เมนูหน่อไม้สุดอร่อย ทำง่ายกินได้ทั้งครอบครัว
หน่อไม้เป็นผักพื้นบ้านที่คนไทยทุกภาคคุ้นเคยดี และนิยมนำมาประกอบอาหารหลากหลายเมนู โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่หน่อไม้สดออกตามธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ การเลือกทานผักตามฤดูกาลไม่เพียงแต่ช่วยให้ได้รับสารอาหารที่ดี ราคาถูก และรสชาติอร่อยเต็มที่ แต่ยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นและรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
วันนี้เรามีสูตรอาหารจากหน่อไม้สดมาฝาก 2 เมนูคลาสสิกที่ทำง่ายและอร่อย เหมาะสำหรับการทำกินเองที่บ้าน นั่นคือ "หน่ออั่ว" และ "ต้มจืดหน่อไม้" มาดูกันว่าจะทำอย่างไรกันบ้าง
วิธีเลือกซื้อหน่อไม้สดให้ได้คุณภาพ
ก่อนจะเริ่มปรุงอาหาร สิ่งสำคัญคือต้องรู้จักเลือกหน่อไม้ที่มีคุณภาพดี เมื่อไปซื้อที่ตลาด คุณสามารถใช้วิธีง่าย ๆ คือ ใช้เล็บมือจิกลงไปที่ลำต้น ถ้าจิกได้และมีรอยเข้ามือ แสดงว่าหน่อไม้อ่อนและสด แต่ถ้าจิกแล้วแข็ง จิกไม่เข้า แปลว่าหน่อไม้แก่เกินไปแล้ว จะไม่อร่อย
ในช่วงฤดูฝนเราจะได้กินหน่อไม้สด แต่ถ้าเป็นฤดูอื่น ๆ เช่น ฤดูแล้งหรือฤดูหนาว เราอาจจะได้กินหน่อไม้ดองแทน ซึ่งก็มีรสชาติและเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นกัน
หน่อไม้มีประโยชน์และข้อควรระวัง
หน่อไม้เป็นผักที่อุดมด้วยไฟเบอร์และเป็นพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของโปรไบโอติกในลำไส้ ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร อย่างไรก็ตาม หน่อไม้มีกรดยูริคค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นยอดอ่อน คนที่มีปัญหาเก๊าท์ควรระวังในการบริโภค แต่คนอีสานและคนเหนือมีภูมิปัญญาในการลดฤทธิ์กรดยูริคโดยการกินหน่อไม้พร้อมกับใบย่านาง ซึ่งจะช่วยลดฤทธิ์กัน ทำให้กินแล้วไม่เป็นเก๊าท์
การเตรียมหน่อไม้ก่อนประกอบอาหาร
การปอกและจัดการหน่อไม้
- ตัดหัวท้ายออก
- ใช้มีดผ่าตามยาวแล้วเปิดเปลือกออก
- ควรระวังขนเล็กๆ ที่อยู่บนเปลือก เพราะบางคนอาจแพ้และเกิดอาการคัน
- เลือกใช้เฉพาะส่วนที่อ่อนและสีสวย
การลดความขมของหน่อไม้
- ใส่หน่อไม้ลงในหม้อน้ำเย็น
- เปิดไฟให้เดือด แล้วเทน้ำทิ้ง
- เติมน้ำใหม่และให้เดือดอีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำ 3 ครั้ง
- ชิมดูว่ายังขมอยู่ไหม ถ้ายังขมอยู่ก็ต้มต่อไปอีกน้ำ
- เมื่อต้มเสร็จ หน่อไม้จะมีสีเข้มขึ้นและจะมีขมปลายนิดหน่อย ซึ่งเป็นรสชาติธรรมชาติของหน่อไม้
เมนูหน่ออั่ว สไตล์ภาคเหนือ
หน่ออั่วเป็นเมนูพื้นบ้านของคนภาคเหนือ คำว่า "อั่ว" หมายถึง การยัดไส้หรือสอดไส้ เหมือนกับไส้อั่วที่เราทราบกันดี เมนูนี้มีความพิเศษตรงที่นำหน่อไม้มาเป็นภาชนะบรรจุไส้ แล้วนำไปชุบแป้งทอดจนกรอบ
