วันนี้ (22 ก.ย.2568) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มขึ้น ทำให้บ้านเรือนริมแม่น้ำ ถูกน้ำท่วมสูง ที่หมู่ที่ 1 ต.เทวราช อ.ไชโย จ.อ่างทอง น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้สูงอายุทั้ง 3 คน ที่ยังคงอยู่ภายในบ้านใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก แต่ทั้งหมดยืนยันยังอาศัยอยู่ในบ้านต่อไป ทำให้เจ้าหน้าที่จาก อบต.เทวราช ต้องสร้างสะพานไม้ชั่วคราวเพื่อให้เดินทางเข้าออกบ้านได้สะดวกขึ้น

"พระนครศรีอยุธยา" เขื่อนพระราม 6 ปักธงเหลือง
ที่เขื่อนพระราม 6 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ขึ้นธงเหลือง เป็นสัญญาณเตรียมความพร้อม ให้รับมือสถานการณ์น้ำ หลังมีการเร่งระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน โดยได้ทำการยกประตูระบายน้ำขึ้น 4 บาน จากทั้งหมด 6 บาน และพร่องน้ำ ออกไปทางประตูพระนารายณ์ ไปยังคลองระพีพัฒน์ เพื่อกระจายน้ำไปทางทิศตะวันออก ไม่ให้ไหลทะลักลงไปท้ายเขื่อนพระราม 6 มากเกินไป

"เขื่อนป่าสักฯ" เตรียมระบายน้ำเพิ่ม วันละ 50 ลบ.ม./วินาที
ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี นายชูพงศ์ อิศรัตน์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบุจากการติดตามและคาดการณ์ปริมาณน้ำ ด้านเหนือเขื่อน ตั้งแต่ จ.เพชรบูรณ์ลงมา ยังมีปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำ จากเดิมอัตรา 500 ลบ.ม./วินาที เป็นอัตรา 650 ลบ.ม./วินาที โดยจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำในอัตราวันละ 50 ลบ.ม./วิ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.2568 เป็นต้นไป ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม ประมาณ 1.50 - 1.80 เมตร
3 พื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งที่ได้รับผลกระทบ
- ตลาดน้ำต้นตาล ต.ต้นตาล อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
- ต.แสลงพัน อ.วังม่วง จ.สระบุรี
- ต.แก่งเสือเต้น และ ต.หินซ้อน อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี
- ชุมชนวัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและติดตามข่าวสารจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้น และมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนป่าสักฯ เพิ่มมากขึ้นจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป

2 เขื่อนใหญ่ ปรับลดการระบายน้ำ ลดภาระลุ่มเจ้าพระยา
เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 10,698 ล้าน ลบ.ม (79%) ยังสามารถรับน้ำได้อีก 2,764 ล้าน ลบ.ม. จะทยอยปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันได จากอัตรา 10 ล้าน ลบ.ม. เหลือวันละ 5 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำเก็บกักรวม 8,386 ล้าน ลบ.ม. (88%) ยังรับน้ำได้อึก 1,124 ล้าน ลบ.ม. จะทยอยปรับลดการระบายน้ำแบบขั้นบันได จากอัตรา 20 ล้าน ลบ.ม. เหลือวันละ 10 ล้าน ลบ.ม.
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับตลิ่งด้านท้ายน้ำและสอดคล้องกับปริมาณฝนในระยะนี้ ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาในลำดับต่อไป
สทนช.-หน่วยงาน ถกแผนลดการระบาย "น้ำเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์"
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ สทนช. ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากการประชุม กรมอุตุนิยมวิทยาได้ร่วมกับ สสน. ประเมินสถานการณ์ฝนพบว่า พายุไต้ฝุ่น "รากาซา (RAGASA)" มีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ในวันนี้

วันที่ 22 ก.ย.68 สทนช. ร่วมกับหน่วยงานถกแผนลดการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์ เพื่อชะลอมวลน้ำระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา บรรเทาผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน
วันที่ 22 ก.ย.68 สทนช. ร่วมกับหน่วยงานถกแผนลดการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์ เพื่อชะลอมวลน้ำระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา บรรเทาผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน
จากนั้นจะเคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีน ลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนก่อนที่ขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ย.2568 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ อิทธิพลของพายุนี้จะทำให้ร่องมรสุมและมรสุมที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้ช่วงวันที่ 22 ก.ย. - 1 ต.ค.2568 เกิดร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ประกอบกับมรสุมมีกำลังปานกลาง อาจทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้น จึงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก บึงกาฬ อำนาจเจริญ และ อุบลราชธานี
จากสถานการณ์ดังกล่าว ในช่วงตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน ก.ย. จึงเป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ที่จะต้องบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุมที่สุด ในวันนี้ที่ประชุมจึงได้ร่วมกันพิจารณาเป็นรายลุ่มน้ำ ดังนี้
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันมีการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 2,200 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งขณะนี้ยังส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบโดยการคงอัตราการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาในอัตรานี้โดยไม่เพิ่มขึ้นอีก
ประกอบกับฝนที่จะตกในช่วงต่อไปจะไม่ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เพิ่มสูงมากนัก ที่ประชุมจึงได้มีมติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พิจารณาปรับแผนลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลจากเดิมอยู่ที่อัตรา 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์จากเดิมอยู่ที่อัตรา 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน
โดยให้เป็นการลดการระบายในลักษณะขั้นบันไดตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 26 ก.ย.2568 ซึ่งจะช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาที่สถานี C2 ที่ จ.นครสวรรค์ ทำให้ยังสามารถคงอัตราการระบายที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ที่อัตรา 2,200 ลบ.ม.ต่อวินาที ไปได้จนถึงสิ้นเดือน ก.ย.
จากนั้นในช่วงต้นเดือน ต.ค. ผลจากการประเมินสถานการณ์ฝนพบว่ามีแนวโน้มจะคลี่คลายลง ก็จะปรับลดการระบายที่เขื่อนเจ้าพระยาลงได้อีกเพื่อช่วยลดผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนลงได้

วันที่ 22 ก.ย.68 สทนช. ร่วมกับหน่วยงานถกแผนลดการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์ เพื่อชะลอมวลน้ำระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา บรรเทาผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน
วันที่ 22 ก.ย.68 สทนช. ร่วมกับหน่วยงานถกแผนลดการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์ เพื่อชะลอมวลน้ำระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา บรรเทาผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน
รองเลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้มีปริมาณน้ำคิดเป็น 76% ของความจุเก็บกัก ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ที่ประชุมเห็นควรให้ปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำจากเดิมอัตรา 500 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็น 650 ลบ.ม.ต่อวินาที โดยทยอยปรับเพิ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 2568 ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่งในช่วงตลิ่งต่ำบางพื้นที่ใน จ.สระบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา
เขื่อนอุบลรัตน์ ปรับแผนระบายน้ำเป็นวันละ 35 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับสถานการณ์ลุ่มน้ำชี ที่พบว่าปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำมากถึง 78% ของความจุเก็บกัก และจากสถานการณ์ฝนคาดว่าจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำมาเพิ่มมากขึ้นอีกอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของตัวเขื่อน ในวันนี้ คณะกรรมการลุ่มน้ำชีได้ประชุมร่วมกันและมีมติให้ กฟผ. ปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จากเดิมระบายน้ำไม่เกิน 25 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) ต่อวัน เป็นระบายน้ำไม่เกิน 35 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำซึ่งเป็นความร่วมมือของหน่วยงานในทุกจังหวัดของลุ่มน้ำชีในการช่วยลำเลียงน้ำลงสู่ จ.อุบลราชธานี ก่อนไหลลงแม่น้ำโขงอย่างประณีตและส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
จับตาสถานการณ์ "โค้งสุดท้าย" ปลาย ก.ย.
จากผลการประชุมในวันนี้ สทนช. และทุกหน่วยงานยังต้องติดตามสถานการณ์เป็นรายวัน และกลับมาร่วมกันประเมินสถานการณ์อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 26 ก.ย.2568 ในช่วงปลายเดือนนี้ถือเป็นช่วงโค้งสุดท้าย หากสามารถบริหารจัดการให้ผ่านต้นเดือน ต.ค.ไปได้ สถานการณ์อุทกภัยในทุกพื้นที่จะเริ่มคลี่คลายลง
ถือว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้ไม่เทียบเท่าสถานการณ์อุทกภัยปี 2554 อย่างแน่นอน เนื่องจาก สทนช.และทุกหน่วยงานได้วางแผนการระบายน้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่เป็นการล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปี เพื่อเตรียมการรองรับปริมาณฝนที่จะตกมามากในปีนี้
อ่านข่าว : เอาใจช่วย "น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง-บาดเจ็บขาหลัง