ในยามนี้ พรรคการเมืองที่ “บ้านใหญ่” ไหลออกต่อเนื่อง คงหนีไม่พ้นค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม แม้ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง โดยปักธงรบนำ ทีมเลขาธิการพรรคฯ และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ “กอบกู้” ต่อเส้นเลือดสีฟ้าให้ฟื้นคืนชีพในการสู้ศึกเลือกตั้งในปี 2569 แต่ดูเหมือนว่า เงื่อนไขและสถานการณ์ ยังไม่ค่อยเป็นใจมากนัก
จังหวะเวลานี้ “ประชาธิปัตย์” ไม่ใช่ทางเลือกและทางรอดของนักการเมืองและอดีตสส.อีกต่อไปแล้ว เห็นได้จากการขยับตัวแรงของตระกูลการเมือง “บ้านใหญ่” ที่อยู่กับค่ายสีฟ้ามาอย่างยาวนาน หรืออดีตสส.และสส.ดาวรุ่ง ซึ่งตีจาก ย้ายค่ายไปเป็น “ตัวเลือก”ใหม่ของค่าย “สีน้ำเงิน” ภูมิใจไทย อย่างท่วมท้น
เมื่อเส้นเลือดใหญ่เมืองตรัง “บ้านใหญ่” โล่สถาพรพิพิธ” ภายใต้ชายคา “โกหนอ “ สมชาย โล่สถาพรพิพิธ หรือ อดีต ส.ส.ตรังหลายสมัย พรรคประชา ธิปัตย์ (ปชป.) เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคภูมิใจไทย ครบ 4 เขต คือ “โกหนอ” สมชาย และ “เอกพล ณ พัทลุง (นาวาแก้ว)” นายก อบต.บ้านควน หลานชายกำนันจำนง นาวาแก้ว ผู้กว้างขวางในเมืองตรัง
รวมทั้ง สจ.ล้าน “พิชัย เจริญศิริสุนทร” หลานชาย “โกเกี๊ยะ” พิพัฒน์ รัชกิจประการ ส่วน “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” สส.ปชป. และ “ทวี สุระบาล” สส.พปชร. ชัดเจนแล้วว่า ทั้งคู่จะย้ายเข้าสังกัดพรรคสีน้ำเงินในภายหลังด้วยเช่นกัน
ครั้งนี้บ้านใหญ่ “ตระกูลโล่สถาพรพิพิธ” ได้โชว์พาวให้เห็น โดย “บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ” นายก อบจ.ตรัง ได้นำกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.), นายกเทศมนตรีและชาวบ้านมาต้อนรับ นายกฯหนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” แทบยกจังหวัด
“ถึงเวลาแล้วที่ จ.ตรัง ต้องเปลี่ยนสี ผมได้ตัดสินใจรักษาพูดที่พูดไว้ว่า มีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ก็ไม่มีนายสมชาย และเมื่อนายสาทิตย์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้า ปชป.ผมก็รักษาคำพูด จากความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น มันกระทบไปหมด กระทบไประดับชาติด้วย เพราะเราไม่สร้างความสามัคคีกัน ก็สร้างความแตกแยก ต้องบอกว่าผมย้ายไปภูมิใจไทยทั้งน้ำตา เพราะอยู่พรรคประชาธิปัตย์มานาน 30 กว่าปี” ความในใจของ โกหนอ ที่สะท้อนไปยังค่ายสีฟ้า
แม้ก่อนหน้านี้ “อภิสิทธิ์” ในฐานะหัวหน้าพรรคฯปชป.จะพยายามเคลียร์ใจไปแล้ว แต่ที่สุดก็ต้องจบด้วยการแยกทางเดิน และต้องเดินหน้าต่อเพื่อหาตัวผู้สมัครสส.หน้าใหม่ทดแทนผู้ที่กำลังย้ายเข้าสังกัดใหม่และกลับมาเป็นคู่แข่งในพื้นที่เดิม
สำหรับพื้นที่ จ.สงขลา ชัดเจนแล้วว่า “เพชร” สรรเพชญ บุญญามณี สส. ปชป.เขต 1 ลูกชาย “นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป.และอดีตสส.ปชป.หลายสมัย จะย้ายไปสังกัดภูมิใจไทย
มีคนเดินออกไป ก็ต้องมีเดินสวนเข้ามา เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2568 “ชัยชนะ เดชเดโช” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคใต้ ได้เปิดตัว “น้องภู-สิทธิพัฒน์ แสนเนียม” ทายาทของ “วินัย เสนเนียม” อดีตสส.ปชป. ลงสมัครสส.สงขลา เขต 4
