ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ฟ้องใครได้บ้าง หากได้รับผลกระทบจาก ‘อุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐ’ ?


How to

พีรชัย พสุทันท์

แชร์

ฟ้องใครได้บ้าง หากได้รับผลกระทบจาก ‘อุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐ’ ?

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3195

ฟ้องใครได้บ้าง หากได้รับผลกระทบจาก ‘อุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐ’ ?


อุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐมีให้เห็นกันบ่อยบนหน้าฟีดข่าวของคนไทย สร้างความเสียหายไม่มากก็น้อยแก่ประชาชนกับคนงานในพื้นที่แทบทุกครั้ง

แม้ว่างานก่อสร้างภาครัฐต่าง ๆ ล้วนดำเนินการด้วยผู้รับเหมาเอกชน แต่หน่วยงานรัฐเจ้าของโครงการนั้น ๆ ก็มีส่วนรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนไซต์งาน ดังนั้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินสามารถฟ้องร้องหน่วยงานรัฐและผู้รับเหมาเอกชนที่เกี่ยวข้องได้

คำถามที่ตามมาคือ หน่วยงานรัฐและเอกชนอาจถูกฟ้องร้องในความผิดฐานไหนบ้างจากอุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐ แล้วคดีความเช่นนี้มี ‘ตัวอย่างจริง’ มากแค่ไหน ?

เหตุถนนสามเสนทรุดตัว เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 68 ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นในโครงการงานก่อสร้างภาครัฐ (ภาพจาก: สุภณัฐ รัตนธนาประสาน)

อุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐ = ความประมาทของหน่วยงานรัฐและเอกชน

เมื่อเกิดอุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐจนมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227 ระบุไว้ว่า หากใครออกแบบ ควบคุม ก่อสร้าง ซ่อมแซม หรือรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างใด ๆ โดยไม่ทำตามหลักเกณฑ์หรืออาจทำให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากมีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต โทษสูงสุดคือจำคุก 25 ปีและปรับ 400,000 บาทตามมาตรา 238 แต่ถ้าเป็นการกระทำโดยประมาทและเสี่ยงที่จะทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ชีวิต ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา 239

ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐยังสามารถฟ้องแพ่งบริษัทผู้รับเหมาและหน่วยงานรัฐในฐาน ‘ละเมิด’ ได้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 มีใจความว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อจนทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายในชีวิตหรือทรัพย์สิน ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน นอกจากนี้ ตัว ‘หน่วยงานรัฐ’ ยังอาจเข้าค่ายความผิดตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 5 เนื่องจากเลินเล่อในการกำกับดูแลความปลอดภัยของไซต์งานก่อสร้างภาครัฐ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่รัฐกระทำนอกอำนาจหน้าที่จนเกิดอุบัติเหตุ ก็จะถูกฟ้องโดยตรงตามมาตรา 6

แนวทางการวินิจฉัยของศาลในคดีอุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐ

เมื่อมีคดีความเกี่ยวกับอุบัติเหตุงานก่อสร้างภาครัฐ ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาตัดสินและออกคำสั่งถึงหน่วยงานรัฐผู้ถูกฟ้องคดี ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 9 หมวด 3 ซึ่งว่าด้วยคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือการละเลยต่อหน้าที่ของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่รัฐ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ศาลปกครองก็ได้ตัดสินคดีความในลักษณะนี้จนถึงที่สุดอยู่หลายคดี ในที่นี้ จะยกเพียงตัวอย่างคำตัดสินที่หน่วยงานรัฐต้องชดใช้ให้แก่ผู้เสียหาย เพื่อให้เห็นแนวทางการพิจารณาคดีของศาลฯ แบบคร่าว ๆ

เมื่อปี 2556 ผู้ใช้รถใช้ถนนคนหนึ่งชนกับขอบปูนข้างทางบนถนนเอเชียขาเข้ากรุงเทพฯ เพราะมองไม่เห็นการซ่อมบำรุงถนนช่วงกลางคืน จึงมีการฟ้องร้องต่อกรมทางหลวง เมื่อศาลฯ พิจารณาข้อเท็จจริง พบว่าผู้รับเหมาไม่ได้ติดตั้งไฟส่องทางหรือวางกรวยให้ผู้สัญจรเห็นชัดเจน ถือได้ว่ากรมทางหลวงละเลยต่อการดูแลความปลอดภัยของโครงการบูรณะเส้นทาง และต้องรับผิดชอบในอุบัติเหตุครั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษายืนให้กรมทางหลวงชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจำนวน 41,750 บาทพร้อมดอกเบี้ย ตามคำวินิจฉัย อ.219/2561

ในปี 2556 ปีเดียวกันนั้น ที่จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุลวดสลิงขึงสะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ขาด ทำให้จักรยานยนต์คันหนึ่งตกลงและมีผู้เสียชีวิต 1 คน แม้บริษัทผู้รับเหมาจะใช้วัสดุก่อสร้าง ‘ผิดสเปก’ และไม่ได้แจ้งให้เทศบาลฯ เจ้าของโครงการปิดสะพานเพื่อรอการซ่อมแซม แต่เทศบาลฯ นั้นรู้อยู่ถึงปัญหาของสะพานดังกล่าวอยู่แล้วและไม่สั่งปิดการใช้งานสะพานเอง จึงถือว่าเทศบาลฯ ละเลยต่อหน้าที่ โดยต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ฟ้องร้องเป็นเงิน 71,200 บาทพร้อมดอกเบี้ยตามคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด อผ.126/2566

ถนนพระราม 2 เกิดอุบัติเหตุจากงานก่อสร้างภาครัฐบ่อยครั้ง (ภาพจาก: ฉัฐพัชร์ สุวรรณยุหะ, สุพันธ์ ทรัพย์วรกิจ)

อีกตัวอย่างหนึ่ง คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่ 2565/2566 ระบุให้กรมทางหลวงชดใช้แก่บิดา-มารดาของผู้เสียชีวิตจากเหตุคานปูนสะพานกลับรถบนถนนพระราม 2 หล่นทับในปี 2565 เนื่องจากศาลฯ เห็นว่า นายช่างโครงการขาดความระมัดระวังในการควบคุมความปลอดภัยงานก่อสร้างจริง อุบัติเหตุครั้งดังกล่าวจึงไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ทั้งนี้ เหตุผลที่บุพการีของผู้เสียชีวิตอ้างว่า ควรได้รับค่าขาดไร้อุปการะและค่าชดใช้อื่น ๆ เป็นเงินกว่า 12 ล้านบาทนั้น ฟังไม่ขึ้น ศาลฯ จึงกำหนดค่าสินไหมทดแทนตามสมควร รวมทั้งอยู่ที่ 920,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยให้แทน

ขึ้นชื่อว่า ‘อุบัติเหตุ’ คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะในโครงการงานก่อสร้างภาครัฐที่ใช้ภาษีของประชาชนคนไทย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับผลกระทบประสบภัยก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องการชดเชยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ส่วนภาครัฐกับผู้รับเหมาเอกชนเองต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยความโปร่งใสด้วยเช่นกัน

รอบรู้เรื่องกฎหมายใกล้ตัวกับบทความจาก Thai PBS NOW

อ้างอิง

  • คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.๒๑๙/๒๕๖๑
  • คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อผ.๑๒๖/๒๕๖๖
  • คำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขแดงที่ ๒๕๖๕/๒๕๖๖
  • พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙
  • ประมวลกฎหมายอาญา , สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ , สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
  • รายการกฎหมายชายคา ปัญหาชาวบ้าน โดย ศาลปกครอง, สวพ. FM91 [2 พ.ย. 67]
  • นักวิชาการ มธ. ชี้ ‘คานพระราม 2 ถล่ม’ ผู้เสียหายฟ้องหน่วยงานรัฐ-การทางพิเศษได้ เหตุรัฐต้องรับผิดแม้ความเสียหายเกิดจากเอกชน, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ติดตามบทความและเรื่องราวทันทุกกระแสที่ Thai PBS NOW: www.thaipbs.or.th/now

แท็กที่เกี่ยวข้อง

อุบัติเหตุงานก่อสร้างงานก่อสร้างภาครัฐกฎหมายอาญากฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พีรชัย พสุทันท์

ผู้เขียน: พีรชัย พสุทันท์

ศิษย์เก่าอักษร จุฬาฯ และโปรแกรมปริญญาโททุน EU ด้านวรรณกรรมยุโรปในฝรั่งเศสและกรีซ ผู้ชอบพาตัวเองไป (หลง) อยู่ในกระแสพหุวัฒนธรรม และเปิดเพลง ABBA ประโลมชีวิตทุกครั้งที่เขียนงาน | @porrorchor

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด