วันนี้ ( 16 ส.ค.2568) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดการประชุมสุดยอดที่ฐานทัพร่วมเอล์มดอร์ฟ-ริชาร์ดสัน รัฐอลาสกา เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ด้วยการจับมือกันอย่างอบอุ่น ก่อนเข้าสู่การหารือหลายชั่วโมงเกี่ยวกับทิศทางสงครามยูเครนและความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตัน-มอสโก

โดยผู้นำทั้งสองเดินบนพรมแดงจากฝั่งของตนและจับมือกันมีรอยยิ้ม ขณะเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 และ F-22 บินผ่านเหนือศีรษะเพื่อเป็นสัญลักษณ์ทางการทหาร ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวตะโกนถามปูตินเกี่ยวกับการโจมตีพลเรือนแต่เขาเพียงยกมือแตะหูโดยไม่ตอบ
การหารือแบบตัวต่อตัวที่วางแผนไว้เดิมถูกปรับเป็นการประชุมแบบ “สามต่อสาม” โดยฝ่ายสหรัฐฯมีรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ และทูตพิเศษสตีฟ วิทคอฟ ร่วมด้วย ส่วนรัสเซียมีรัฐมนตรีต่างประเทศเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ และที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศยูริ อูชาคอฟร่วมประชุม ซึ่งสะท้อนท่าทีระมัดระวังมากกว่าการพบกันที่เฮลซิงกิในปี 2018

โดยการประชุมครั้งนี้ให้โอกาสทรัมป์แสดงบทบาทผู้เจรจาสันติภาพระดับโลก ขณะที่ปูตินหวังใช้เวทีนี้ต่อรองเงื่อนไขที่อาจทำให้รัสเซียคงพื้นที่ยึดครองและขัดขวางการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนและผู้นำยุโรปไม่ได้รับเชิญซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจมีการตกลงกันโดยไม่มีฝ่ายยูเครนมีส่วนร่วม
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยอมรับว่ามีโอกาส 25% ที่การประชุมอาจล้มเหลว แต่หากสำเร็จเขาอาจเชิญเซเลนสกีเข้าร่วมเจรจาสามฝ่ายในภายหลัง ด้านปูตินเดินทางผ่านเมืองมากาดานในรัสเซียตะวันออกไกลก่อนถึงอลาสกาเพื่อเยี่ยมโรงงานผลิตน้ำมันปลาและใช้เวลาบนเครื่องบินศึกษาข้อมูลการเจรจา

ทั้งนี้ผู้นำทั้งสองมีกำหนดแถลงข่าวร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุมซึ่งถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากรัฐบาลทั่วโลก เนื่องจากอาจส่งผลต่อสมดุลทางการทูตและการทหารในวิกฤติยูเครนที่ยืดเยื้อกว่า 3 ปีครึ่ง และยังคงสร้างความสูญเสียหนักแก่ทั้งสองฝ่าย
ด้านสำนักข่าว บลูมเบิร์ก (Bloomberg) และบีบีซี (BBC) รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงผลการหารือระหว่างเขากับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จัดขึ้นที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแสกา ประเทศสหรัฐ ซึ่งใช้เวลาพูดคุยราว 3 ชั่วโมง ว่าการพบปะมีประสิทธิผลอย่างยิ่ง แต่ระบุว่าข้อตกลงยุติสงครามยังไม่เสร็จสิ้น พร้อมเสริมว่าจะพูดคุยกับพันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโตและประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน
การประชุมที่มีประสิทธิผลมาก มีหลายประเด็นที่เห็นพ้องต้องกัน ส่วนใหญ่เห็นด้วย มีสองสามประเด็นที่ยังไม่บรรลุผล แต่ก็มีความคืบหน้าไปบ้างแล้ว
ด้าน ปูตินกล่าวว่าการหารือครั้งนี้มีประโยชน์และกล่าวว่าจัดขึ้นในบรรยากาศที่สร้างสรรค์ เขากล่าวว่ายูเครนเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆประเด็นที่ทั้งคู่ได้หารือกัน โดยประธานาธิบดีรัสเซียยังชี้ให้เห็นถึงศักยภาพในการเพิ่มความร่วมมือทางการค้าและธุรกิจรวมถึงความร่วมมือในเขตขั้วโลกอาร์กติกและการสำรวจอวกาศ
ปูตินกล่าวในการแถลงข่าวเป็นภาษารัสเซียว่าเขาให้ความสนใจอย่างจริงใจในการยุติความขัดแย้ง และระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ประเทศต่างๆ จะต้องพลิกหน้าต่อไปและปิดท้ายด้วยการกล่าวเป็นภาษาอังกฤษว่าการสนทนาครั้งต่อไปกับทรัมป์ควรจัดขึ้นที่กรุงมอสโกซึ่งเป็นข้อเสนอแนะที่ทรัมป์ไม่ปฏิเสธ
การหารือระหว่างสองผู้นำใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง ยาวนานกว่าการหารือของทั้งคู่ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เมื่อปี 2018
ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดเริ่มต้นด้วยการแสดงที่ตระการตาและน่าตื่นตาตื่นใจ โดยประธานาธิบดีสหรัฐได้ต้อนรับปูตินบนแผ่นดินอเมริกา ซึ่งเป็นการเยือนสหรัฐ ครั้งแรกของผู้นำรัสเซียในรอบเกือบ 10 ปี ทั้งสองพบกันบนลานจอดเครื่องบิน โดยทรัมป์ปรบมือต้อนรับปูตินด้วยการจับมืออย่างอบอุ่นและตบแขนเบาๆ
ด้านโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ซึ่งไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมด้วย กล่าวว่า ในวันที่ปูตินเจรจากับทรัมป์นั้น รัสเซียสังหารผู้คนไปด้วย และกล่าวเสริมว่าการหารือระหว่างผู้นำยูเครน สหรัฐและรัสเซียจำเป็นต้องเกิดขึ้น
อ่านข่าว:
"ทรัมป์" นัดพบ "ปูติน" 15 ส.ค. คาดหารือยุติสงครามยูเครน
ครม.ความมั่นคงอิสราเอล อนุมัติแผนยึด "กาซา ซิตี้"
จับตาเจรจาสันติภาพ "ทรัมป์" ชี้คุย "ปูติน" มีโอกาสล้มเหลว 25%