ข่าวปลอม เลือกเพศหรือไม่?
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “นักการเมือง” มักตกเป็นเหยื่อของ “ข่าวปลอม” และ “ข้อมูลบิดเบือน” ที่รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อข่าวสารทุกอย่างถูกส่งต่อกันได้อย่างรวดเร็วผ่านโลกโซเชียลมีเดีย แต่ผลการศึกษากลับพบผลที่น่าสนใจ เมื่อพบว่า “ผู้หญิง” จะได้รับผลกระทบต่อข่าวปลอมมากกว่า “ผู้ชาย” โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในช่วงของการเลือกตั้ง
พฤติกรรมการเลือกตั้งของคนทั่วไป มักจะได้รับอิทธิพลจากหลากหลายปัจจัย ทั้งในเชิงจิตวิทยา ปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม หรือตัวเองคิดเองบนฐานของเหตุผล ซึ่งเรื่อง “ข่าวปลอม” หรือ “ข้อมูลบิดเบือน” ถือเป็นประเด็นที่ศึกษาในทางวิชาการร่วมสมัยมาเกิน 10 ปีมาแล้ว ซึ่งสะท้อนจริง ๆ ว่ามีผลต่อพฤติกรรมการตัดสินใจในการลงคะแนนเลือกคน ความคิดเห็นเหล่านี้มาจาก ดร.ปุรวิชญ์ วัฒนสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเปิดเผยถึงผลกระทบของข่าวปลอมต่อเพศหญิง ที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกผู้สมัครโดยเฉพาะผู้หญิงโดยตรง
ดร.ปุรวิชญ์ วัฒนสุข อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ถ้าพูดในแง่ของหลักวิชา “ข่าวปลอม” เป็นหนึ่งในตัวแปร และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการ “เลือก” หรือ “ไม่เลือก” ใคร ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนนั้นจะขึ้นอยู่กับตัวแปรอื่น ๆ ในแต่ละการเลือกตั้ง
ส่วนประเด็นของ “ข่าวปลอม” ในช่วงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะที่ออกมาในฝั่งของฝ่ายผู้หญิง จะมีผลกระทบมากกว่าผู้ชายหรือไม่นั้น ดร.ปุรวิชญ์ ระบุว่า หากมองในบริบทของประเทศไทย ถือว่าค่อนข้างจะมีผลกระทบต่อผู้หญิงสูง ซึ่งนักการเมืองหญิงในสังคมไทย ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบันยังคงมีลักษณะของสังคมที่ชายเป็นใหญ่อยู่ ฉะนั้นการที่ผู้หญิงจะเข้ามาสู่การเมือง ก็มักจะต้องพบกับกลยุทธ์ที่จะใช้ลดทอนความน่าเชื่อถือในเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่เสพข่าวเปลี่ยนใจหรือไม่ไปเลือกผู้สมัครหญิงเหล่านั้น
อีกหนึ่งเรื่องคือการใช้เรื่องของข้อมูลที่บิดเบือน โดยนำเอาเรื่องของเพศสภาพมาบิดเบือนด้วยเช่นกัน ฉะนั้นในแง่ของประเทศไทย ตนคิดว่ามีผลกระทบค่อนข้างรุนแรงกับนักการเมืองหญิงมากกว่านักการเมืองชาย
ต้องขีดเส้นใต้ว่า ข่าวปลอม–ข้อมูลบิดเบือน มันไม่เลือกคนและมันไม่เลือกเพศ แต่หากมองในแง่ของผลกระทบที่ว่าต่อผู้หญิงในบริบทไทยนั้น เชื่อว่า ผลกระทบของข่าวปลอมที่เกิดกับผู้หญิงจะมีผลกระทบที่ค่อนข้างสูง
การมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิงจะเป็นอย่างไร?
ขณะที่ประเด็นการมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิงในสังคมไทยในปัจจุบันเป็นอย่างไรนั้น นายพงษ์ศักดิ์ จันทร์อ่อน ผู้อำนวยการมูลนิธิ We Watch ซึ่งเป็นภาคประชาสังคมที่ทำงานจับตาการเลือกตั้งให้โปร่งใส ให้ความคิดเห็นว่า จากที่เห็นเป็นรูปธรรม โดยที่ไม่ได้มองการเมืองแค่ในสภาฯ เนื่องจากการมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิง อาจจะต้องมองไปจนถึงหน่วยงานของรัฐ รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือแม้แต่การมีส่วนร่วมในด้านอื่น ๆ ที่ก็ยังคงเห็นว่า บทบาทของผู้หญิงทุก ๆ ด้านนั้น ยังน้อยอยู่มาก โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการพัฒนาในระดับนโยบาย หรือโครงสร้าง
นายพงษ์ศักดิ์ จันทร์อ่อน ผู้อำนวยการมูลนิธิ We Watch
ในระดับองค์กรใหญ่ ๆ แม้กระทั่งองค์กรของรัฐเนี่ย ก็ยังมีปัญหา เห็นได้จากผู้บริหารหญิงในระดับประเทศ ถ้าเทียบกันในระดับทั่วประเทศก็คิดว่ายังมีสัดส่วนที่น้อยอยู่ ถ้าเทียบกับผู้ชาย เช่น เรื่องการเลือกตั้ง สามารถดูได้จาก กกต. ที่ปัจจุบันก็ไม่มีผู้หญิงดำรงตำแหน่ง
ทั้งหมดนี้ทำให้ต้องตั้งคำถามว่า ต่างประเทศเขายังให้ความสำคัญของผู้หญิงที่มีจำนวนของการเป็น กกต. จำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ในลักษณะนี้กำลังสะท้อนอะไรบางอย่าง และต้องยอมรับว่า ในบางครั้งในพรรคการเมืองบางพรรค เวลาจะส่งรายชื่อของของผู้สมัครที่เป็นผู้หญิง บางคนยังอยู่ในลำดับท้าย ๆ จึงทำให้บทบาทของผู้หญิงไม่ค่อยจะมีบทบาทในพรรคการเมืองมากนัก ซึ่งสะท้อนว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคมองบทบาทของผู้หญิงไว้อย่างไร
ผลกระทบของข่าวปลอมต่อนักการเมือง “เพศหญิง” เป็นอย่างไร?
ไอซ์ รัชนก ศรีนอก คือหนึ่งในเหยื่อที่เคยถูกเล่นงานจากข่าวปลอม ซึ่งเธอเปิดเผยกับ Thai PBS Verify ว่า แม้จะถือว่าข่าวปลอมที่ออกมาโจมตีเธอจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมาก แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ การหลอกลวงดังกล่าวอาจจะกระทบกับผู้ที่ไม่มี Social Media Literacy หรือไม่เท่าทันโลกโซเชียล
รัชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชน
หลาย ๆ คนยังแยกไม่ออกว่า อันไหนเป็นข่าวจริง อันไหนเป็นข่าวปลอม รวมถึงไม่รู้วิธีในการที่จะ Fact-Check ด้วย ซึ่งถือว่าอันตราย และจริง ๆ ข่าวปลอมหลาย ๆ ข่าว ที่สามารถหลอกผู้คนได้สำเร็จ เนื่องจากมักใช้ อคติ หรือ Bias ซึ่งบางคนอาจจะมองว่าตลก หรือเป็นเพียงแค่ข่าวปั่น ที่ทำมาเพื่อความสนุกสำหรับคนเจน Z หรือว่าคนที่อายุต่ำ 30 แต่ในความเป็นจริงมันอาจจะไม่ขำ ถ้าเป็นคนในครอบครัวของเรา
ตัวอย่างข่าวปลอมที่สร้างขึ้นเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตามหากเป็นข่าวปลอมที่ปั่นเป็นข่าว Fake-News ทั่วไป ที่ไม่ส่งผลกับชีวิต คลิกเข้าไปก็อาจจะไม่เป็นไร หรืออย่างมากก็แค่ภาพลักษณ์ดูไม่ดี ภาพลักษณ์ดูเป็นคนที่ไม่ทันโลกโซเชียลมีเดีย แต่ว่าบางทีมันอาจจะร้ายแรงไปถึงขนาดที่ว่า อาจจะเป็นสแกมเมอร์ หรือฟิชชิ่ง หรือเป็นเว็บพนัน เป็นการหลอกลงทุน หรือหลอกให้ซื้อของอะไรอย่างนี้ ซึ่งถ้าเป็นในกรณีนี้ แน่นอนว่าคนที่ไม่มี Media Literacy ก็มีโอกาสคลิกเข้าไป หรือว่ามีโอกาสกรอกข้อมูลที่เป็นข้อมูลส่วนตัว และสุดท้ายอาจถูกหลอกในที่สุด









