ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

How to move on หากจบความสัมพันธ์ในเดือนธันวาคม ?


Thai PBS Care

พีรชัย พสุทันท์

แชร์

How to move on หากจบความสัมพันธ์ในเดือนธันวาคม ?

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3434

How to move on หากจบความสัมพันธ์ในเดือนธันวาคม ?


เป็นธรรมดาที่หากคู่รักเลิกรา ต่างฝ่ายต่างต้อง move on กันไป แต่ถ้าเกิดจบความสัมพันธ์ช่วงท้ายปี ก็คงจะยากยิ่งกว่าเดิมสำหรับใครหลายคน

แน่นอนว่า เมื่อเราพบเจอใครที่ถูกใจสักคนแล้ว ก็อยากที่จะรักษาความสัมพันธ์กันไปนาน ๆ และ “อยู่ทน” ต่ออุปสรรคต่าง ๆ แต่เมื่อความรักกลายเป็นพิษหรือมีปัญหารุมเร้าเกินกว่าที่จะรับไว้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้อง “ทนอยู่” ในสภาวะเช่นนั้น ทุกวันนี้ หลายคนจึงไม่ได้มองว่า การเลิกรากับการหย่าร้างเป็น “ความล้มเหลว” ในชีวิต หากแต่เป็น “ความกล้าหาญ” ที่คนคนหนึ่งยอมรับความเป็นจริง เพื่อให้ชีวิต move on ต่อไปได้

นี่ไม่ได้หมายความว่า การ move on หรือการทำใจอะไรต่าง ๆ จะง่ายขึ้นนะครับ ขึ้นชื่อว่า “จบ” ก็ต้อง “เจ็บ” ไม่มากก็น้อยอยู่ดี คำถามจึงอยู่ที่ว่า หากเราเลิกรากับคนรักช่วงใกล้วันสิ้นปี ควรรับมือและ move on อย่างไรให้เจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ?

จะทำอย่างไรให้ move on ได้หลังจากเลิกรากับคน (ที่เคย) รักกัน ?

ไขความเชื่อ ‘ธันวาคม’ เดือนของคนอกหัก-คน move on ?

พอพูดถึงเรื่องการจบความรักความสัมพันธ์ หลายคนคงเคยได้ยินกันว่า ธันวาคมเป็นเดือนที่คู่รักจะแยกทางและแยกย้ายกันไป move on มากที่สุด โดยเฉพาะวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งขึ้นชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่าเป็น “วันแห่งการเลิกรา” อย่างไรก็ดี นี่อาจเป็นชุดความเชื่อที่ “เก่า” ไปเสียแล้วครับ

ความเชื่อที่ว่า “ธันวาคมเป็นเดือนของคนอกหัก” นั้น ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 2008 นักสถิติ 2 คน ได้แก่ เดวิต แมคแคนด์เลส (David MacCandless) และลี ไบรอน (Lee Byron) ได้วิเคราะห์สเตตัสนับหมื่นของผู้ใช้งาน Facebook พวกเขาพบว่า หลายคนเปลี่ยนสถานะของตัวเองว่า “โสด” ในวันที่ 11 ธันวาคม หรือราว 2 สัปดาห์ก่อนวันคริสต์มาส อย่างไรก็ดี ก็มีข้อโต้แย้งว่า การวิเคราะห์ดังกล่าวนั้นทำแบบไม่เป็นทางการ และข้อมูลก็มีอายุเป็นสิบปีแล้ว อีกทั้งทุกวันนี้ คงมีน้อยคนที่ยังอัปเดตสถานะความสัมพันธ์ของตัวเองบน Facebook กัน

ช่วงคริสต์มาสหรือเทศกาลใหญ่ใด ๆ อยู่ครับ เหตุผลข้อหนึ่งคือ เทศกาลใหญ่เป็นดั่งช่วงเวลาวัดระดับ “ความจริงจัง (commitment)” ในความสัมพันธ์ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายไปเจอพ่อแม่พี่น้องพร้อมฉลองช่วงเวลาสำคัญไปในตัว คนถูกชวนอาจไม่อยากไปหรือเกิดกลัวก็เป็นได้ 

