วันนี้ (25 ก.ย.2568) เป็นเวลาเกือบ 24 ชั่วโมงแล้ว ถึงแม้ในพื้นที่เกิดเหตุ จะยังไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติมภายในหลุมที่ทรุดลึกลงไป กว่า 50 เมตร ถนนสามเสน แต่พบว่ายังมีน้ำจากท่อระบายน้ำและท่อประปา ไหลเข้าไปในหลุมทำให้ดินอาจจะทรุดตัวเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำกระสอบทรายกว่า 50,000 กระสอบ เตรียมนำมาอุดช่องว่างภายในอุโมงค์ และช่องว่างน้ำไหลผ่าน เพื่อป้องกันดินทรุดเพิ่มเติม
ส่วนจุดที่ต้องเฝ้าระวังมากที่สุดคืออาคารสถานีตำรวจนครบาลสามเสน และอาคารใกล้เคียงที่ติดกับแนวถนนทรุด พบว่าดินบริเวณใต้อาคารเป็นโพรง เห็นเสาเข็มอย่างได้ชัด ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างเสียหาย ส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน แล้วต้องระมัดระวังในการเข้าใช้พื้นที่เป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งเครื่องตรวจวัดการเคลื่อนไหวของอาคารตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังการทรุดตัว และมีแผนจะนำกระสอบทรายมากั้น บริเวณพื้นที่โดยรอบเพื่อป้องกันน้ำฝนที่อาจจะไหลลงเข้าไปในหลุม
อ่านข่าว : "ชัชชาติ" ชี้ถนนทรุดเกิดจากดินไหลเข้าอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟฟ้า
ส่วนโรงพยาบาลวชิรพยาบาล อาคารในพื้นที่ไม่ได้รับความเสียหาย แต่จะได้รับผลกระทบเรื่องของน้ำประปาในพื้นที่บางส่วนไม่ไหล และปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ต ซึ่งตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ รวมถึงบริษัทผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต เร่งแก้ไขปัญหาสายสัญญาณ โดยจะเชื่อมต่อสายไฟเบอร์เข้าโรงพยาบาลและในพื้นที่ใกล้เคียงให้สามารถใช้งานได้เต็มไปตามปกติ
ขณะที่เจ้าหน้าที่การประปานครหลวงได้ซ่อมแซมจุดเชื่อมต่อท่อน้ำประปาเข้ากับอาคารโรงพยาบาลโดยนำแผ่นเหล็กชีทไพล์ มากั้นดินในพื้นที่ติดกับฝั่งของอาคารบ้านเรือนประชาชนป้องกันน้ำกัดเซาะขณะซ่อมแซม ให้กับโรงพยาบาลได้ใช้ได้เป็นอันดับแรกก่อน ส่วนท่อประปาใหญ่จะต้องหาแนวทางในการแก้ไขร่วมกับหลายหน่วยงานอีกครั้ง
ขณะที่ น.ส.ศรีวรรณ เสมมณี หัวหน้าศูนย์นันทนาการสวนอ้อย เปิดเผยว่า มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเข้ามาพักพิงจำนวน 3 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ประกาศให้เป็นพื้นที่อันตราย ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะอพยพไปอยู่บ้านญาติต่างพื้นที่ แต่ก็มีบางส่วนที่ติดต่อเข้ามาเพื่อที่จะเข้ามาพักเพิ่มเติม ซึ่งทางศูนย์รับรองก็มีเตียงรับรองจำนวน 20 เตียงถูกแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ขณะนี้ยังสามารถรองรับประชาชนที่จะเข้ามาพักได้
ส่วนผลกระทบในเรื่องของน้ำประปาทางสำนักงานเขตดุสิต ได้จัดหารดน้ำสำรอง เอามาเติมในถังน้ำของศูนย์แห่งนี้เอาไว้อำนวยความสะดวกต่อผู้พักพิงเอาไว้แล้ว
"อนุทิน" ขอโทษประชาชน เดินหน้าซ่อมแซม-เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้เมื่อเวลา 22.50 น. วันที่ 24 ก.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางตรวจสอบจุดเกิดเหตุถนนทรุด โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมเจ้าหน้าที่ รฟม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสำรวจพื้นที่
นายอนุทินเปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และสั่งการให้แก้ไขปัญหาเพื่อลดความเสี่ยงและเร่งคืนผิวการจราจรโดยเร็ว ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคจะให้ รฟม. ชี้แจงอย่างเป็นทางการในวันนี้ (25 ก.ย.) เวลา 11.00 น.
สำหรับมาตรการเร่งด่วน ต้องซ่อมโครงสร้างอุโมงค์ที่ยุบตัว เสาไฟฟ้า และตรวจสอบความปลอดภัยอาคารโดยรอบ ขณะนี้มีการดูดน้ำ ปิดรอยรั่ว และเร่งถมดินเสริมความแข็งแรง หากฝนตกหนักอาจมีดินสไลด์เพิ่ม แต่จะพยายามควบคุมสถานการณ์ให้ดีที่สุด ยอมรับมีความกังวลเรื่องของฝนที่อาจจะตกลงมาในพื้นที่อยู่บ้าง เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของดินสไลด์และถนนทรุดตัวเพิ่มขึ้น แต่เชื่อมั่นในทีมงานซึ่งมีแผนรับมือเอาไว้อยู่แล้ว
ส่วนโครงสร้างของอาคารฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เช่นสถานีตำรวจนครบาลสามเสน อาคารที่พักของตำรวจ และบ้านเรือนของประชาชน มีเสาเข็มบางส่วนขาด ต้องวางแผนซ่อมแซมอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด ขณะเดียวกัน ได้เร่งนำแผ่นคอนกรีตและกระสอบทรายถมหลุมเพื่อป้องกันการทรุดตัวเพิ่มเติม
นายอนุทิน กล่าวอีกว่าในนามรัฐบาล ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ไม่ใช่เวลาจะไปโทษใคร แต่จำเป็นต้องเร่งคืนสภาพพื้นที่ และดำเนินการเอาผิดทั้งทางแพ่งและอาญาอย่างเคร่งครัด และ ย้ำว่าจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
อ่านข่าว :
"ชัชชาติ" ยันมาตรฐานสากล ใช้กระสอบทรายอุดช่องอุโมงค์ป้องกันดินสไลด์เพิ่ม