ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แนวรบชิง "ปราสาทตาควาย" เขมรปั่นกระแส "สงครามไซเบอร์"

การเมือง
18:03
2,185
แนวรบชิง "ปราสาทตาควาย" เขมรปั่นกระแส "สงครามไซเบอร์"

สงครามสื่อโซเชียลกัมพูชา แนวรบรุก รวดเร็ว ทำทุกทางเพื่อชิงพื้นที่ทุกหมากกระดาน หลัง Pheara Sarat อินฟลูเขมร ปล่อยภาพถ่ายตัวเองและทหารเขมร พร้อมข้อความ "วัดตาควาย"  30 กรกฎาคม 2568 "เขมร ยึดปราสาทตาควาย" ได้แล้ว...เจอไม้นี้ของกัมพูชาเข้าไป หาก "ใจ" คนไทยที่เป็นแนวหลัง ไม่นิ่งพอ "แนวหน้า" อย่างกองทัพ โดยเฉพาะทหารที่อยู่ "หน้าแนว" คงเสียกำลังใจมิใช่น้อย 

ข้อมูลล่าสุดกองทัพไทย ระบุว่า ปัจจุบันทหารสามารถยึดคืนและควบคุมพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้ 11 แห่ง ประกอบด้วย ภูมะเขือ, ช่องอานม้า, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย, ช่องบก, โดนตวล, สัตตะโสม, ช่องจอม, ช่องสายตะกู, พระวิหาร, และพลาญยาว

แต่ต้องไม่ลืมว่า "พื้นที่หิน" ที่ยากต่อการเข้าตีและฝ่ายกัมพูชาอยากได้ คือ เนิน 350 ปราสาทตาควาย เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่มีผลกระทบต่อทางปฏิบัติทางการทหาร ขณะที่กองทัพไทยก็ต้องการยึดที่หมายนี้ไว้ให้ได้ ในการปะทะตั้งแต่วันที่ 23-27 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ทหารสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับอย่างเต็มที่

โดยฝั่งกัมพูชาได้ยึดพื้นที่รอบตัวปราสาทเป็นบังเกอร์ ขณะที่ทหารไทยได้วางกำลังคุมรอบพื้นที่ไว้หมดแล้ว เพียงแต่ไม่ได้เข้าไปที่ตัวปราสาท เพราะฝั่งกัมพูชาวางทุ่นระเบิดไว้โดยรอบ ดังจะเห็นจากภาพที่ อินฟลูเขมรโพสต์ให้ภาพทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอยู่ตรงด้านข้าง จึงชี้ให้เห็นเล่ห์เหลี่ยมของทหารกัมพูชาได้อย่างชัดเจน

นับจากหลังแนวรบพระวิหาร มีข้อตกลงหยุดยิง เหล่านักรบสแกมเมอร์ "ทุนจีนเทา" ได้เปิดปฏิบัติการสงครามไซเบอร์ทันที ทั้งการปล่อยข่าวปลอม ปั่นกระแส IO (Information Operation) บนโซเชียลมีเดีย การเข้าโจมตีและเข้าระบบเพื่อแฮกข้อมูลจากองค์กรภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคงและเอกชน โดยเฉพาะการปั่นกระแสเรื่องความสูญเสีย และดินแดนการสู้รบ

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยอมรับว่า ตอนนี้ปราสาทตาควายทหารไทยยังไม่สามารถควบคุมได้ 100 เปอร์เซนต์ แต่ที่ทหารไทยทำได้คือการควบคุมพื้นที่โดยรอบปราสาทตาควาย ’ได้มากกว่า‘ ตอนที่เรายังไม่ได้ปะทะ แต่เราควบคุมคนละด้านของตัวปราสาท