หน่ออั่ว copy.jpg
ส่วนผสมเครื่องแกง
- พริกชี้ฟ้าแห้งเลาะเมล็ดแช่น้ำ 3 เม็ด
- พริกจินดาแห้ง 4-5 เม็ด
- พริกขี้หนูแห้ง 10 เม็ด
- พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา
- เมล็ดผักชีคั่ว 1 ช้อนชา
- ผิวมะกรูด 1/2 ลูก
- รากผักชี 3 ราก
- ข่าหั่นแว่น 5-7 แว่น
- ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง 8 ลูก
- กระเทียมไทยปอกเปลือก 10 กลีล
- กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมไส้
- หน่อไม้รวกต้มสุก 3-5 ชิ้น
- หมูสับ 100 กรัม
- กุ้งสับ 50 กรัม
- น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ขาว 1 ฟอง
- ใบมะกรูด ผักชีฝรั่งซอย ผักชีซอย
- น้ำปูนใส 1/2 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 4-5 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำเครื่องแกงแดงแบบตำ
การตำเครื่องแกงด้วยสากและครกจะทำให้ได้กลิ่นหอมกว่าการปั่น เพราะการตำทำให้น้ำมันหอมระเหยออกมามากกว่า ในขณะที่การปั่นเป็นการใช้ใบมีดตัด ไม่ได้กระแทก น้ำมันหอมระเหยจึงออกมาน้อยกว่า
- เริ่มจากตำพริกไทยให้ละเอียดก่อน
- ใส่เม็ดผักชีตำต่อ
- ตามด้วยรากผักชี ผิวมะกรูด และพริก
- ใส่ตะไคร้ ข่า หอม และกระเทียม
- สุดท้ายใส่กะปิปิดท้าย
- ตำทุกอย่างให้ละเอียดเข้ากัน แต่ไม่ต้องละเอียดเกินไป พอให้มีพริกแล่นใบ
วิธีทำหน่ออั่ว
- ปอกหน่อไม้และลวกให้สุก
- ใช้เครื่องมือขูดหรือเจาะตรงกลางหน่อไม้ให้เป็นโพรงรอบๆ เพื่อเตรียมยัดไส้
- ผสมหมูสับ กุ้งสับ เครื่องแกง น้ำปลา น้ำตาล และไข่ขาวเข้าด้วยกัน
- ปรุงรสให้ชัดกว่าปกติเล็กน้อย
- ผสมผักตามชอบ เช่น ผักชี ใบเลื่อย ถั่วฝักยาว
- ยัดไส้ที่ผสมแล้วลงในโพรงหน่อไม้
- ผสมแป้งข้าวเจ้า เกลือ และน้ำปูนใส
- ชุบหน่อไม้แห้งก่อน แล้วค่อยชุบแป้งเปียก
- ทอดในน้ำมันร้อนด้วยไฟปานกลาง (ไม่ควรใช้ไฟแรงเกินไปเพราะข้างนอกจะไหม้แต่ข้างในยังไม่สุก)
- ทอดจนเหลืองกรอบ
น้ำจิ้มหน่ออั่ว สูตรหวานเผ็ด
- น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า (ท่วมน้ำตาลพอดี)
- พริกชี้ฟ้าสีแดงซอย (เผ็ดน้อย)
- พริกขี้หนูซอย (ถ้าชอบเผ็ด)
- น้ำปลา
- กระเทียมดอง
- ผักชีซอย
- พริกป่น (ถ้าชอบเผ็ด)
วิธีทำ
- เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำให้ละลาย คนจนน้ำตาลละลายดี
- ใส่น้ำปลาและกระเทียมดอง
- ใส่พริกซอยและผักชี
- ถ้าชอบเผ็ดเพิ่มสามารถใส่พริกป่นได้
- ยกลง รสชาติจะคล้ายน้ำจิ้มไก่ แต่เข้มกว่าเล็กน้อย
เมนูต้มจืดหน่อไม้ สูตรเรียบง่าย
- ซี่โครงหมูหั่นท่อน 500 กรัม
