ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คนไทยทำอย่างไร เมื่อ “ข้อมูลส่วนบุคคล” รั่ว ฟ้องรัฐได้ไหม ? วิธีดูแลตัวเอง


บทความพิเศษ

7 เม.ย. 66

ชาลี นวธราดล

Logo Thai PBS
แชร์

คนไทยทำอย่างไร เมื่อ “ข้อมูลส่วนบุคคล” รั่ว ฟ้องรัฐได้ไหม ? วิธีดูแลตัวเอง

https://www.thaipbs.or.th/now/content/106

คนไทยทำอย่างไร เมื่อ “ข้อมูลส่วนบุคคล” รั่ว ฟ้องรัฐได้ไหม ? วิธีดูแลตัวเอง
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

กรณีรายงานของ บริษัท Resecurity ในเดือน ม.ค. 67 พบว่า มีข้อมูลคนไทย กว่า 20 ล้านชุด ถูกประกาศขายในฟอรัมซื้อขายข้อมูล มากที่สุด คือ จากกรมกิจการผู้สูงอายุ 19.7 ล้านแถวข้อมูล 

ทำให้หลายคนเริ่มคิดว่า กรณีแบบนี้ประชาชนสามารถฟ้องร้องเอาผิดหน่วยงานรัฐที่ปล่อยให้ข้อมูลรั่วไหลได้หรือไม่ แล้วต่อไปจะมีวิธีป้องกันอย่างไร

ข้อมูลส่วนบุุคคลรั่ว ภาพประกอบ

วันใหม่ วาไรตี้ ไทยพีบีเอส สัมภาษณ์พิเศษ ดร. อุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ก่อตั้งสื่อ PDPA Thailand ถึงเรื่องนี้ ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่าหน่วยงานที่ทำให้ข้อมูลหลุด มีมาตรการรักษความปลอดภัยที่ดีพอหรือยัง ? ซึ่งเป็นหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องไปตรวจสอบ

ดร.อุดมธิปก กล่าวว่า แต่สิ่งที่ประชาชนต้องกังวลตอนนี้คือ มีอีกกี่หน่วยงานที่มีข้อมูลแบบนี้ แล้วหน่วยงานเหล่านั้นเก็บข้อมูลประชาชนมากเกินความจำเป็นหรือไม่ ยกตัวอย่างจำเป็นไหมที่ต้องเก็บข้อมูล เช่น เลขบัตรประชาชน พร้อมที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือจริง ๆ เก็บแค่ชื่อนามสกุลและเลขบัตรประชาชนก็พอ แต่ที่อยู่ไม่ต้อง

“หลาย ๆ หน่วยงานบางทีขอข้อมูลเรา อาศัยฐานกฎหมาย ฐานสัญญา ไม่งั้นทำธุรกรรม ทำอะไรไม่ได้ แต่เวลาเราให้เรายังมีสิทธิ ฉะนั้นหากเก็บมากเกินความจำเป็น เวลาโดนแฮก ผมฟ้องคุณ ซึ่งผมไม่ได้ฟ้องว่าคุณทำข้อมูลโดนแฮก แต่ฟ้องเพราะเอาข้อมูลเกินความจำเป็น” 

ดร. อุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ก่อตั้งสื่อ PDPA Thailand

ข้อมูลส่วนบุคคล คนไทย 55 ล้านคนรั่ว ประชาชนฟ้องรัฐได้ไหม ?

ดร. อุดมธิปก กล่าวว่า ฟ้องได้เลยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สามารถไปที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคศ.) แต่กฎหมายยังมีอุปสรรคว่ายังเปิดให้ร้องเรียนเป็นรายบุคคลไป การร้องเรียนแบบกลุ่มยังไม่มี แต่นอกจากช่องทางนี้ ยังสามารถฟ้องอาญาได้ และฟ้องแพ่งเป็นคดีผู้บริโภค ซึ่งฟ้องแบบกลุ่มได้ 

ส่วนการฟ้องรายบุคคลที่ สคศ. จะทำให้มีเอกสารร้องเรียนเป็นล้านฉบับหรือไม่นั้น ดร. อุดมธิปก กล่าวว่า ต้องดูว่าสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะออกแบบอย่างไร เรื่องบางเรื่องประชาชนอาจไม่ต้องร้องเรียน แต่เขาเห็นว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่ อาจแอคชั่นได้เลยก็ได้

อ่าน - เรื่องใกล้ตัวกว่าที่คิด! “อาชญากรรมทางไซเบอร์” รู้จักไว้..ป้องกันภัยไม่ตกเป็นเหยื่อ

อาชญากรรมทางไซเบอร์

ประชาชนทำยังไงได้บ้าง เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหลุด ? 

ดร. อุดมธิปก แนะนำว่า เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ ในมุมมองผมการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ เป็นวิธีง่ายที่สุด ยกเว้นการตั้งรหัส 2 ชั้นเวลาทำธุรกรรม ซึ่งอันนี้สำหรับคนที่มีความรู้ แต่ประชาชนทั่วไปหากอยากป้องกันตัวเอง มีความกังวลมาก แนะนำเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพราะเราเปลี่ยนเลขที่บัตรประชาชนไม่ได้ 

“จากนี้ประชาชนทุกคนต้องระมัดระวังการให้ข้อมูลกับบุคคลอื่น ไม่ว่าข้อมูลจะหลุดไปหรือไม่ ต้องมองเป็นเรื่องซีเรียส อาจถามเลยว่าจำเป็นต้องให้ข้อมูลไหม แล้วต้องให้มากน้อยแค่ไหน หลังจากนั้นสร้างความรัดกุมการจัดการเรื่องพาสเวิร์ดต่าง ๆ ”

ส่วนหน่วยงานเก็บข้อมูล ดร. อุดมธิปก ฝากว่า จากนี้ต้องมาดูว่าจำเป็นต้องเก็บข้อมูลไหม เก็บข้อมูลมากน้อยอย่างไร เก็บข้อมูลมาแล้วต้องรักษาความปลอดภัยให้ดีพอ ที่สำคัญหากข้อมูลหลุดออกไป แล้วไม่มีมาตรการ ไม่ได้สั่งการให้มีการรักษาข้อมูลที่ดี กฎหมายสามารถลงโทษกรรมการหรือผู้มีอำนาจสูงสุดติดคุกได้

อ่านเพิ่มเติม 

 


 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

PDPAหมอพร้อมข้อมูลส่วนบุคคลแฮกเกอร์
ชาลี นวธราดล
ผู้เขียน: ชาลี นวธราดล

เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล ไทยพีบีเอส

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด