EN

แชร์

Copied!

งานสบาย-รายได้ดี เช็กให้ชัวร์ “หางานออนไลน์” ถ้าไม่อยากกลายเป็น “เหยื่อ”

10 มิ.ย. 6810:12 น.
1
งานสบาย-รายได้ดี เช็กให้ชัวร์ “หางานออนไลน์” ถ้าไม่อยากกลายเป็น “เหยื่อ”
คิดให้ดีก่อนไปทำงานฝั่งเพื่อนบ้าน เพราะอาจได้งานไม่ตรงปก และยังอาจกลายเป็นหนึ่งในฟันเฟืองขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จะแยกแยะได้อย่างไรว่างานไหนของจริง หรืองานไหนลวงเหยื่อ

ปัจจุบันคนไทยจำนวนไม่น้อยค้นหางานผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อค้นหางานในต่างประเทศ และบางส่วนถูกชักชวนให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอ้างว่าเป็นงานออฟฟิศ ทำงานสบาย รายได้ดี แต่ในความเป็นจริงโพสต์รับสมัครงานที่โฆษณาผ่านเฟซบุ๊กหรือเพจหางานต่าง ๆ เหล่านี้ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น หลอกลวงเหยื่อผ่านโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อให้หลงเข้ามาเปิดบัญชีม้า ปั่นเว็บพนัน หรือทำหน้าที่แชตลวงเหยื่อเพื่อให้โอนเงิน ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งในประเทศนั้น ๆ และตามกฎหมายของประเทศไทย

รูปแบบกลลวงของกลุ่มมิจฉาชีพ

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ระบุว่า รูปแบบกลลวงที่ใช้ในการหลอกประชาชนคนไทยให้ไปทำงานกับแก๊งคอลเซนเตอร์ หรือกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ มักจะใช้รูปแบบของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น facebook, LINE หรือ TikTok เพื่อหลอกลวงไปทำงานในต่างประเทศ ด้วยการชักจูงใจผ่านรายได้ที่สูงกว่าในประเทศไทย โดยมุ่งเป้าหมายที่กลุ่มแรงงานทั่วไปที่ต้องการหารายได้ หรือคนที่ตกงานให้เข้ามาสมัคร

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)

สำหรับผู้ที่ถูกหลอกลวงไปแล้ว เมื่อเดินทางข้ามแดนจะมีการกำหนดสถานที่ในการนัดเจอ ก่อนที่จะพาข้ามแดน และส่วนใหญ่มักจะใช้ช่องทางธรรมชาติเป็นหลัก เมื่อไปถึงแล้วก็จะต้องมีการเซ็นสัญญา โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งจะทำให้แรงงานที่ข้ามไปต้องเป็นหนี้ในทันที และจำนวนยอดหนี้ก็แล้วแต่ที่ฝั่งขบวนการจะกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดที่ราว 50,000 ถึง 100,000 บาท ดังนั้นผู้ที่ถูกหลอกเมื่อไปถึงก็จะต้องเป็นหนี้เสียก่อนในอันดับแรก และเมื่อทำงานได้เงินเดือนมาแล้ว ก็จะต้องถูกหักเงินเพื่อมาชดใช้หนี้จากการเดินทาง เช่น ตกลงว่าทำงานได้เงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท ก็จะต้องถูกหักไปจำนวน 10,000 บาท เพื่อเป็นการชดใช้หนี้

ผู้ที่หลงไปสู่ขบวนการเหล่านี้ ก็จะต้องถูกส่งไปทำงานยังออฟฟิศต่าง ๆ แล้วแต่ว่าขบวนการจะจัดส่งไป ซึ่งหากไม่สามารถทำงานได้ตามเป้า หรือไม่ยอมทำตามคำสั่งของขบวนการเหล่านี้ ก็จะถูกขายต่อ คือการส่งไปทำงานยังบริษัทอื่น ๆ หรือแก๊งคอลเซนเตอร์อื่น ๆ ด้วยการขายยอดจำนวนหนี้ที่ตกค้างอยู่ ให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์อื่น ๆ อีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ยืนยันว่า ประเด็นของการถูกหลอกยังคงมีอยู่ แต่ส่วนใหญ่ที่พบในหมู่คนไทยที่ถูกส่งกลับมาจากแก๊งคอลเซนเตอร์ ไม่ว่าการถูกจับกุมหรือการเดินทางกลับมาเอง พบว่าส่วนใหญ่ไปทำงานด้วยความสมัครใจ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานให้กับบ่อนการพนันออนไลน์ หรือแก๊งคอลเซนเตอร์ต่าง ๆ แต่สิ่งที่ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เลือกเดินทางออกมา อาจจะเพราะไม่เป็นไปตามข้อตกลง เช่น ตกลงว่าจะไปทำงานในบ่อนออนไลน์ของฝั่งตรงข้าม แต่ด้วยสภาพแวดล้อมหรือการได้รับรายได้ไม่ตรงตามที่ตกลง ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้เลือกเดินทางกลับ หรือต้องการที่จะเปลี่ยนงาน

สำหรับวิธีการสังเกตเบื้องต้น ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาหางาน หรือหลอกลวงไปทำงานนั้น แนะนำว่ากรณีที่ต้องการไปทำงานในต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปัจจุบันมีหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้ว คือ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถที่จะเข้าไปติดต่อเพื่อรับคำแนะนำในการหางานได้โดยตรง ส่วนกรณีที่หางานเองตามเพจ facebook หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ นั้น ถือว่าค่อนข้างมีความสุ่มเสี่ยงในปัจจุบัน เพราะต้องยอมรับว่า แม้จะเป็นช่องทางให้บริษัทห้างร้านต่าง ๆ สามารถโฆษณาหรือเปิดรับสมัครได้โดยตรง แต่ก็เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางในการหลอกลวงผู้อื่นได้ด้วยเช่นเดียวกัน

อย่าหลงเชื่อคำชักชวนให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นงานแอดมินเว็บพนัน, งาน Call Center หรือ “งานออนไลน์” ที่ได้เงินง่าย เพราะคุณอาจไม่ได้เป็นเหยื่อ แต่อาจกลายเป็นผู้ร่วมขบวนการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติอย่างไม่รู้ตัว และสำหรับผู้ที่ไปร่วมทำงานกับเครือข่ายเหล่านี้ จะไม่สามารถอ้างว่า “ไม่รู้” หรือ “โดนหลอกไปทำงาน” ได้ เพราะมีพฤติกรรมเข้าข่ายร่วมกระทำผิด เช่น ใช้เทคนิคล่อลวงผู้เสียหาย รับเงินค่าคอมมิชชัน ซึ่งการกระทำลักษณะนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, สมคบกันฟอกเงิน หรือเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีโทษร้ายแรงทั้งจำคุกและปรับ

ข้อสังเกตงานออนไลน์ปลอม

1. เงินเดือนสูงเกินจริง : โพสต์งานเสนอเงินเดือนสูงมากโดยไม่มีรายละเอียดงานชัดเจน เช่น “รายได้หลักแสน/เดือน ทำงานแค่วันละไม่กี่ชั่วโมง” อ้างว่าทำงานง่าย ไม่ต้องมีประสบการณ์หรือวุฒิการศึกษา แต่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง

2. ไม่มีรายละเอียดบริษัทที่ชัดเจน : ไม่มีชื่อบริษัท ไม่มีที่ตั้ง หรือไม่มีเว็บไซต์ทางการ ใช้บัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัว หรือเพจที่เพิ่งเปิดไม่นาน ไม่ระบุข้อมูลติดต่ออื่นเลย

3. เร่งให้ตัดสินใจไว หรือให้เดินทางทันที : ใช้คำเร่งรัด เช่น “ด่วน! ต้องการคนเดินทางภายใน 1-2 วัน” หรือ “สมัครวันนี้ ออกเดินทางพรุ่งนี้ได้เลย” ไม่ให้เวลาผู้สมัครตรวจสอบหรือคิดให้รอบคอบ

4. หลอกให้จ่าย “ค่าดำเนินการ” หรือ “ค่ามัดจำ” : เรียกเก็บเงินก่อนเริ่มงาน เช่น ค่าดำเนินการ ค่าวีซ่า ค่าเดินทาง หรือค่าจองตั๋ว หากผู้สมัครยอมจ่าย อาจสูญเงินโดยไม่ได้งาน หรือถูกบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย

5. ใช้คำว่า “งานแอดมิน”, “งานออนไลน์”, “งาน Call Center” อย่างกว้าง ๆ : ไม่บอกรายละเอียดเนื้องานจริง บอกเพียงว่า “ดูแลลูกค้า”, “ตอบแชต”, “ทำงานออนไลน์” เมื่อถามละเอียด มักบ่ายเบี่ยงหรือให้ข้อมูลไม่ตรงกัน

6. ไม่ผ่านการจัดหางานถูกกฎหมาย : ไม่ผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน หรือไม่มีสัญญาถูกต้อง ใช้ช่องทางธรรมชาติข้ามแดน ไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

7. เพจหรือบัญชีรับสมัครผิดปกติ : ไม่มีรีวิว ไม่มีความน่าเชื่อถือ หรือมีแต่รีวิวปลอม รูปโปรไฟล์ รูปงาน ใช้ภาพซ้ำ ๆ จากอินเทอร์เน็ต (สามารถนำไปค้นหากลับด้วย Google Reverse Image)

คำแนะนำเบื้องต้น

✅ ตรวจสอบงานผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
✅ เว็บไซต์: https://www.doe.go.th
✅ โทร. 1506 ต่อ 2