ผู้ค้าสะท้อนปัญหา "อายัดบัญชีม้า" แนะรัฐคุมที่ต้นทาง

ผู้ค้าสะท้อนปัญหา "บัญชีม้า" แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมที่ต้นทาง มากกว่าระงับบัญชี ประชาชนทั่วไป หวั่นเจอผลกระทบ แต่ยังไม่เปลี่ยนใจรับแต่เงินสด

วันนี้ (15 ก.ย.2568) เวลา 08.00 น. ไทยพีบีเอส ออนไลน์ สำรวจร้านค้าย่านซอยวิภาวดี 64 เขตหลักสี่ โดยร้านดังพบว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่ ยังคงติดป้ายรับสแกนเพื่อซื้อขายสินค้าตามปกติ

เมื่อสอบถามผู้ค้าบางส่วน ระบุว่า ต่างมีความกังวลว่าอาจจะถูกระงับบัญชีได้ เนื่องจากไม่ทราบว่าลูกค้าที่มาสแกนสินค้าซื้อมีประวัติอย่างไร รวมถึงยังเห็นว่าการตรวจสอบค่อนข้างยากเพราะการค้าขายรายวันแบบนี้จะต้องรับเงินสแกนวันลูกค้าละร้อยคน ซึ่งการจะตรวจสอบลูกค้าเป็นไปไม่ได้

ผู้ค้าบางส่วนยังเสนอว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย , ตำรวจ และ ฝ่ายเกี่ยวข้อง ควรที่จะแก้ปัญหาที่ต้นทางในการควบคุมและจัดการ "บัญชีม้า" แทนการแก้ปัญหาปลายทาง เพราะหากบัญชีของผู้ค้าที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องถูกระงับไปด้วยเพื่อตรวจสอบก็จะทำให้เสียเวลาและได้รับผลกระทบมาก เพราะจะค้าขายไม่ได้ รวมถึงต้องใช้เวลาในการค้นหาและรวบรวมเอกสารเพื่อนำไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ทั้ง ๆ ที่ค้าขายกันอย่างสุจริต แต่มีเงินจากการซื้อขายผ่านบัญชีในแต่ละวันจำนวนมากเท่านั้น

ส่วนการเปลี่ยนวิธีจากรับสแกนออนไลน์เป็นรับเงินสดอย่างเดียว แต่ละร้านยังไม่มีความคิดเช่นนั้น เพราะเห็นว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด และการรับเงินสดอย่างเดียวจะยุ่งยากกับลูกค้า เพราะปัจจุบันลูกค้ามักที่จะพกเงินสดติดตัวจำนวนไม่มาก และเน้นสแกนมากกว่า ซึ่งบรรดาร้านค้าในย่านนี้ ก็มีทางให้ลูกค้าเลือกจ่ายได้ ทั้งแบบสแกน และ จ่ายเงินสด

ที่ผ่านมา ได้ติดตามข่าว ทราบว่ามีประชาชนถูกระงับบัญชีกันเป็นจำนวนมาก ในส่วนที่เราค้าขาย ก็กลัวว่าวันหนึ่งจะโดนระงับไม่รู้ตัว แม้ว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เราไม่รู้ว่าคนซื้อเขาทำอะไรมาบ้าง แต่สิ่งที่ต้องการให้แก้คือ การไปดูต้นทางแล้วไปจัดการตรงนั้น ไม่ใช่เหวี่ยงแหระงับไปทั่วแล้วเดือดร้อนกันมาก เพราะอย่างกลุ่มผู้ค้า ไม่ได้มีแต่การรับสแกนเงินสด แต่เรายังต้องนำเงินไปใช้จ่ายซื้อวัตถุดิบแต่ละวัน และจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ด้วย

ผู้ค้ายังกล่าวว่า หากวันหนึ่งถูกระงับบัญชีขึ้นมาจะมีผลกระทบเป็นวงกว้าง ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเรา แต่หมายถึงระบบเศรษฐกิจทั้งระบบที่กระทบไปด้วย เพราะคนจะไม่มีการสแกน ไม่มีการใช้จ่าย มันจะกังวลและกระทบไปหมด