วันนี้ (10 ต.ค.2568) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เพื่อลดค่าครองชีพและยกระดับระบบบริการสุขภาพของไทย โดยให้ประชาชนมีสิทธิ์สอบถามราคายาก่อนการชำระเงิน และสามารถนำใบสั่งยาจากโรงพยาบาลไปเลือกซื้อยาในช่องทางที่จำหน่ายยาภายนอกโรงพยาบาล เพื่อเปรียบเทียบราคาและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ถือเป็นการยกระดับระบบสุขภาพของไทยให้เทียบเท่าสากล และสร้างความโปร่งใสในทุกขั้นตอน
เภสัชกรวราวุธ เสริมสินสิริ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
เภสัชกรวราวุธ เสริมสินสิริ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
กรมฯได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชน สมาคมผู้ประกอบการร้านยารวมใจไทย สมาคมร้านขายยา และผู้ประกอบการร้านขายยารายใหญ่ทั่วประเทศ 11 แบรนด์ Pharmax, Icare, Super Drug, Fascino, Save Drug, ร้านยากรุงเทพ, Pure Pharmacy (ในเครือบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์), Exta Plus (ในเครือซีพี ออลล์), Boots, Tops Care และร้านยาโลตัส
และ 8 แอปพิเคชัน ที่ให้บริการจำหน่ายยาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Applications) เข้าร่วมด้วย ได้แก่ Telehealth, ยาพร้อม, PharmCare, AskMacy by Fascino, ร้านยากรุงเทพ, All Pharmacy และ BIGYA ร่วมกันกว่า1,600 แห่ง ซึ่งมีเภสัชกรประจำให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยทุกฝ่ายเห็นพ้องว่าโครงการนี้จะเป็นการยกระดับระบบสุขภาพของประชาชนให้มีมาตรฐานเดียวกันกับโรงพยาบาลเอกชน และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านยาให้กับประชาชนในวงกว้าง 11 เครือข่ายโรงพยาบาล 354 แห่ง
ด้านเภสัชกรวราวุธ เสริมสินสิริ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า พร้อมสนับสนุนโครงการ สุขกาย สบายกระเป๋า ในส่วนของร้านขายยา โดยจะเปิดให้ลงทะเบียน ร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋า ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป โดยมี อย. เป็นผู้รับลงทะเบียน และให้ผู้ประกอบการประเมินตนเองตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งประชาชนสามารถดาวโหลดแอปพิเคชั่นได้ในวันที่28 ต.ค.นี้
โดยร้านยาที่เข้าร่วมโครงการจะต้องให้บริการทั้งแบบออนไซต์และเทเลฟาร์มาซี (Telepharmacy) ซึ่งจะต้องมีเภสัชกรวิชาชีพที่เป็นสมาชิกของสภาเภสัชกรรม ซึ่งสภาฯ จะเป็นผู้กำกับดูแลขั้นตอนการให้บริการ และอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางและแอปพลิเคชันร่วมกับ อย. เพื่อให้ประชาชนสามารถค้นหาตำแหน่งร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋าใกล้บ้านได้ รวมถึงสามารถปรึกษาเภสัชกรผ่านช่องทางออนไลน์ และส่งใบสั่งยาเพื่อรับคำแนะนำได้โดยตรง
เภสัชกรวราวุธ เสริมสินสิริ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
เภสัชกรวราวุธ เสริมสินสิริ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะต้องมีมาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยเทียบเท่ากับโรงพยาบาลเอกชน ทั้งในกระบวนการจัดเก็บยา การให้บริการ และการให้คำปรึกษา โดยประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับยาคุณภาพในราคาที่เหมาะสม
สำหรับขั้นตอนการสมัคร ร้านยาแนะนำ มี 6 ขั้นตอน คือ1. อย.กำหนดช่องทางการลงทะเบียน 2.อย./เภสัชกรรม/สมาคมวิชาชีพ ร่วมกันประชาสัมพันธ์ ชี้แจงโครงการให้สมาชิก 3. ประเมินความพร้อมด้วยตนเอง ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 4.ปฎิบัติตามกฎหมายPDPA 5.อย.ขึ้นรายชื่อ”ร้ายยาแนะนำ” บนเว็บไซต์หรือช่องทางอื่นๆ 6.ร่วมกัน สุ่มตรวจสอบ อย่างไรก็ตามอย.จะสงวยสิทธิยกเลิกร้านยาแนะนำ กรณีที่ตรวจสอบพบว่าร้านยาปฎิบัติผิดเงื่อนไขของโครงการหรือทำผิดพรบ.ยาหรือผิดพรบ.วิชาชีพเภสัชกรรม
ส่วนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของร้านยาแนะนำที่จะต้องมี คือ สมัครใจลงทะเบียนเข้าร่วมโคงรการร่วมกับอย. เป็นร้านยาคุณภาพ สภาเภสัชกรรมหรือร้านยาที่เป้นสมาชิกของสภาคมวิชาชีพ ได้แก่ สมาคมเภสัชกรรมชุมชน สมาคมร้านขายยาและสมาคมผู้ประกอบการร้านยารวมใจไทย นอกจากนี้ร้านยาแนะนำจะต้องพร้อมมีช่องทางการติดต่อ เช่น โทรศัพท์ ID LINE โปรแกรมประยุกต์ ด้านสื่อสารต่างๆ เพื่อประสานงานกับผู้มารับบริการ เพื่อตรวจสอบยืนยัน รายการจำนวน และราคายาได้ และต้องพร้อมในการจัดหายาให้ครบถ้วนตามสั่งภายใน 24 ชั่วโมงหรือตามที่ผู้ป่วยให้ความเห็นชอบ พร้อมทั้งประสานงานกับโรงพยาบาลผู้ออกใบสั่งยาตลอดเวลาที่ให้บริการหรือกรณีที่มีเหตุจำเป็น เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา
อ่านข่าว:
ต่อยอดสิทธิบัตร "ยาหมดอายุ" ยุทธศาสตร์ "สาธารณสุข" มั่นคง
คุม "ราคายา-เวชภัณฑ์" ช่วยค่าครองชีพ ไม่ใหม่ แต่ "คนไทย" ต้องรู้
"อนุทิน" คิกออฟ 28 ต.ค.68 เพิ่มทางเลือกประชาชนซื้อยานอกรพ.เอกชน