ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รวม "โค้ชนักปั้น" พานักกีฬาเยาวชนดาวรุ่งมุ่งสู่แชมป์


กีฬา

สันทัด โพธิสา

แชร์

รวม "โค้ชนักปั้น" พานักกีฬาเยาวชนดาวรุ่งมุ่งสู่แชมป์

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3366

รวม "โค้ชนักปั้น" พานักกีฬาเยาวชนดาวรุ่งมุ่งสู่แชมป์

 

จากผลงานของทีมฟุตบอล รร.หมอนทองวิทยา ที่นำโดยผู้ฝึกสอน อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ ได้สร้างความสนใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ โดยเฉพาะกับแฟน ๆ กีฬาฟุตบอล แต่หากย้อนเวลากลับไป ที่ผ่านมา เคยมีผู้ฝึกสอนกีฬาอีกหลายประเภท ที่สามารถพานักกีฬาดาวรุ่ง ไปคว้าแชมป์การแข่งขันต่าง ๆ จนหลายคนได้รับการขนานนามว่า เป็น “โค้ชนักปั้น” Thai PBS ชวนย้อนดูเรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้น ว่ามีใครกันบ้าง

โค้ชนักปั้น หนึ่งฤทัย สระทองเวียน “โค้ชหนึ่ง” ผู้พานักกีฬาฟุตบอลหญิงไทยไปบอลโลก

หนึ่งฤทัย สระทองเวียน

เอ่ยชื่อ “โค้ชหนึ่ง” ในแวดวงฟุตบอลหญิงไทย ต่างเป็นที่ยอมรับในฝีไม้ลายมือเป็นอย่างดี ในอดีตเธอคือนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ก่อนจะผันตัวมาเป็นโค้ชทีมฟุตบอล ด้วยความคิดที่อยากพัฒนานักกีฬาเยาวชน 

จากนั้นจึงได้รับโอกาสเป็นโค้ชฟุตบอลโรงเรียนกีฬาอยู่หลายแห่ง กระทั่งก้าวเข้าสู่การเป็นโค้ชฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งโค้ชหนึ่งคุมทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยมาแล้วทั้งในรุ่น 12, 13, 14, 15, 16 ปี เรียกว่าวางรากฐานในการพัฒนาเยาวชนมาทั้งหมด

ภาพจาก เฟซบุก FA Thailand

โค้ชหนึ่งฟูมฟักนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยอยู่นับสิบปี กระทั่งในปี 2557 โค้ชหนึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ก่อนที่เธอจะพานักเตะทัพชบาแก้ว จบในอันดับที่ 5 ของรายการฟุตบอลเอเชียนคัพ 2014 ทำให้ได้รับสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลโลกหญิง 2015 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยอีกด้วย

จากการเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกหญิงเป็นครั้งแรก โค้ชหนึ่งยังต่อยอดความสำเร็จ พานักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลกหญิงปี 2019 ได้อีกครั้ง ทำให้ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยกลายเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ 

ปัจจุบันโค้ชหนึ่งหวนกลับมาคุมนักกีฬาฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พร้อมกับความมุ่งมั่นในการปลุกปั้นนักกีฬาฟุตบอลหญิงรุ่นใหม่ ๆ ให้ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ ๆ ที่เคยสร้างชื่อเสียงเอาไว้อีกครั้ง

โค้ชนักปั้น เซียะ จื่อหัว “โค้ชเซียะ” ผู้ปลุกปั้นนักกีฬา “เมย์ รัชนก” สู่แชมป์แบดมินตันโลก

เซียะ จื่อหัว หรือ ก่อเกียรติ ชัยประสิทธิ์โชค

อีกหนึ่งโค้ชที่โดดเด่นเรื่องการปั้นนักกีฬาดาวรุ่ง นั่นคือ โค้ชเซียะ หรือ เซียะ จื่อหัว (ปัจจุบันโอนสัญชาติ เปลี่ยนชื่อเป็น ก่อเกียรติ ชัยประสิทธิ์โชค) ชายผู้นี้เคยพา “รัชนก อินทนนท์” คว้าแชมป์แบดมินตันชิงแชมป์โลกมาแล้ว 

ย้อนเวลากลับไป โค้ชเซียะเป็นอดีตนักแบดมินตันทีมชาติจีน ก่อนจะผันตัวมาอยู่เมืองไทย โค้ชเซียะเริ่มต้นฝึกแบดมินตันให้กับ เมย์ รัชนก ตั้งแต่อายุราว 5 ขวบ และเห็นพรสวรรค์ในตัวเธอ โดยเฉพาะเรื่องความละเอียดในการเล่น และหัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่งเกินเด็ก กระทั่ง เมย์ รัชนก ได้เป็นตัวแทนนักกีฬาแบดมินตันลงแข่งในระดับเยาวชนของประเทศ และประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์เยาวชนโลกได้สามสมัยซ้อน (ปี 2009-2010-2011)

