ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

หนานหนิงศูนย์กลาง AI สะพานเทคโนโลยีจีน-อาเซียนสู่อนาคตดิจิทัล

สังคม
13:30
161
หนานหนิงศูนย์กลาง AI สะพานเทคโนโลยีจีน-อาเซียนสู่อนาคตดิจิทัล
อ่านให้ฟัง
12:25อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์จีน-อาเซียน มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี AI ใน 4 มิติเป็นสะพานเทคโนโลยีจีน-อาเซียน ผลักดันภูมิภาคสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน ขณะกว่างซี เดลี่ นำ AI ช่วยเสริมประสิทธิภาพงานข่าว พร้อมระบบตรวจสอบเนื้อหาเพื่อความถูกต้องแม่นยำ

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำคณะสื่อมวลชนโครงการมองจีนยุคใหม่ สิ่งที่สื่อไทยควรรู้ ครั้งที่ 7 เข้าชมศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์จีน-อาเซียน (China-ASEAN Artificial Intelligence Collaborative Innovation Center : CAAIC) ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีฟังก์ชันที่สามารถทำงานได้เหมือนกับมนุษย์ และสามารถเลียนแบบการทำกิจกรรมของมนุษย์ เป็นตัวช่วยมนุษย์ในการคิด ซึ่งจะเน้นไปในเรื่องของการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ

สำหรับศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์จีน-อาเซียนแห่งนี้ ก่อตั้งขึ้นตามนโยบายการพัฒนาศักยภาพด้าน AI ของประเทศจีน โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีเป้าหมายการพัฒนาเสริมสร้างความร่วมมือด้าน AI กับประเทศในอาเซียน ภายใต้ยุทธศาสตร์สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่

1.การเติบโต ด้วยนครหนานหนิงเป็นประตูสู่อาเซียน จึงมีบุคลากรที่มีความพร้อมต่อการสร้างพันธมิตรกับประเทศอาเซียน ทั้งด้านภาษาและวัฒนธรรม

2.ความรวดเร็ว ด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองที่ติดกับประเทศอาเซียน จึงเป็นต้นทุนที่ดีในการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว

3.บริการดี ภายใต้ระบบการจัดการข้อมูลด้าน AI ที่มีความพร้อม ทำให้ศูนย์ CAAIC สามารถให้บริการด้านเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4.ความประหยัด ซึ่งเป็นผลดีจากต้นทุนทำเลที่ตั้งที่ใกล้กับประเทศอาเซียนที่สุดของประเทศจีน ทำให้สามารถลดต้นทุนและเวลาการส่งต่อข้อมูล เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI ได้อย่างมาก

ปัจจุบันศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์จีน-อาเซียน เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย.2568 ทั้งเปิดสาขาย่อยนอกประเทศเป็นแห่งแรกที่ประเทศลาว และอยู่ระหว่างการดำเนินการเปิดสาขาย่อยที่ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย

ส่วนการบริหารจัดการข้อมูลด้านเทคโนโลยี AI ที่เมืองหนานหนิง ใช้ระบบรับและส่งข้อมูลผ่านสายไฟเบอร์ออฟติกที่มีความเร็วสูง มีเสถียรภาพ และสามารถส่งข้อมูลได้ในระยะไกล โดยมีการเชื่อมโยงข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่มณฑลชิงไห่ และเตรียมขยายไปยังศูนย์ข้อมูลในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกวางตุ้ง เพื่อรองรับการใช้งาน AI ในระดับอาเซียน โดยมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลต่ำกว่า 6 มิลลิวินาที ช่วยให้บริการต่าง ๆ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ การแพทย์ทางไกล และการสื่อสารด้วย AI สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AI ครอบคลุมทุกมิติ

นอกจากนี้ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์จีน-อาเซียน ยังพัฒนาเทคโนโลยี AI ครอบคลุมหลายด้าน เช่น ระบบจราจรอัจฉริยะ การเกษตรแม่นยำสูงจะเป็นอุปกรณ์เอไอเพื่อพัฒนาผลิตผลทางการเกษตร เช่น เครื่องตรวจดิน พืชผล โรคพืช และแมลง ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถดูแลผลผลิตของตัวเองได้ง่ายขึ้น นำไปสู่ปริมาณและคุณภาพของผลผลิตที่ดียิ่งขึ้น

การศึกษาออนไลน์ข้ามพรมแดน และบริการแพทย์ทางไกลในพื้นที่ชนบท ที่ช่วยลดภาระของแพทย์และความหนาแน่นของสถานพยาบาล โดยอุปกรณ์เหล่านี้ทำการวินิจฉัยเบื้องต้นด้วยฐานข้อมูล Big Data

โดยทั้งหมดใช้เทคโนโลยี AI ของจีนที่มีต้นทุนการประมวลผลต่ำกว่าประเทศตะวันตก แต่ยังคงรองรับการใช้งานร่วมกับระบบมาตรฐานสากล จีนต้องการส่งเสริมบทบาทของ CAAIC ในฐานะ "สะพานเทคโนโลยี" ระหว่างจีนกับอาเซียน ที่ไม่เพียงส่งเสริมความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนภูมิภาคเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เอไอเพื่ออำนวยความสบายในชีวิตประจำวัน เช่น แว่นตาแปลภาษาแบบ เรียลไทม์ จอมอนิเตอร์แปลภาษาขนาดใหญ่ที่สามารถพับได้ และเชื่อมต่อคีย์บอร์ดบลูทูธได้ รวมถึงหุ่นยนต์ทำความสะอาดต่างๆ

"กว่างซี เดลี่" ชู AI ยกระดับวงการข่าว

AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยีที่ใช้ในด้านขับเคลื่อนเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังนำ AI เข้ามาเป็นเครื่องมือสนับสนุนด้านงานสื่อมวลชน อย่างสำนักข่าวชั้นนำของกว่างซี คือ กว่างซี เดลี่ ที่ตั้งอยู่ในเมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ที่นำ AI เข้ามาสนับสนุนการทำงานด้านงานสื่อสารมวลชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายหวังเฟย นักข่าวศูนย์การสื่อสารนานาชาติกว่างซี กล่าวว่า หนังสือพิมพ์กว่างซี เดลี่ และศูนย์สื่อสารนานาชาติกว่างซี ได้รับมือกับเปลี่ยนแปลงของยุคปัจจุบัน โดยใช้ AI มาประยุกต์และสนับสนุนในการทำงานของผู้สื่อข่าว ทั้งการเขียนบทความ การเลือกรูปภาพ การทำวิดีโอ ตลอดจนการแปลเป็นภาษาต่างๆ รวมทั้งภาษาไทยด้วย ทั้งนี้หลังจากการทำงานของ AI แล้วจะมีฝ่ายตรวจสอบเนื้อหาเพื่อจะให้การทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

AI ยังช่วยสนับสนุนงานเช่นผู้ประกาศเสมือนจริงที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง การลดลายน้ำโดยอัจฉริยะ ซึ่งจะเป็นการเสริมพลังให้นักข่าวในการทำงานประจำวัน

ซ่ง ชุนเฟิง (Song Chunfeng) รองบรรณาธิการบริหารกว่างซี เดลี่

ซ่ง ชุนเฟิง (Song Chunfeng) รองบรรณาธิการบริหารกว่างซี เดลี่

ซ่ง ชุนเฟิง (Song Chunfeng) รองบรรณาธิการบริหารกว่างซี เดลี่

ขณะที่นายซ่ง ชุนเฟิง (Song Chunfeng) รองบรรณาธิการบริหารกว่างซี เดลี่ ระบุว่าปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานด้านสื่อมวลชน ทั้งในกระบวนการเขียนข่าว การตัดต่อวิดีโอ การใช้ผู้ประกาศข่าวเสมือนจริง การแปลภาษา ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสื่อ

AI สามารถช่วยตรวจสอบและแก้ไขคำผิดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลดเวลาในการตรวจแก้ข่าวได้ราว 30–50% พร้อมย้ำว่า แม้ AI จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ผู้สื่อข่าวควรให้ความสำคัญกับ ความถูกต้องและความแม่นยำของข้อมูล โดยต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงของเนื้อหาที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม

ความร่วมมือ 3 ด้านจีน-ไทย

สำหรับแนวทางความร่วมมือระหว่างสื่อมวลชนจีนและไทย ภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี AI นายซ่ง เสนอแนวทางความร่วมมือหลัก 3 ด้าน ได้แก่

1.การสร้างเนื้อหาร่วมกันผลิตผลงานสื่อแบบบูรณาการเช่น ซีรีส์ และ สารคดี ภายใต้หัวข้อไทย-จีน ครอบครัวเดียวกันในโอกาส 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน โดยใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการเล่าเรื่องมิตรภาพอย่างมีชีวิตชีวา