เนื่องจากเวลา 00.00 น. ตามข้อตกลงหยุดยิงก่อน ทหารเขมรได้วางทุ่นระเบิด PMN 2 จำนวนมาก ไว้บริเวณรอบปราสาท และเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาพร หรือ "หมวดบุ๊ค" ซึ่งนำชุดปฏิบัติการรบพิเศษเข้าเคลียร์พื้นที่ปราสาทตาควาย คืนวันที่ 28 ก.ค.ก่อนหยุดยิงตามข้อตกลงเจรจาถูกกับระเบิดจนขาขาด และผู้บัญชาการทหารแนวหน้า จำเป็นต้องเลือกรักษาชีวิตกำลังพลไว้ก่อน

 ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาพร หรือ

ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาพร หรือ

ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาพร หรือ "หมวดบุ๊ค"

พล.ต.วินธัย ยอมรับว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงจุดปราสาทตาควายที่เดียวที่มีข้อจำกัด และถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาก่อนถึงเวลาหยุดยิง แม้ไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% แต่ได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะซึ่งจะเห็นว่า ปัจจุบันไทยควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง

"การวางกำลังบริเวณปราสาทตาควายจะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหารไม่ใช่ตัวปราสาทตาควาย เพราะจุดตัวปราสาทเป็นพื้นที่ต่ำ และหากวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควายจะไม่ปลอดภัย และตกเป็นเป้าการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม ไทยจึงให้ความสำคัญเรื่องการคุมพื้นที่ในห้วงสุดท้าย"

ส่วนพื้นที่จุดสูงข่ม คือ เนิน 350 นอกจากนี้ลักษณะภูมิประเทศของปราสาทตาควายแตกต่างกับจุดอื่น หากเคลื่อนกำลังโดยไม่ระมัดระวัง ทหารจะโดนอาวุธยิงสนับสนุน BM-21 ของกัมพูชา โดยในห้วงเวลาสุดท้ายไทยได้พยายามที่จะยึดเนิน 350 และปราสาทตาควายพร้อมกัน จึงพยายามเข้าสู่ 2 ที่หมาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับสนามทุ่นระเบิด ที่กัมพูชาวางไว้ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

"เมื่อถึงเวลาหยุดยิงเราสามารถควบคุมพื้นที่มากกว่าเดิม แต่เราไม่มีกำลังประจำที่ปราสาทตาควาย ...แต่ปฏิบัติการทางทหารไม่ได้พุ่งเป้าไปที่สิ่งปลูกสร้างเพียงอย่างเดียว ยังหมายถึงองค์ประกอบโดยรวม ยืนยันว่า ไทยได้พื้นที่เพิ่มเติม และพื้นที่ที่ได้ก็ถือว่าควบคุมตัวปราสาทได้"

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการเก็บรวบรวมหลักฐาน กรณีทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดบริเวณ โดยรอบปราสาทตาควายแล้ว ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา หลักฐานเชิงประจักษ์ คือ ไทยมีผู้บาดเจ็บ และภาพชาวกัมพูชาที่อยู่บนปราสาท มีวัตถุระเบิด PMN-2 ที่หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล "ต้องห้ามใช้" ตามอนุสัญญาออตตาวา แต่กัมพูชานำมาใช้ตลอดแนวรบ

สงครามไทย-กัมพูชา ยังไม่จบง่าย เขมรยังคงเปิดแนวรบทั้งภาคพื้นดิน ภาคพื้นอากาศ และใช้การสื่อสารไร้พรมแดน เปิดแนวรบสู่การรับรู้ของโลก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ตาม และจำเป็นอย่างยิ่งไทย ต้องรุกโต้อย่างทันควันและทันที

 อ่านข่าว

"มนุษยธรรม" จุดยืนไทย "ม้าอารี" กลางสมรภูมิรบไทย-กัมพูชา

“โดรน” กลยุทธ์เทคโนโลยี ส่งตรงเป้าหมาย “พื้นที่เสี่ยง” ต้องระวัง

จารึกไว้ในแผ่นดิน สดุดี “15 วีรชนทหารกล้า” ปกป้องแผ่นดินไทย

สังเวย 3 ชีวิต “บิ๊กทหารเขมร” ตรวจแนวรบพระวิหารไทย-กัมพูชา