- หน่อไม้ไผ่หวานต้มสุก 500 กรัม (ต้มน้ำ 3 รอบลดความขม)
- รากผักชีบุบ 3-4 ราก
- เกลือเล็กน้อย
- กระเทียมไทยปอกเปลือก 15-20 กลีบ
- กุ้งแห้ง 1/4 ถ้วย
- พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนชา
วิธีทำ
- ตำรากผักชีและกระเทียมให้พอแตก
- ลวกกระดูกหมูเพื่อเอาเลือดและฝาน (เพื่อให้น้ำซุปใส)
- ตั้งหม้อน้ำ ใส่รากผักชี กระเทียม กุ้งแห้ง และพริกไทยขาว
- ใส่กระดูกหมูที่ลวกแล้ว
- ใส่หน่อไม้ที่ต้มน้ำทิ้งแล้ว
- เปิดไฟแรงจนเดือด แล้วปรับเป็นไฟอ่อน
- ต้มจนหมูสุกและหน่อไม้นุ่ม
- ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา (ระวังเพราะกุ้งแห้งมีรสเค็มอยู่แล้ว)
ต้มจืดหน่อไม้ copy.jpg
เทคนิคการเก็บรักษาหน่อไม้
หน่อไม้เป็นผักที่สามารถเก็บรักษาได้ดีในช่องฟรีซ เพราะหน่อไม้ไม่ค่อยมีน้ำ มีแต่ไฟเบอร์ เมื่อนำออกมาละลายน้ำแข็ง รสสัมผัสจะยังคงเหมือนเดิม ช่วงที่หน่อไม้ออกเยอะๆ เราควรต้มไว้เป็นหม้อใหญ่แล้วแบ่งแช่แข็ง จะได้กินได้ตลอดทั้งปี
วิธีเก็บ
- ต้มหน่อไม้สดให้สุก (ต้มน้ำทิ้ง 3 ครั้งเพื่อลดความขม)
- พักให้เย็น
- แบ่งใส่ถุงพลาสติกตามปริมาณที่จะใช้แต่ละครั้ง
- เก็บในช่องฟรีซ
- เมื่อจะใช้ก็นำออกมาละลายแล้วนำไปประกอบอาหารได้เลย
ข้อดีของการทำอาหารหน่อไม้เอง
- เลือกวัตถุดิบได้เอง เราจะมั่นใจในคุณภาพและความสะอาด
- ปรับรสชาติได้ตามใจ สามารถเพิ่มลดเครื่องปรุงตามความชอบ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการทานอาหารตามฤดูกาล จะได้ผักราคาถูก คุณภาพดี
- ได้กลิ่นหอมแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอาหารไทยที่ต้องการกลิ่นหอมจากใบมะกรูด เครื่องแกง ซึ่งกำลังจะหายไปถ้าเราไม่ทำกับข้าวที่บ้าน
- ผ่อนคลายและทำสมาธิ การทำอาหารช่วยให้จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ เป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง
สรุป
หน่อไม้เป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการและนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย ทั้งหน่ออั่วสไตล์เหนือและต้มจืดหน่อไม้แบบง่ายๆ การเลือกทานผักตามฤดูกาลจะช่วยให้เราได้สารอาหารที่ดี ราคาถูก และรสชาติอร่อยที่สุด
ส่วนโปรตีนในเมนูหน่อไม้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นหมู กุ้ง ไก่ หรือปลา สำหรับผู้ที่สนใจลองทำตามสูตรนี้ ลองเริ่มจากหาหน่อไม้สดที่ตลาดใกล้บ้าน แล้วลองปรุงดูสักครั้ง รับรองว่าจะได้อาหารที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการแน่นอน
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส
เมนูอร่อย ๆ จากหน่อไม้เพิ่มเติม