สิทธิพัฒน์ หรือ น้องภู วัย 27 ปี เป็นบุตรชายของ นายวินัย เสนเนียม และเป็นหลานชายของ นายถาวร เสนเนียม อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นทายาททางการเมืองในจังหวัดสงขลา
ขณะเดียวในพื้นภาคใต้ตอนล่างก็มีการเปลี่ยนแปลง หลังอดีตหัวหน้าพรรคปชป. “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” นำกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสส.ปชป. เทค่ายสีฟ้า บางกระแสระบุว่า เตรียมเข้าไปซบพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แต่ด้านหนึ่งด้วยสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ค่ายภูมิใจธรรม จึงต้องจับตาการตัดสินใจใจในโค้งสุดท้าย
สำหรับกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ทั้ง 11 คนประกอบด้วย ประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ , จักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ , เดชอิศม์ ขาวทองสส.สงขลา , สุภาพร กำเนิดผล สส.สงขลา , ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา ,ชาตรี หล้าพรหม สส.สกลนคร
วุฒิพงษ์ นามบุตร สส.อุบลราชธานี , สุพัชรี ธรรมเพชร สส.พัทลุง , ยุทธการ รัตนมาศ สส.นครศรีธรรมราช มพลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา และยูนัยดี วาบา สส.ปัตตานี
ส่วนอดีตสส.หญิงที่ไปแล้วกลับ คือ “รังสิมา รอดรัศมี” ที่ลาออกไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ได้กลับมาอยู่ที่พรรคปชป. เช่นเดิม
และรอสวมเสื้อสีน้ำเงิน ภูมิใจไทยอีก 2 คน อย่างเป็นทางการ นอกจาก “ตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร อดีตสส.ปชป. ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นประธานคณะที่ปรึกษา “สุชาติ ชมกลิ่น “ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ “สุชาติ” เป็นรองนายกฯในรัฐบาลอนุทิน ได้ย้ายเข้าสังกัดภูมิใจไทย เพื่อเข้ามากำกับดูแลและจัดทัพเลือกตั้งในเขตพื้นที่โซนภาคตะวันออกทั้งหมด
ยังมี “ดร.กานต์” รัชดา ธนาดิเรก อดีตสส.ปชป. รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ย้ายเข้าสังกัดค่ายสีน้ำเงินแล้ว หลังเข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีของ “ภราดร ปริศนานันทกุล” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
“ย้ายมาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเรียบร้อยแล้ว วันนี้ตั้งใจเข้ามาทำงานช่วยรัฐบาลภายใต้ระยะเวลาที่มีไม่มากนัก แต่ปัญหาบ้านเมืองมีเยอะ ภูมิใจและเป็นเกียรติที่นายกฯให้ความไว้วางใจ ... ส่วนในทางการเมืองเรื่องของการเลือกตั้งยังไม่ได้มีการวางแผนว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งแบบเขตหรือจะไปในทิศทางใด” รัชดา กล่าว หลังเข้าทำเนียบวันนี้ (5 พ.ย.2568)
เสียงปี่กลองการเมืองดังมาแต่ไกล คนเก่าจากไป คนใหม่เข้ามา เป็นวัฏจักรโลก ค่ายพระแม่ธรณีบีบมวยผม “ประชาธิปัตย์” ก็ตรมไม่ต่างกัน ยามอัสดง ก็เป็นเช่นนี้ เวลาสั้น ๆ ที่เหลือ ก่อนจะถึงฤดูกาลเลือกตั้งครั้งหน้า จึงน่าจับตา หัวหน้าพรรคปชป.ว่าจะพลิกฟื้นฐานเสียงให้กลับมาสนับสนุนอย่างไร
อ่านข่าว
แจ้งเกิด “พล.อ.รังษี” ดาวรุ่งการเมืองคนใหม่ “สงครามไทย-กัมพูชา”
ดงหนาม “ชินวัตร” จุลพันธ์ ลุยฝ่ากับดัก ชี้ชะตาอนาคต “เพื่อไทย”
เลือดเก่า ปชป.ไหลกลับ ดัน “อภิสิทธิ์” นั่งหัวหน้าพรรคคนที่ 10