ในช่วงเวลาดังกล่าว ชื่อ เมย์ รัชนก อินทนนท์ กลายเป็นนักกีฬาดาวรุ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในแวดวงแบดมินตันไทย เมื่อใดที่เธอลงแข่งขัน ผู้ชมมักจะได้เห็นโค้ชเซียะ นั่งติดขอบสนามเพื่อคอยแนะนำการเล่นอยู่เสมอ 

ผลงานของเมย์ รัชนก มาพีคสุด ๆ ในปี 2013 ด้วยการคว้าแชมป์แบดมินตันโลก พร้อมกับสร้างสถิติคว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์ 3 รายการในรอบ 3 สัปดาห์ ซึ่งยังไม่เคยมีนักกีฬาแบดมินตันคนใดเคยทำได้อีกด้วย ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือผลของการฝึกซ้อมและการเห็นแววของโค้ชเซียะ ที่ส่งให้เมย์ รัชนก ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างแท้จริง
 

โค้ชนักปั้น วิทยา เลาหกุล “โค้ชเฮง” ผู้เป็นหัวใจนักกีฬาฟุตบอลเยาวชนแห่งชลบุรี

วิทยา เลาหกุล

หากว่ากันในโลกฟุตบอลแล้ว ชื่อ วิทยา เลาหกุล ถือเป็นหนึ่งในนักกีฬาฟุตบอลคนไทยที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ นี่คือนักฟุตบอลไทยในยุคบุกเบิก ที่พาตัวเองข้ามน้ำข้ามทะเลไปเล่นในลีกประเทศเยอรมนี ทั้งสโมสรแฮร์ธ่า เบอร์ลิน และซาร์บรู๊คเค่น รวมถึงสโมสรในประเทศญี่ปุ่นอย่าง ยันมาร์ ดีเซล หรือปัจจุบันคือทีมเซเรโซ่ โอซาก้า

แต่สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้น เมื่อโค้ชเฮงยุติเส้นทางการเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพลงแล้ว เขาเดินหน้าสู่การเป็นโค้ชฟุตบอล โดยเจ้าตัวเคยเดินทางไปทำงานโค้ชยังประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะกลับมาทำงานกับสโมสรชลบุรี เอฟซี ตั้งแต่ทีมยังอยู่ในโปรลีก จนสามารถพาทีมขึ้นมาเล่นในไทยลีกได้เป็นครั้งแรก

ภาพจาก FA Thailand

ขณะเดียวกัน โคชเฮงยังให้ความสนใจในการปั้นนักเตะเยาวชนของสโมสร ให้ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลัก แถมหลาย ๆ คนยังพัฒนาต่อไปจนติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ อาทิ พิภพ อ่อนโม้ , สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, สุรีย์-สุรัตน์ สุขะ, ณัฐพงษ์ สมณะ, เกียรติประวุฒิ สายแวว, อดุล หละโสะ, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, นูรูล ศรียานเก็ม ฯลฯ

แม้ในเวลาต่อมา โค้ชเฮงจะต้องเข้ามารับงานโค้ชขัดตาทัพให้กับชลบุรี ยามเมื่อทีมประสบปัญหา ทว่าเมื่อทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย โค้ชเฮงก็กลับไปยืนหยัดทำหน้าที่ “พัฒนาเยาวชน” ให้กับสโมสรชลบุรี เอฟซี ดังเดิม ซึ่งนักกีฬาที่ผ่านการดูแลจากโค้ชเฮง หลายต่อหลายคน กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในแวดวงฟุตบอลไทยในวันนี้ ทั้งหมดคือความสามารถในการเจียรนัยของโค้ชนักปั้นคนนี้อย่างแท้จริง

โค้ชนักปั้น เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร “โคชอ๊อต” ผู้พานักกีฬาวอลเลย์บอล 7 เซียนเข้าไปนั่งในหัวใจคนไทย

เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร (ภาพจากเฟซบุก เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร )

เอ่ยชื่อกีฬา “วอลเลย์บอล” นี่คือหนึ่งในกีฬามหาชนของคนไทย แต่ที่มาที่ไปที่ทำให้วอลเลย์บอลไทยฟีเวอร์ ต้องยกเครดิตให้ผู้ชายที่ชื่อ เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หรือ โคชอ๊อต 

ในเส้นทางวอลเลย์บอล โคชอ๊อต เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย เคยคว้าเหรียญทองซีเกมส์เมื่อปี 2538 และสร้างเกียรติประวัติในนามทีมชาติอีกมากมาย โดยเฉพาะการเป็นหนึ่งในนักกีฬาวอลเลย์บอลชายทีมชาติไทย เข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลชายชิงแชมป์โลก ในปี 2541 

