากมาย ทั้ง ยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การประมง พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ อยู่หลายแห่งในกัมพูชาจนกลายเป็น 1 ใน 10 ของนักธุรกิจที่มีอิทธิพล ที่มีบทบาทช่วยสนับสนุนพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) จนได้เป็นวุฒิสภา

Anco Brothers Co.,Ltd. มีบริษัทในเครือที่สำคัญ คือ Singapura United ,Trading Limited และธุรกิจอื่น ๆที่มีการขยายตัวจาก Crown Group แตกไลน์ธุรกิจด้านพลังงานและทรัพยากร โรงแรม พลังงาน การค้าไม้ วัสดุก่อสร้าง และโครงสร้างต่าง ๆ มีการเข้าสู่การฟอกเงิน หลังมีการสะสมทุน เพื่อเคลื่อนเข้าสู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีภรรยา และเครือญาติ เข้าร่วมลงทุนในเชิงคอมเมิสร์ และการค้าไม้ วัสดุก่อสร้าง เทคโนโลยี การวางเครือข่ายบริหาร

จากข้อมูลพบว่า ฐานธุรกิจดั้งเดิมของกลุ่มทุนธุรกิจครอบครัวของ ก๊กอานจะดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมการพนันเป็นหลัก นับตั้งแต่เริ่มต้นจดตั้งทะเบียนบริษัทมา 1999-2009 จนถึงปี 2017-ปัจจุบัน

สัมพันธ์ธุรกิจ-การเมือง ก๊กอาน-ฮุน โต

กลุ่มทุนธุรกิจครอบครัวฯและเครือข่ายของก๊กอาน ไม่ได้มีกิจกรรมการลงทุนในบริษัทอื่นและการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์หรือบริการ และขยายฐานลูกค้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของรายได้ กำไรจากธุรกิจ และนำไปสู่การสะสมทุน เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายกิจการไปสู่สายธุรกิจอื่น

แต่ในปี 2017-2019 กลับพบว่ากลุ่มทุนธุรกิจครอบครัวและเครือข่าย ก๊กอาน ได้มีการจัดตัั้งจดทะเบียนบริษัทขึ้นจำนวนมาก เพื่อขยายกิจการไปสู่ธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง หมวดธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การเข้าร่วมกับทุนจีนและเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในกัมพูชา โดยเฉพาะในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและโรงไฟฟ้าพลังน้ำและในภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง

ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐานและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทั่วเอเชียและทั่วโลก โดยจีนได้วางตำแหน่งของกัมพูชาให้เป็นประเทศสาธิตในการดำเนินการโครงการดังกล่าว

มีรายงานเปิดเผยว่า ปี 2018 ก๊กอัน ได้ร่วมทำธุรกิจก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีการลงทุนร่วมกับชาวจีน คือ Mr.Chen Allen 陈福州 Mr.Zhang Huamin) ประกอบด้วยบริษัทต่าง ดังนี้

Heng He (Cambodia) Co., Ltd.

Heng He Investment & Development Group (Cambodia) Co., Ltd.

Heng He Real Estate Co., Ltd.

Heng He Bavet Property Co., Ltd

Heng He Julong Town Real Estate Co., Ltd.

Heng Zuan Yule Investment Co., Ltd

Heng Zuan Yule (Ju Long Town) Co., Ltd

ต่อมาในปี 2019 ได้มีผู้เข้าร่วมลงทุนและบริษัทดังกล่าวของ ก๊กอาน และผู้ร่วมลงทุนได้มีการแตกขยายเครือข่ายธุรกิจด้านนำเข้า-ส่งออก อาหารสัตว์และทำธุรกิจด้านหลักทรัพย์การเงิน โดยมี "ฮุนโต" หลานชายของสมเด็จ ฮุน เซน และ 2 นักธุรกิจชาวจีน คือ นายเฉิน (Mr.Chen Allen) หรือ เฉิน อัลเลน และ Mr.Zhang Huamin หรือ "นายจาง เหอหมิน" จำนวน 8 บริษัท 

Heng He Luxury Import & Export Co., Ltd

Ever Ascend Development Co., Ltd.

Heng He (Cambodia) Commercial Bank Plc.

Wei Shu Wu Lao Huo Guo (Cambodia) Caterin

Heng Long Xiang Investment & Development Co., Ltd.

Heng He Sihanoukville Property Co., Ltd.

Da Jin Zhai (Cambodia) Investment Co., Ltd.

Heng He Luxury Import & Export Co., Ltd

ในปีเดียวกัน Mr.Su Liangsheng (蘇良生) หรือ นายซู เหลียงเซิง นักธุรกิจชาวจีนที่ร่วมลงทุนกับ Heng He Luxury Import & Export Co., Ltd ได้ร่วมถือหุ้นได้เข้าไปลงทุนธุรกิจกาสิโนด้วยเช่นกัน

ตามประวัติ Mr.Su Liangsheng หรือ "ซู เหลียงเซิง" เกิดที่มณฑลฟูเจี้ยน เมื่อปี 1974 และได้รับสัญชาติกัมพูชาในปี 2019 ซู จากข้อมูลพบเพียงว่าเขามีความสัมพันธ์กับบริษัทของก๊กอานมากกว่า 10 แห่ง และเครือข่ายของเขสยังได้รับอนุญาตให้ถือใบกาสิโนที่เมืองบาเวต ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน- เวียดนาม เมื่อปี 2022 ด้วย

กาสิโนกัมพูชา ใบอนุญาตการพนัน 130 ฉบับ

นอกจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับกลุ่มทุนจีนแล้ว ในแวดวงการเมือง ก๊กอัน ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นออกญา และยังมีความสนิทสนมกับ ไทร เพียบ (Try Pheap) อดีตที่ปรึกษาของ สมเด็จฮุน เซน เมื่อครั้งเป็นนายกฯ และมีการจดทะเบียนบริษัทประมาณ 20 แห่งในกัมพูชา ในหลากหลายประเภทอุตสาหกรรม

ไทร เพียบ ถูกสหรัฐฯใช้มาตรการคว่ำบาตรตามกฎหมายแมกนิตสกี  (Magnitsky Act) ซึ่งมีบทลงโทษต่อบุคคลต่างชาติที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชันอย่างร้ายแรง

ปัจจุบันกล่าวได้ว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมการพนันมากที่สุดในใลก มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการกาสิโน 130 ฉบับ เป็นใบอนุญาตกาสิโนชั่วคราว 79 ฉบับ (แห่ง) , ใบอนุญาตการพนันเสี่ยงโชค 18 ฉบับ (แห่ง) และใบอนุญาตการพนันเสี่ยงโชคชั่วคราว 2 ฉบับ (แห่ง)

โดยประเทศกัมพูชา มีบ่อนกาสิโนตั้งอยู่ใน 11 จังหวัด จำนวน 54 แห่ง จำนวนนี้ มีก่อนกาสิโนที่กรุงพนม เปญแห่งเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการ ส่วนที่เหลืออีก 3 แห่งอยู่ที่ท่าชายฝั่งทะเลคือ สีหนุวิลล์ ,ปอยเปต ตรงข้ามชายแดนไทยด้านจ.สระแก้ว และบ่อนกาสิโนเมืองบาเวต(Bavet) ห่าเตียน (Ha Tien) และพนมเด่น (Phnom Den) ด้านชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม

บ่อนกาสิโนที่ถูกกล่าวถึงมากสุดในกัมพูชาอยู่ที่สีหนุวิลล์ และได้รับความสน ใจจากนักลงทุนจำนวนมากเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของกัมพูชาที่มีทุนจีนเข้ามาลงทุน และถูกเช่าใช้พื้นที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย

ด้วยมูลค่าอุตสาหกรรมธุรกิจการพนันกาสิโนที่ถูกและผิดกฎหมาย รวมถึงการถูกใช้พื้นที่ในการประกอบกิจการสีเทา คอลเซนเตอร์ ค้ามนุษย์ ในกัมพูชา ที่สร้างรายได้จำนวนมหาศาล การบุกจับก๊กอานและเครือข่ายจึงไม่แปลก เมื่อเส้นเลือดและท่อน้ำเลี้ยงจากฝั่งไทยถูกตัดขาด

อ่านข่าว

ทักษิณ "เป่ามนต์" ร่วมดินเนอร์พรรคร่วม ทางรอด (ที่) เหลือ "พท."

จับกระแสการเมือง : ทัวร์ลงฉ่ำ "คนไทยเข้าข้างเขมร" ปชป.สะเทือน "สุธรรม ระหงษ์" โบกมือลา

"จตุพร บุรุษพัฒน์" ฟาสแทร็ค "โอกาสใหม่" ใต้เงาทุน (พลังงาน)