ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ศาลสั่งจำคุก 4 ปี 4 เดือน 5 แกนนำ นปช.ขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์

อาชญากรรม
13:11
2,536
ศาลสั่งจำคุก 4 ปี 4 เดือน 5 แกนนำ นปช.ขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์
ศาลอาญา สั่งจำคุก 5 แกนนำ นปช."วีระกานต์-จตุพร-ณัฐวุฒิ-เหวง-อดิศร" 4 ปี 4 เดือน คดีขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ปี 2552 ไม่รอลงอาญา

วันนี้ (7 ต.ค.2568) ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.968/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมแกนนำ นปช. และแนวร่วมอื่นๆ เป็นจำเลย 1-13 ในความผิด ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป สร้างความกระด้างกระเดื่องก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548

จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 31 ม.ค. - 9 เม.ย.2552 พวกจำเลย ได้ร่วมกันชุมนุมขับไล่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยปิดทางเข้าออกทำเนียบรัฐบาล เพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ รวมถึงมีผู้ชุมนุมบางส่วนบุกไปยังบ้านพัก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี (ขณะนั้น) เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม พร้อมด้วย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และนายชาญชัย ลิขิตจิตถะ ลาออกจากองคมนตรี รวมทั้งการปิดล้อมสถานที่ราชการสำคัญ ๆ หลายแห่งใน กทม. ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัวคนละ 200,000 บาท

ทั้งนี้ในวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาครั้งแรก แต่มีจำเลย 2 คน ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในวันนี้ คือ นายพงศ์พิเชษฐ์ หรือ พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 10 ซึ่งทนายความแจ้งว่าขาดการติดต่อเป็นเวลานาน และ นายอดิศร เพียงเกษ จำเลยที่ 11 ซึ่งแจ้งว่าติดประชุมสภาฯ เบื้องต้นศาลได้แจ้งเลื่อนอ่านคำพิพากษาเป็นวันที่ 7 ต.ค.2568 เวลา 09.00 น. พร้อมออกหมายจับนายพงศ์พิเชษฐ์ และปรับนายประกัน เป็นเงิน 200,000 บาท

ศาลพิเคราะห์แล้ว พิพากษาว่าจำเลยที่ 1-4 และที่ 11 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2)(3), 215 วรรคสาม พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9, 18 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนฯ กับฐานร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญฯ เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท

ให้ลงโทษฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลยที่ 1-4 และที่ 11 คนละ 6 ปี และจำเลยที่ 5, 7-9 และที่ 13 มีความผิดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9, 18 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้จำคุกจำเลยที่ 1-5, 7-9, 11 และที่ 13 คนละ 6 เดือน

ทางนำสืบของจำเลยที่ 1-5, 7-9, 11 และที่ 13 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนฯ คงจำคุกจำเลยที่ 1-4 และที่ 11 คนละ 4 ปี ฐานฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำคุกจำเลยที่ 1-5, 7-9, 11 และที่ 13 คนละ 4 เดือน เมื่อรวมโทษจำคุกในส่วนของจำเลยที่ 1-4 และที่ 11 คงจำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก และพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 6 และที่ 10

อ่านข่าว :

ศาลเลื่อนฟังคำพิพากษาคดี นปช.ชุมนุมไล่ "อภิสิทธิ์" ปี 52 เป็น 7 ต.ค.

ศาลเลื่อนอ่านคดี นปช.ไล่ “มาร์ค” จตุพรบอกเรื่องในอดีตวันนี้จุดยืนเปลี่ยน