เหตุผลอีกข้อหนึ่งที่คู่รักหลายคู่เลิกกันก่อนคริสต์มาสหรือวันปีใหม่คือ เงินในกระเป๋าหรือบนหน้าแอปฯ ธนาคาร เมื่อหน้าเทศกาลมาถึง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องกินเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ ส่วนคนมีแฟนก็อาจคาดหวัง “ของขวัญพิเศษ” จากซานตา (หรือซานตี) ของตัวเองกัน อย่างไรก็ตาม บางคนก็ไม่อยากเสียเงินซื้อของขวัญคริสต์มาสเพื่อเอาใจใคร รวมถึงอาจ “ตั้งท่า” บอกเลิกคนรักด้วยปัญหาต่าง ๆ ที่สะสมระหว่างทางเป็นทุนเดิม จึงตัดสินใจจบความสัมพันธ์ในเดือนสุดท้ายของปี แล้ว move on กับชีวิตต่อ ในอังกฤษ มีคำเรียกคนที่หักอกคู่รักในฉากทัศน์เช่นนี้ว่า ‘Scrooging’ ซึ่งมีความหมายดั้งเดิมคือ คนตระหนี่ขี้เหนียว 

ถึงแม้ความเชื่อเรื่อง “ธันวาคมเดือนอาถรรพ์รัก” จะยังพิสูจน์ไม่ได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่เมื่อทางรักสิ้นสุดลงในช่วงเวลาดังกล่าว ก็ยังมีหลายวิธีที่พร้อมช่วยให้ชีวิต move on ต่อไปได้

แม้การลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างหลังอกหักจะยาก แต่ก็ยังมีวิธีที่ทำให้ชีวิต move on ต่อไปได้

กุญแจสู่การ move on ไม่ให้เป็นวงกลม

การ (ตัด) จบความรักความสัมพันธ์ส่งผลกระทบทางใจต่อคนอกหักต่างกันไป บางคนอาจรู้สึกใจสลายไม่นานแล้วลุกขึ้นมา move on ต่อไปได้ ส่วนบางคนอาจเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า โดยมี 2 ปัจจัยหลัก ๆ ที่สามารถกำหนดถึงผลกระทบทางใจ ได้แก่ ความปุบปับของการเลิกรา และการรับรู้ของเราต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปว่าเป็นบวกหรือลบ ทั้งนี้ ก็มีคำแนะนำเชิงจิตวิทยาอาจช่วยให้การ move on ช่วงวันสิ้นปีราบรื่นขึ้น เช่น

1) ยอมรับกับตัวเองว่า “กำลังอยู่ในสภาวะใจพัง”
แม้ช่วงคริสต์มาสและปีใหม่จะอบอวลไปด้วยแสงสีและความสนุกสนานต่าง ๆ แต่หากเราฝืนร่าเริงและทำท่าทีเหมือน move on ได้แล้วทั้งที่ใจไม่ไหว อาจส่งผลเสียมากกว่าดีก็เป็นได้ ดังนั้น จึงควรยอมรับอารมณ์และความรู้สึกหนัก ๆ กับตัวเองเสียก่อน และไม่เป็นอะไรเลยหากจะยังรู้สึกไม่โอเคกับเหตุการณ์รักซ้ำที่เพิ่งเกิดขึ้น บางคนอาจเขียนไดอารีเพื่อปลดปล่อยสรรพสิ่งในใจ ก็ช่วยได้เช่นกัน

2) หาคนช่วยและแรงใจ move on 
การพูดคุยกับคนที่ไว้ใจได้ และ/หรือ ผู้เชี่ยวชาญ ก็ช่วยให้เราตกตะกอนหรือระบายความในใจออกมา ในกรณีที่คุยกับคนที่ไว้ใจได้ เราเองก็ต้องให้ความสำคัญกับคนเหล่านี้กลับไปด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การหาความสนใจใหม่ ๆ หรือได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะเป็นการติ่งศิลปิน ออกกำลังกาย ท่องเที่ยว ฯลฯ ก็สำคัญต่อการฮีลใจและ move on ต่อไป

3) ลดเวลาโซเชียลมีเดียลง สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น
บางครั้ง การใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียและหน้าจอมือถือ ก็อาจทำให้ใจฟุ้งซ่านและ move on เป็นวงกลมยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะตอนเห็นรูปภาพกับแฟนเก่า จึงเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากเราหากิจกรรมอื่น ๆ ทำให้ร่างกายได้ขยับ อีกทั้งได้ถนอนสายตาไปในตัวอีกด้วย

การครุ่นคิดเรื่องต่าง ๆ เมื่อพร้อม ก็ช่วยให้เรา move on และประเมินความต้องการต่าง ๆ ในชีวิตด้วยเช่นกัน

4) ดูแลตัวเองผ่านอาหารกายใจ
หลังผ่านช่วงเวลาอกหัก บางคนอาจไม่อยากกินอะไร หรือบางคนอยากตามใจปากสุดขั้ว แต่ทางที่ดีที่สุดคือ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่และกินให้พอดี และอย่าดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวช่วย move on เพราะอาจเป็นพิษต่อร่างกายและขาดสติสัมปชัญญะได้ แต่นอกจากข้าวปลาจะสำคัญแล้ว การออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ และการฝึกสมาธิก็ขาดไม่ได้เช่นกันในการ move on

5) เมื่อพร้อม move on ก็ลองถามใจตัวเองดูในเรื่องต่าง ๆ
สภาวะหลังอกหักอาจเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ “ประเมิน” ตัวเองและความต้องการของตัวเองในอนาคต เช่น ทำไมเราถึงอยากมีแฟน ? รู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายควบคุมหรือถูกควบคุมเมื่อมีแฟน ? การมีแฟนทำให้ชีวิตเป็นสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน ? เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร ? ถึงจะต้องใช้เวลาพักใหญ่เพื่อตอบคำถามเหล่านี้ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนตอบด้วยเช่นกัน

การอยู่ในสภาวะอกหักไม่ใช่และไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ต้องใช้เวลา ตัวช่วยต่าง ๆ และการสำรวจตัวเองครั้งใหญ่เพื่อให้ชีวิตจะ move on ต่อไปได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เราต้องรักตัวเอง และยอมรับความรู้สึกทั้งร้ายดีที่เกิดขึ้นในใจของเรานั่นเองครับ

รอบรู้เรื่องรัก ไปกับบทความจาก Thai PBS NOW

อ้างอิง

  • Break Ups: How to Help Yourself Move On, University of New Hampshire
  • Economist: ‘Tis the Season to Break Up, Time
  • It's 'National Breakup Month'. Here are expert tips on dealing with heartbreak, CBC
  • It’s the most popular day for breakups! Here’s how I got through mine..., The Independent 
  • 'Scrooging' is the new dating trend that will ruin your Christmas, BBC

ติดตามบทความและเรื่องราวทันทุกกระแสที่ Thai PBS NOW: www.thaipbs.or.th/now

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ความรักmove onจิตวิทยาความสัมพันธ์อกหัก
พีรชัย พสุทันท์

ผู้เขียน: พีรชัย พสุทันท์

ศิษย์เก่าอักษร จุฬาฯ และโปรแกรมปริญญาโททุน EU ด้านวรรณกรรมยุโรปในฝรั่งเศสและกรีซ ผู้ชอบพาตัวเองไป (หลง) อยู่ในกระแสพหุวัฒนธรรม และเปิดเพลง ABBA ประโลมชีวิตทุกครั้งที่เขียนงาน | @porrorchor

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด