EN

แชร์

Copied!

ตรวจสอบพบ: คลิปอ้างเหตุเครื่องบิน “Air India” เที่ยวบิน AI171 ตก แท้จริงเป็นคลิปตัดต่อ

25 มิ.ย. 6811:08 น.
รอบโลก#ข่าวปลอม
ตรวจสอบพบ: คลิปอ้างเหตุเครื่องบิน “Air India” เที่ยวบิน AI171 ตก แท้จริงเป็นคลิปตัดต่อ

ระวังอย่าหลงเชื่อ Thai PBS Verify พบคลิปตัดต่อแอบอ้างเหตุเครื่องบิน Air India เที่ยวบิน AI171 ตก แท้จริงเป็นภาพเครื่องบินคนละลำ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปวิดีโอจาก Reel ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอเครื่องบินตก ระบุว่า “ใช่ลำเดียวกันมั้ยคะทุกคน#เครื่องบินตก #แอร์อินเดีย” พบมีการแสดงความรู้สึก 47,000 ครั้ง พร้อมทั้งมีการแสดงความคิดเห็น 547 ข้อความ และมีการแชร์ไปกว่า 1,000 ครั้ง ซึ่งคอมเมนต์ส่วนใหญ่รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ และบางส่วนที่กล่าวว่าคลิปดังกล่าวเป็นคลิปตัดต่อ

จากการตรวจสอบเรื่องนี้ Thai PBS Verify พบว่าเป็นข่าวปลอม ที่บิดเบือนข้อมูล โดยมีข้อมูลจริงคือ มีเหตุการณ์เครื่องบิน Air India เที่ยวบินที่ AI 171 เครื่อง Boeing787-8 ทะเบียน VT-ANB ตกที่เมืองอาห์เมดาบัด ประเทศอินเดีย ส่วนข้อมูลเท็จคือ มีการใช้ภาพในช่วงเริ่มต้นคลิป คือเครื่องบิน Boeing777-200LR ทะเบียน VT-ALH 

Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาข่าวปลอมจาก : Facebook

ตรวจสอบพบ : คลิปอ้างเหตุเครื่องบิน “Air India” เที่ยวบิน AI171 ตก แท้จริงเป็นคลิปตัดต่อ

เมื่อทำการตรวจสอบเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าว กับบันทึกการบินผ่านเว็บไซต์ Flightradar24 พบว่า ขณะที่เครื่องบินลำแรกของในคลิปคือ เครื่อง Boeing777 – 200LR ทะเบียน VT – ALH  ให้บริการกับ Air India ตั้งแต่ปี 2009 ชื่อเล่นว่า “Maharashtra” ใช้เครื่องยนต์ GE90‑115B1L  ให้บริการเที่ยวบิน AI981 จาก มุมไบ – โดฮา (ลิงก์บันทึก)

ตรวจสอบพบ : คลิปอ้างเหตุเครื่องบิน “Air India” เที่ยวบิน AI171 ตก แท้จริงเป็นคลิปตัดต่อ

ภาพเครื่องบิน Boeing777 – 300ER ทะเบียน VT – ALH

ส่วนเครื่องบินที่ตก คือ เครื่องบิน Boeing787-8 ทะเบียน VT-ANB เที่ยวบิน AI 171 ซึ่งออกเดินทางจากอาห์มดาบาดเมื่อเวลา 08:08:44 UTC (เวลาท้องถิ่น 13:38 น.) โดยเครื่องบินได้ไต่ระดับความสูงที่บันทึกไว้สูงสุด 625 ฟุต เมื่อเวลา 08:08:46 น. ก่อนที่จะสูญเสียระดับความสูง ซึ่งข้อมูลที่ได้รับจาก AI171 ครั้งสุดท้ายคือช่วงเวลา 08:08:51 น.

ตรวจสอบพบ : คลิปอ้างเหตุเครื่องบิน “Air India” เที่ยวบิน AI171 ตก แท้จริงเป็นคลิปตัดต่อ

ภาพเครื่องบิน Boeing787-8 ทะเบียน VT-ANB เที่ยวบิน AI 171

เที่ยวบิน AI171 ของแอร์อินเดีย ดำเนินการโดยเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 จดทะเบียน VT-ANB (MSN 36279)  ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ GEnx-1B จำนวน 2 เครื่อง เครื่องบินลำนี้ได้รับการส่งมอบใหม่ให้กับแอร์อินเดียเมื่อเดือนมกราคม 2014 (ลิงก์บันทึก)