หลังยุติการเป็นนักวอลเลย์บอล โค้ชอ๊อตเดินหน้าสู่การเป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬาวอลเลย์บอล ก่อนจะได้รับโอกาสในการคุมนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชุดยุวชน ที่รวบรวมนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงจำนวนกว่า 18 คนมาเข้ารับการฝึกฝน เพื่อสานต่อสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในอนาคต

นั่นคือจุดเริ่มต้นของนักวอลเลย์บอลหญิงดาวรุ่งในขณะนั้นอย่าง วรรณา บัวแก้ว และ วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ รวมไปถึง ปลื้มจิตร์ ถินขาว, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์, อำพร หญ้าผา, มลิกา กันทอง ที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้น และกลายเป็นกำลังหลักให้กับวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย

มากไปกว่านั้น คือการสร้างผลงานในระดับโลกมากมาย อาทิ เข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์แชมเปียนชิพ การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก รวมถึงรายการแข่งขันวอลเลย์บอลเวิลด์กรังปรีซ์ 

โค้ชอ๊อต กับการสร้างทีมวอลลย์บอลหญิง จากรุ่นสู่รุ่น (ภาพจากเฟซบุก เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร )

ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยในการทำทีมของโค้ชอ๊อต ก้าวขึ้นสู่ความเป็นทีมระดับโลก พร้อมจุดกระแสความนิยมในหมู่แฟนกีฬาชาวไทย รวมทั้งยังส่งต่อความเชื่อในการ “สร้างนักกีฬา” ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อต่อยอดสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ชัชชัย เช “โค้ชเช” ผู้พานักกีฬาดาวรุ่งเทควันโดไทยสู่เหรียญทองโอลิมปิก

โค้ชเช และ เทนนิส พาณิภัค เหรียญทองโอลิมปิกคนล่าสุด

หากจะมองหาโค้ชผู้สามารถปั้นดินสู่ดวงดาวได้ หนึ่งในนั้นต้องมี “โค้ชเช” ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้ชายคนนี้เป็นโค้ชชาวเกาหลีใต้ ที่มาสร้างความมหัศจรรย์ให้กับแวดวงกีฬาเทควันโดไทยอย่างแท้จริง

โค้ชเช หรือชื่อเดิมคือ ชเว ยอง ซอก ในอดีตเป็นนักกีฬาเทควันโดแห่งเกาหลีใต้ แถมยังร่ำเรียนในสาขาวิชาของกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง โค้ชเชก้าวเข้าสู่การเป็นโค้ชเทควันโดในช่วงปี 2000 โดยเป็นโค้ชเทควันโดให้กับนักกีฬาทีมชาติบาห์เรน ต่อมาในปี 2002 โค้ชเชได้รับคัดเลือกให้มาเป็นโค้ชนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย

ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี โค้ชเชฝึกฝนนักกีฬาเยาวชนไทยให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นนักกีฬาเทควันโดที่ประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ  เยาวภา บุรพลชัย, บุตรี เผือดผ่อง, ชัชวาล ขาวละออ,ชนาธิป ซ้อนขำ โดยเฉพาะในรายของ พาณิภัค วงศ์พัฒนากิจ นักกีฬาที่สามารถคว้าแชมป์โลกเทควันโดหญิง ในปี 2015 และปี 2019 รวมทั้งเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยซ้อนในปี 2020 และ 2024 

ภาพจาก เฟซบุก COACH CHOI

ปัจจุบันโค้ชเช ได้รับการเปลี่ยนสัญชาติเป็นไทย พร้อมชื่อใหม่ ชัชชัย เช แต่สิ่งที่ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไป คือความตั้งใจในการพัฒนานักกีฬาเยาวชนไทย ให้ขึ้นสู่การเป็นนักกีฬาเทควันโดที่ประสบความสำเร็จต่อไป

“มีโค้ชดี” มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่มากกว่าการมีโคชที่ดี คือการมีโค้ชที่เข้าใจ และสั่งสอนให้นักกีฬามีระเบียบ มีวินัย และมีความเป็นมืออาชีพ แม้จะไปไม่ถึงฝัน แต่ทัศนคติที่ดี จะทำให้นักกีฬาเหล่านี้เติบใหญ่ เป็นบุคคลที่ดี มีคุณภาพต่อสังคมต่อไป…

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

โค้ชนักปั้นโค้ชนักกีฬานักกีฬาเยาวชนดาวรุ่งแชมป์
สันทัด โพธิสา

ผู้เขียน: สันทัด โพธิสา

เจ้าหน้าที่เนื้อหาออนไลน์อาวุโส Thai PBS สนใจความเคลื่อนไหวของสังคม ผู้คน และเทรนด์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ และรวมถึงเป็นสมาชิกทาสแมวมายาวนาน

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด