วันนี้ (19 ส.ค.2568) สถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียด เมื่อกระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกมาเรียกร้องให้ทางการไทยปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย ที่ถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.2568 หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ โดยระบุว่าการควบคุมตัวดังกล่าวผิดกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดต่อข้อตกลงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.2568 ซึ่งมีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงสหรัฐฯ และจีน เป็นสักขีพยาน
พล.ท.หญิง.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุผ่านเพจเฟซบุ๊กของกระทรวงกลาโหมว่า การที่ไทยยังคงควบคุมตัวทหารกัมพูชานานถึง 21 วัน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยเชลยศึก ซึ่งกำหนดให้ปล่อยตัวเชลยเมื่อการสู้รบสิ้นสุดลง และเรียกร้องให้ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และปล่อยตัวทหารทั้งหมดโดยเร็ว
เพื่อให้พวกเขาได้กลับไปพบครอบครัว พร้อมย้ำว่ากระทรวงกลาโหมและกองทัพกัมพูชาจะร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อกดดันไทยให้ปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมและกฎหมายสากล
พร้อมกันนี้ เพจเฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชาได้เผยแพร่แถลงการณ์แสดงความกังวลต่อถ้อยแถลงของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ที่ระบุว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายในประเทศไทยต่อผู้นำกัมพูชา
โดยแถลงการณ์ระบุว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างชัดเจน ขัดต่อหลักเสมอภาคและความเคารพซึ่งกันและกันตามกฎบัตรสหประชาชาติ และทำลายความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่าง 2 ชาติอย่างรุนแรง นอกจากนี้ ยังถือเป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกัน เมื่อวันที่ 28 ก.ค.2568 ซึ่งส่งผลกระทบต่อความไว้วางใจและความพยายามในการสร้างสันติภาพถาวร
กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชายังเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2568 ได้เชิญคณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเข้ารับฟังการบรรยายสรุปครั้งที่ 3 เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดน โดยกัมพูชากล่าวหาว่าไทยแสดงท่าทีคุกคามมากขึ้น เช่น การรุกล้ำพื้นที่ด้วยการวางลวดหนามและก่อสร้างในเขตแดนกัมพูชา พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่ระบุว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ โดยยืนยันว่าเป็นระเบิดเก่าที่ไทยไม่ระวังเอง กัมพูชาย้ำเจตนารมณ์ในการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี และเรียกร้องให้ไทยกลับสู่การเจรจาทวิภาคีอย่างสุจริตใจ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์และสันติภาพในพื้นที่ชายแดน
ด้านสำนักข่าวขแมร์ไทม์ส รายงานถึงความรู้สึกของครอบครัวทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัว โดยเฉพาะหญิงวัย 70 ปี ชาว จ.อุดรมีชัย ผู้เป็นแม่ของทหารนายหนึ่ง ถือรูปภาพลูกชายและแสดงความกังวลใจอย่างมาก โดยระบุว่าคิดถึงลูกทุกวันและรอคอยข่าวการปล่อยตัวจากทางการไทย และยังเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศช่วยผลักดันเพื่อความยุติธรรมให้ลูกชายและทหารกัมพูชาคนอื่น ๆ
ขณะที่ทางกองทัพภาคที่ 2 ของประเทศไทย รายงานว่า ทหารกัมพูชา 18 นายถูกควบคุมตัวในพื้นที่ซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2568 หลังยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีคุกคาม ไทยยืนยันว่าดูแลทหารเหล่านี้ตามหลักมนุษยธรรมสากล โดยมี 1 นายบาดเจ็บและได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ไทยระบุว่าการควบคุมตัวเป็นไปตามขั้นตอน และจะปล่อยตัวเมื่อสถานการณ์หยุดยิงสมบูรณ์
ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ปฏิเสธข้อกล่าวหาของกัมพูชาว่าไทยละเมิดหยุดยิง โดยระบุว่าไม่มีหลักฐานแน่ชัด ต่างจากฝ่ายไทยที่มีข้อมูลยืนยันการยั่วยุของกัมพูชา เช่น การวางทุ่นระเบิดใหม่
อ่านข่าวอื่น :
พล.ท.บุญสิน รับเคยเตือน "ภูมิธรรม" เขมรไว้ใจไม่ได้
"พล.อ.ณัฐพล" ระบุจ่อสร้างรั้วกั้นเขมร แต่ตอนนี้ต้องเตรียมพร้อมรบก่อน