แฟนพันธุ์แท้ยืนยันคลิปตัดต่อ

นาย อัศม์เดช พัฒนวรสิทธิ์ แฟนพันธุ์แท้เครื่องบิน

นาย อัศม์เดช พัฒนวรสิทธิ์ แฟนพันธุ์แท้เครื่องบิน

นายอัศม์เดช พัฒนวรสิทธิ์ แฟนพันธุ์แท้เครื่องบิน กล่าวว่า จากคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นเครื่องบินคนละลำ โดยลำแรกที่ทำการวิ่งขึ้น จะเป็นเครื่องบินแบบ Boeing 777-200/LR คนละรุ่นกับเครื่องบินประสบอุบัติเหตุ ที่เป็นรุ่น  Boeing 787-8 เพราะฉะนั้นในคลิปนี้เป็นการตัดต่อ วิธีการตรวจสอบ ข้อมูลอยากให้ลองเข้าไปดูคอมเมนต์ว่ามีการเอ๊ะกับข้อมูลหรือไม่ หากพบว่ามีการเอ๊ะ อาจจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม  

“ตัวอย่างข้อมูลเครื่องบินในคลิป ตอนเครื่องบินขึ้นมีล้อ 3 คู่ แต่ลำที่ลำมีแค่ฝั่งละ 2 คู่ อันนี้ก็เป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกันแล้ว”  นายอัศม์เดช กล่าว 

ผู้เชี่ยวชาญการบิน แนะให้ตรวจสอบข่าวผ่านหน่วยงานการบิน 

นายพงศ์เทพ ศิริสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการปฏิบัติการบินเครื่องบิน โฆษกคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางอากาศ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสายการบิน เจ้าของอากาศยาน รวมถึงนักบินที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากประชาชนที่ได้รับข้อมูลเหล่านี้อาจเข้าใจผิด และมีแนวโน้มที่จะแชร์ต่อกันไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของบริษัท และบุคลากรทางการบิน ควรรอข้อมูลที่แท้จริงจากหน่วยงานสอบสวนเครื่องบินประเทศนั้น ๆ ดีกว่า   (ลิงก์บันทึก)

กระบวนการตรวจสอบ

  1. ตรวจสอบข้อมูลและภาพเครื่องบินผ่านเว็บไซต์ Flightradar24 ว่าเป็นเครื่องบินลำเดียวกันหรือไม่ 
  2. ตรวจสอบผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องบินยืนยันประเภทเครื่องบินว่าเป็นลำเดียวกันหรือไม่

 

ผลกระทบของข้อมูลนี้

1. กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน

  • ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกและเข้าใจผิดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางทางอากาศ
  • สร้างบรรยากาศความหวาดกลัว แม้ไม่มีเหตุการณ์จริงเกิดขึ้น

2. กระทบต่อชื่อเสียงของสายการบิน

  • สายการบินอินเดีย (Air India) เสียชื่อเสียงอย่างรุนแรง ทั้งในด้านความปลอดภัยและภาพลักษณ์ระดับนานาชาติ
  • อาจส่งผลต่อยอดขายตั๋วและความไว้วางใจของผู้โดยสาร

3. กระทบต่อสังคมออนไลน์

  • คนแชร์คลิปโดยไม่ตรวจสอบ ทำให้ข้อมูลเท็จแพร่กระจายรวดเร็ว
  • บั่นทอนความน่าเชื่อถือของสื่อออนไลน์ และกระตุ้นให้เกิด “ความจริงปลอม” (Disinformation Culture)

4. ผลทางกฎหมาย

  • ผู้ผลิตและเผยแพร่คลิปอาจเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับข่าวปลอม (Fake News) หรือการทำให้ผู้อื่นตื่นตระหนกโดยไม่มีมูล

 

ข้อแนะนำเมื่อได้ข้อมูลเท็จนี้ ?

1. อย่ารีบแชร์ทันที : แม้เนื้อหาจะดูน่าเชื่อถือหรือชวนตกใจ แต่ควรตรวจสอบก่อนแชร์ข้อมูลดังกล่าว 

2. ตรวจสอบแหล่งที่มา : ข้อมูลมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือหรือไม่? ถ้าเป็นคลิปหรือภาพ มีโลโก้จริงหรือปลอม และมีรายละเอียดผิดปกติไหม?

3. เทียบกับสื่อหลักหรือหน่วยงานทางการ : ลองตรวจสอบกับสื่อหลัก หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น กรมการบินพลเรือน

4. ใช้เว็บไซต์ตรวจสอบข้อเท็จจริง : เว็บไซต์ต่างประเทศที่มีตรารับรองจาก IFCN (International Fact-Checking Network)

5. อย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้หวังผล : หลายครั้งข้อมูลปลอมถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คนหลงเชื่อ แชร์ต่อ หรือเพื่อจุดประเด็นทางการเมือง และธุรกิจ

6. รายงานหรือแจ้งเตือนแพลตฟอร์ม : หากคุณพบว่าโพสต์นั้นสร้างความเข้าใจผิดจริง ควรรายงานให้ Facebook, YouTube, หรือแพลตฟอร์มอื่นลบออกหรือลดการมองเห็น