2.แบ่งปันเทคโนโลยี ร่วมแบ่งปันข้อมูลและความร่วมมือในด้านการเขียนข่าวอัจฉริยะ ผู้ประกาศเสมือนจริงและการวิเคราะห์ความคิดเห็นด้วยข้อมูลขนาดใหญ่

3.การพัฒนาบุคลากรร่วมกัน โดยการแลกเปลี่ยนผู้สื่อข่าว และวิศวกรเพื่อเข้าร่วมอบรมเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีร่วมกัน

นอกจากนี้ นายซ่ง ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้าน AI มาโดยตลอด โดยศูนย์การสื่อสารนานาชาติกว่างซีได้ใช้งบประมาณลงทุนกว่า 10 ล้านหยวน เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ซึ่งส่งผลให้การผลิตผลงานสื่อมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังจัดตั้งแพลตฟอร์มเทคโนโลยีร่วมในระดับเขตปกครองตนเอง 2 แห่ง ระดับเมือง 14 แห่ง และระดับอำเภอ 70 แห่ง

ขณะเดียวกัน จีนยังให้ความสำคัญกับ กฎหมายควบคุมการใช้ AI โดยกำหนดให้เนื้อหาวิดีโอที่ผลิตจาก AI ต้องระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นคลิปที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อป้องกันการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด

ในอนาคต การใช้ AI อาจมีการนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือหลอกลวงประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แต่การพัฒนา AI และกฎหมายควรต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน เพื่อให้เทคโนโลยีนี้เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างแท้จริง

ศูนย์การสื่อสารนานาชาติกวางซีมุ่งเน้นสื่อสารระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ศูนย์การสื่อสารนานาชาติกวางซี ที่เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.2024 ซึ่งมีหน้าที่สื่อข่าวสารและข้อมูลของกว่างซีไปสู่ต่างประเทศ อยู่ภายใต้การดูแลของกว่างซี เดลี่

ที่มีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างประเทศ 5 แพลตฟอร์มหลัก ได้แก่ X, Facebook, YouTube, Instagram, TikTok เผยแพร่รายงานในหลายภาษาเช่น ภาษาอื่น ภาษาอังกฤษ ภาษาภาษาไทย

ศูนย์การสื่อสารนานาชาติกว่างซี มุ่งเน้นการส่งเสริมการสื่อสารระหว่างประเทศด้วยกิจกรรมในพื้นที่ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้กลุ่มคนรุ่นใหม่จากประเทศต่าง ๆ มีการสื่อสารกันอย่างลึก เพื่อร่วมสร้างความเข้าใจกันและวางแผนการพัฒนาด้วยกัน
ปัจจุบันศูนย์การสื่อสารนานาชาติกว่างซีได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับสื่อของไทย 4 แห่งด้วย

โดยเมื่อเดือน มิ.ย.2568 ที่ผ่านมากว่างซี เดลี่และ People's Daily Online ร่วมกันเปิดตัวกิจกรรมรายงานข่าวทุกสื่อขนาดใหญ่ "AI Experience Officer: Walking on the Ground in China to Reach the Pulse of ASEAN" โดยส่งทีมสัมภาษณ์หลายทีมไปทำการวิจัยภาคสนามข้าม ภูมิภาคและข้ามพรมแดน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามเส้นทางการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของ "การวิจัยและพัฒนาในปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และกว่างโจว การบูรณาการในกว่างซี และการประยุกต์ใช้ในอาเซียน"

และ การประชุมสุดยอด CAEXPO และ AI ครั้งที่ 22 เดือน ก.ย.2568 ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี AI เป็นผู้นำ หนังสือพิมพ์กวางสีเดลีใช้ "AI Experience Officer" เป็นจุดเริ่มต้น ควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์และการรายงานข่าวของ "AI Empowering Thousands of Industries Super League" เพื่อเจาะลึกเรื่องราว AI ในงาน CAEXPO และ Summit นำเสนอกิจกรรมใหม่สู่สายตาชาวโลก และแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จของกว่างซีในการเร่งพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อย่างมีคุณภาพ

อ่านข่าว :

จีนฟื้นทัวร์ "ฟรีวีซ่า-ตั๋วอัจฉริยะ- AI นำทาง" ดัน "ชนบท" สู่เวทีโลก

จีนดันแผนปฏิบัติการ AI ร่วมอาเซียนพัฒนา ยกระดับข้ามพรมแดน