ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

หุ่นยนต์อุ้มบุญ : เรื่องจริงและจินตนาการ


วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

รศ. ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล

แชร์

หุ่นยนต์อุ้มบุญ : เรื่องจริงและจินตนาการ

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3117

หุ่นยนต์อุ้มบุญ : เรื่องจริงและจินตนาการ

กลางเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2025 สำนักข่าวในเกาหลีใต้ เผยแพร่ข่าวที่กลายเป็นข่าวใหญ่ในเอเชียและระดับโลก คือ การเปิดตัว “pregnancy robot” หรือ “หุ่นยนต์อุ้มบุญ” ของบริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีน ซึ่งพร้อมจะเปิดบริการหุ่นยนต์อุ้มบุญในปีหน้า (ค.ศ. 2026)

“วิทยาศาสตร์ ทันโลก ทันชีวิต” วันนี้ จะนำท่านผู้อ่านไปดูการเปิดตัวหุ่นยนต์อุ้มบุญตัวแรกหรือรุ่นแรกของจีนและของโลก ซึ่งถึงแม้ต่อมา จากการตรวจสอบอย่างลงลึก พบว่า ข่าวนี้ น่าจะเป็น “ข่าวไม่จริง” แต่ก็มีประเด็นให้มีการ “กล่าวถึง” อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่า “หรือจะถึงเวลาของหุ่นยนต์อุ้มบุญจริง ๆ ...หรือไม่ ?”

แกะรอยหุ่นยนต์อุ้มบุญตัวแรกจากประเทศจีน

วันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2025 สำนักข่าวเกาหลีใต้ โชซุน บิซ (Chosun Biz) เสนอข่าว “จีนพัฒนาหุ่นยนต์อุ้มบุญพร้อมมดลูกเทียม เพื่อช่วยคนมีบุตรยาก”...

โดยอ้างแหล่งข่าวจาก TIK TOK ของจีน คือ Douyin (โต่วอิน) ที่ได้เผยแพร่การสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2025 ดร.จาง ฉีเฟิง (Zhang Qifeng) ผู้พัฒนาหุ่นยนต์อุ้มบุญและเป็นซีอีโอของบริษัท Kaiwa Technology (ไควาเทคโนโลยี) โดยมีกำหนดเปิดตัวหุ่นยนต์อุ้มบุญในปีหน้า (ค.ศ. 2026)

ตามข่าว ดร.จาง ฉีเฟิง จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง (Nanyang Technological University) ในสิงคโปร์ และร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย ทำการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์อุ้มบุญ ก่อนเขาจะตั้งบริษัท Kaiwa Technology ขึ้นมาในกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน

ดร.จาง ฉีเฟิง กล่าวว่า กุญแจสำคัญของหุ่นยนต์อุ้มบุญ คือ artificial womb (มดลูกเทียม) ซึ่งได้ผ่านการวิจัยและพัฒนาที่สำคัญมาแล้วกับสัตว์ ดังเช่น รายงานในวารสาร Nature Communications เมื่อปี ค.ศ. 2017 ความสำเร็จของนักวิทยาศาสตร์ที่ Children’ s Hospital of Philadelphia (โรงพยาบาลเด็กแห่งฟิลาเดลเฟีย) ที่ช่วยให้ลูกแกะเกิดใหม่ก่อนกำหนด ได้เติบโตในมดลูกเทียม เรียก “biobag” (ถุงชีวภาพ) จนกระทั่งถึงกำหนดคลอดตามปรกติ

สำหรับหุ่นยนต์อุ้มบุญ เป็นผลจากความพยายามในช่วงสองปีผ่านมาของ ดร.จาง ฉีเฟิง ในการพัฒนามดลูกเทียมสำหรับมนุษย์ ที่จะทำหน้าที่การให้กำเนิดทารกมนุษย์ ตั้งแต่เริ่มต้นของการปฏิสนธิ (การผสมของไข่กับสเปิร์ม) จนกระทั่งถึงกำหนด 9 เดือน เพื่อเติบโตเป็นทางมนุษย์เต็มตัว พร้อมจะออกจากครรภ์หรือมดลูกเทียม

สำหรับราคาการใช้บริการหุ่นยนต์อุ้มบุญรุ่นแรกในปี ค.ศ. 2026 ดร.จาง ฉีเฟิง กล่าวว่า จะน้อยกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 450,000 บาท)

แล้วประเด็นเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการอุ้มบุญล่ะ ?

ดร.จาง ฉีเฟิง ยอมรับว่า การอุ้มบุญยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศจีน

แต่ก็กล่าวว่า เขากำลังอยู่ในระหว่างการปรึกษากับทางการแห่งเมืองกวางโจว ซึ่งก็รวมถึงเรื่องจริยธรรมของการอุ้มบุญด้วย

หลังการเสนอข่าวโดยโชซุน บิซ เรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีน ก็เป็นข่าวใหญ่แพร่สะพัดไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสื่อใหญ่ระดับโลก เช่น New York Post (วันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2025) และ Newsweek (วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2025) ได้เสนอข่าวหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีนด้วย ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มกระแสในส่วนความน่าเชื่อถือให้กับข่าวนี้

ส่วนหนึ่งของการที่ข่าวเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีนได้รับความสนใจและความน่าเชื่อถืออย่างมากและรวดเร็ว อาจเป็นเพราะในวันที่ 8 สิงหาคม ค.ศ. 2025 ที่มีการสัมภาษณ์ ดร.จาง ฉีเฟิง เป็นวันแรกของ การประชุมสัมมนาวิชาการระดับโลกเกี่ยวกับหุ่นยนต์ คือ The 10th World Robot Conference 2025 (การประชุมสัมมนาหุ่นยนต์โลก ครั้งที่ 10 ค.ศ. 2025) ที่กรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 8-12 สิงหาคม ค.ศ. 2025 และมีการเสนอในบางสื่อว่า ดร.จาง ฉีเฟิง ได้ร่วมเสนอผลงานหุ่นยนต์อุ้มบุญของเขาด้วย

หุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีน : จริงหรือไม่จริง ?

จากวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2025 มา เรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีน ก็เป็นข่าวไวรัลแพร่ขยายไปทั่วโลกอยู่นานประมาณ 1 สัปดาห์ จนกระทั่งถึงวันที่ 18 สิงหาคม และวันที่ 23 สิงหาคม ข่าวเรื่องนี้ก็มีอาการสะดุด จากสำนักข่าว Snopes และ Live Science

Snopes เป็นสำนักข่าวเน้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ “ข่าวใหญ่” “ข่าวแปลก” ทั้งข่าววิทยาศาสตร์และทั่วไป ส่วน Live Science เป็นสำนักข่าววิทยาศาสตร์ เจาะลึกข่าวสารความเคลื่อนไหวสำคัญทางวิทยาศาสตร์

วันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2025 Snopes พาดหัวข่าวชัดเจนว่า “ไม่, ไม่มี” หุ่นยนต์อุ้มบุญ ในประเทศจีนที่จะเป็นทางเลือกสำหรับการอุ้มบุญ ...

โดยมีสาระสำคัญ คือ จากการตรวจสอบของ Snopes พบว่า ไม่มีคนชื่อ จาง ฉีเฟิง เรียนจบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยนันยาง และไม่มีการวิจัยเกี่ยวกับหุ่นยนต์อุ้มบุญตามที่ จาง ฉีเฟิง กล่าวอ้าง...

และจากการตรวจสอบกับฝ่ายผู้จัดการประชุมสัมมนาหุ่นยนต์โลกครั้งที่ 10 ที่กรุงปักกิ่งก็ไม่พบชื่อของ ดร.จาง ฉีเฟิง เข้าร่วมและการนำเสนอผลงานเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญของเขา...

อีกทั้งภาพที่ประกอบข่าวหุ่นยนต์อุ้มบุญในการสัมภาษณ์ ดร.จาง ฉีเฟิง ก็ดูเป็นการสร้างจากเอไอที่ชัดเจน

ดังนั้น Snopes จึงสรุปว่า เรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญของ ดร.จาก ฉีเฟิง เป็นเรื่อง “ไม่จริง!”

วันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2025 Live Science พาดหัวข่าวเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีนคล้ายกับของ Snopes ว่า “หุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีนเป็นข่าวปลอม...” แต่ Live Science เจาะลึกลงรายละเอียดในเชิงวิทยาศาสตร์มากกว่า และมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องการอุ้มบุญ ทั้งในเชิงวิทยาศาสตร์และจริยธรรม รวมไปถึงความคิดความรู้สึกของผู้ติดตามข่าวเกี่ยวกับการอุ้มบุญโดยหุ่นยนต์ด้วย

โดยภาพรวม ในส่วนเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีน Live Science ก็รายงานเจาะลึกการตรวจสอบแหล่งข่าวและเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องในเชิงวิทยาศาสตร์มากกว่า Snopes โดยในส่วนการตรวจสอบกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง ก็มีหลักฐานยืนยันจากมหาวิทยาลัยว่า ไม่มีชื่อ ดร.จาง ฉีเฟิง เป็นผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกในสาขาที่เป็นข่าว รวมไปถึงการวิจัยเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญที่มหาวิทยาลัย ตรงกับรายงานของ Snopes ด้วย

Live Science จึงสรุปชัดเจนเช่นเดียวกับ Snopes ว่า “ข่าวเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีนเป็นข่าวปลอม !”

นอกเหนือไปจาก Snopes และ Live Science แล้ว ก็มีสำนักข่าวอื่น ๆ ที่ร่วมรายงานข่าวตรงกันว่า ข่าวเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีนเป็นเรื่องไม่จริง ซึ่งก็มีผลทำให้บางสำนักข่าว ที่เคยลงข่าวเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญจากประเทศจีน ก็ได้ถอนข่าวออกจากสำนักข่าวหรือเว็บไซต์ของสำนักข่าว

ถ้า ดร.จาง ฉีเฟิง ปรากฏตัวตอนนี้ ?

มีประเด็นคำถามว่า ถ้า ดร.จาง ฉีเฟิง เกิดปรากฏตัวขึ้นมาตอนนี้ล่ะ ? เพราะตั้งแต่ปรากฏตัวครั้งแรกตามข่าว ก็ไม่มีใครติดต่อเขาได้อีกเลย

ก็จะเป็น “ข่าวใหญ่” “เรื่องใหญ่” อย่างแน่นอน และก็จะได้คำตอบที่คนจำนวนมากทั่วโลก กำลังรอฟัง...รอดู...ว่า หุ่นยนต์อุ้มบุญของเขา จะเกิดเป็นตัวตนจริง ๆ ขึ้นมาหรือไม่ ? เพราะอะไร ?

และที่สำคัญ หลายคนอยากจะทราบรายละเอียดที่ยังขาดหายไปในการสัมภาษณ์เปิดตัวเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญของ ดร.จาง ฉีเฟิง เช่นว่า ที่มาของไข่กับสเปิร์ม หน้าที่หรือการทำงานของหุ่นยนต์อุ้มบุญตลอดช่วงเวลา 9 เดือนของการกำเนิดมนุษย์คนใหม่...

หรือกรณีของคุณพ่อ-คุณแม่ที่มีลูกยาก รวมไปถึงชายหรือหญิงที่ไม่มีคู่ แต่อยากมีลูก แล้วก็คู่ชีวิตเพศเดียวกัน ทั้งชาย-ชายและหญิง-หญิง ซึ่งอย่างแน่นอน ไม่สามารถจะมีลูกอย่างเป็นธรรมชาติได้

หุ่นยนต์อุ้มบุญ : ถ้าจริง จะมีคนใช้บริการหรือไม่ ?

อย่างน่าสนใจ Live Science ซึ่งได้สรุปผลการตรวจสอบหุ่นยนต์อุ้มบุญของ ดร.จาง ฉีเฟิง เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2025 ว่า เป็น “ข่าวปลอม” แต่ใน Live Science ฉบับเดียวกัน ก็มิได้จบเพียงการสรุปผลการตรวจสอบ ซึ่งตรงกับการตรวจสอบโดย Snopes เท่านั้น Live Science ยังเจาะประเด็นเรื่องเทคโนโลยีเพื่อการอุ้มบุญต่อ สรุปส่วนสาระสำคัญได้ว่า...

ถึงแม้ข่าวเรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญของ ดร.จาง ฉีเฟิง จะเป็นข่าวปลอม แต่เทคโนโลยีเบื้องหลังหุ่นยนต์อุ้มบุญ ดังเช่นของ ดร.จาง ฉีเฟิง ก็มิใช่เรื่องปลอมไปเสียทั้งหมด

กล่าวคือ ในเชิงวิทยาศาสตร์ของจริง ก็มีความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีที่จะช่วยการตั้งครรภ์ของมนุษย์จริง ๆ ที่เป็นมากกว่า “ตู้อบทารก” หรือ “infant incubator” สำหรับเด็กคลอดก่อนกำหนดหรือมีน้ำหนักน้อยเกินไป โดยมีการรายงานผลการวิจัยและพัฒนาที่ทำกับสัตว์ทดลอง ดังเช่น แกะ ซึ่งก็ตรงกับบางส่วนของการให้สัมภาษณ์ของ ดร.จาง ฉีเฟิง เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม

แต่ก็ชี้ว่า การสร้าง “มดลูกเทียม” ที่จะให้ทำหน้าที่แทนมดลูกของจริงได้ทั้งหมด ก็เป็นเรื่องที่ยังยากและซับซ้อนอย่างยิ่ง

และอย่างน่าสนใจต่อเนื่อง ในวันเดียวกับที่ Live Science ได้สรุปผลการตรวจสอบว่าหุ่นยนต์อุ้มบุญของ ดร.จาง ฉีเฟิง เป็นเรื่องไม่จริง Live Science ก็เผยแพร่เรื่องหุ่นยนต์อุ้มบุญอีกเรื่องหนึ่ง พาดหัวข่าวว่า

If “pregnancy robot” were real , would you use one?” (ถ้า “หุ่นยนต์อุ้มบุญ” เป็นเรื่องจริง แล้วคุณจะใช้บริการหรือไม่ ?)

อย่างตรง ๆ Live Science ขอให้ผู้ติดตามเรื่องนี้ร่วมโหวตและแสดงความคิดเห็นว่า ตัวผู้ติดตามจะใช้หรือไม่ใช้บริการหุ่นยนต์อุ้มบุญ ? เพราะอะไร ?

แล้ว Live Science ก็รายงานผลการโหวตถึงวันที่ 29 สิงหาคม จากจำนวนผู้ร่วมโหวตประมาณ 180 คน สรุปได้ว่า

*มากที่สุด คือ 30% จะใช้บริการหุ่นยนต์อุ้มบุญ ถ้ามั่นใจว่า ลูกที่อุ้มบุญโดยหุ่นยนต์ จะสมบูรณ์แข็งแรง

*ตามมาติด ๆ คือ 29% มีความเห็นตรงกันข้าม คือ ไม่ใช้อย่างแน่นอน เพราะเป็นเรื่อง “ผิดจริยธรรม”

*11% ตอบอย่างแน่วแน่ว่า “จะใช้” โดยไม่ตั้งคำถามอะไรเลย

*8% แสดงความคิดเห็นไม่มั่นใจในเทคโนโลยี จะช่วย...หรือทำ...ให้เด็กอุ้มบุญโดยหุ่นยนต์ปลอดภัยตลอดช่วงการอุ้มบุญ

ตัวอย่างความคิดเห็นน่าสนใจของฝ่ายจะใช้บริการหุ่นยนต์อุ้มบุญ มีเช่น

*หุ่นยนต์อุ้มบุญจะช่วยให้ผู้หญิงไม่ต้องเผชิญกับประสบการณ์เจ็บปวดทรมานและอันตรายในการคลอดลูก

*เป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ผู้หญิงไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิตจากการต้องอุ้มท้องเป็นเวลา 9 เดือน

ตัวอย่างความคิดเห็นของฝ่ายปฏิเสธการใช้หุ่นยนต์อุ้มบุญ มีเช่น

*ไม่เชื่อว่า หุ่นยนต์อุ้มบุญจะสามารถให้ทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการกำเนิดเกิดเป็นทารกมนุษย์ที่สมบูรณ์จริง ๆ ได้

*การกำเนิดของเด็กจากหุ่นยนต์อุ้มบุญ จะทำให้เด็กขาดความเชื่อมโยงระหว่างสมองของเด็กกับของผู้เป็นแม่ ที่ (ผู้แสดงความคิดเห็น) เชื่อว่า เป็นส่วนสำคัญในความผูกพันระหว่าง “ลูก” กับ “แม่” ของจริง

AI Generate Image

หุ่นยนต์อุ้มบุญ : จินตนาการกับโลกความจริง !

ในโลกของวิทยาศาสตร์จริง เรื่องการอุ้มบุญเป็นเรื่องจริง ที่เป็นข่าวโด่งดังทั่วโลกเมื่อปี ค.ศ. 1986 จากกรณี “เบบี้ เอ็ม” (Baby M) ชื่อสมมติเด็กหญิงกำเนิดจากการอุ้มบุญในสหรัฐอเมริกา แล้วเกิดดรามาฟ้องร้องแย่งชิงกรรมสิทธิ์ตัวเบบี้ เอ็ม ระหว่าง “ผู้ว่าจ้าง” ซึ่งเป็นเจ้าของอสุจิ กับ “แม่อุ้มบุญ” ผู้เป็นเจ้าของไข่ และทำหน้าที่อุ้มท้องจนกระทั่งถึงกำหนดคลอด...

แล้ว “แม่อุ้มบุญ” เกิดความผูกพันกับเบบี้ เอ็มไม่ยอมคืนเบบี้ เอ็มแก่ผู้ว่าจ้าง โดยพาเบบี้ เอ็มหนีอยู่ได้นาน 87 วัน จนกระทั่งถูกจับได้ในข้อหา “ลักพาเด็ก” เรื่องจบลงโดยการตัดสินของศาลสูงสุด ให้ “ผู้อุ้มบุญ” เป็น “แม่ธรรมชาติ” แต่ให้ “ผู้ว่าจ้าง” เป็น “ผู้ปกครอง”...

นั่นคือ ให้เบบี้ เอ็มอยู่กับผู้ว่าจ้าง โดยให้สิทธิ์ผู้อุ้มบุญได้ “เยี่ยม” เป็นครั้งคราว

ต่อมา เรื่องของเบบี้ เอ็มก็ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ The Baby M ความยาว 2 ตอน ออกฉายปี ค.ศ. 1988

เบบี้เอ็มมิใช่เด็กกำเนิดจากการอุ้มบุญคนแรกของโลก แต่เรื่องของเธอ ทำให้เรื่องการอุ้มบุญ “โด่งดัง” “แพร่หลาย” และ “เกิดขึ้นจริง” เป็นจำนวนมากในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทยด้วย

ในโลกแห่งจินตนาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิยายวิทยาศาสตร์และภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ เรื่องของการใช้ “เทคโนโลยี” “คอมพิวเตอร์” หรือ “หุ่นยนต์” ให้ทำหน้าที่เป็น “ตัวแทน” ของมนุษย์ มีมากมาย หลากหลายและน่าพิศวง ดังเช่น ภาพยนตร์เรื่อง Surrogates ออกฉายปี ค.ศ. 2009 มี บรูซ วิลลิส เป็นดาราแสดงนำ

สำหรับนิยายวิทยาศาสตร์มีแก่นเรื่องเกี่ยวกับ “การอุ้มบุญโดยเทคโนโลยี” อย่างตรง ๆ เรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์โดย “ชัยคุปต์” เรื่อง “แม่คอมพ์รุ่นที่ห้า” (ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร “สอนเด็ก” ปี พ.ศ. 2536 ; ตีพิมพ์รวมอยู่ในเล่ม “เสียงเรียกจากดวงดาว” , “ชัยคุปต์” , ดอกหญ้า , ครั้งแรก , ธันวาคม พ.ศ. 2536 ; “เสียงเรียกจากดวงดาว” , “ชัยคุปต์” , เรือนปัญญา , ครั้งที่สอง , สิงหาคม พ.ศ. 2545 ; อีบุ๊ก , เสียงเรียกจากดวงดาว , MEB) เป็นเรื่องสั้นได้รับการตีพิมพ์โดยกระทรวงศึกษาธิการสำหรับ “วันเด็ก” เมื่อประมาณสามสิบปีก่อน ล่าสุด ได้รับการแปลเป็นภาษาจีน ลงตีพิมพ์ในวารสารนิยายวิทยาศาสตร์ Hong Chu Lin มณฑลกวางตง เมืองเซินเจิ้น ฉบับ 6/2025

“แม่คอมพ์รุ่นที่ห้า” เป็นเรื่องของโลกอนาคตที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก้าวหน้าถึงระดับทำหน้าที่เป็น “แม่อุ้มบุญ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเริ่มต้นจากแม่คอมพ์รุ่นที่หนึ่ง เปิดรับบริการทำหน้าที่คอมพิวเตอร์อุ้มบุญอย่างเป็น “ธุรกิจ” ในโลกอนาคตไม่ไกลนัก คือ ปี พ.ศ. 2582 (ค.ศ. 2029)

ประเด็นสำคัญที่ “ชัยคุปต์” เขียนเรื่อง “แม่คอมพ์รุ่นที่ห้า” ขึ้นมา คือ การคาดการณ์ในอนาคตที่เทคโนโลยี...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอมพิวเตอร์...ก้าวหน้า...และถูกใช้...ให้ทำหน้าที่เป็น “เทคโนโลยีอุ้มบุญ” ซึ่งก็คือ “คอมพิวเตอร์อุ้มบุญ” เพื่อแก้ปัญหา...เป็นทางเลือก...หลีกเลี่ยงอันตรายจากการตั้งครรภ์...ความเจ็บปวดทรมานในการคลอด...อย่างเป็นธรรมชาติ

โดยปมใหญ่ของ “แม่คอมพ์รุ่นที่ห้า” คือ คอมพิวเตอร์ทุกรุ่น (ในเรื่อง) ทำหน้าที่อุ้มบุญได้อย่างไม่มีปัญหา จนกระทั่งถึง “รุ่นที่ห้า” ก็เกิดเหตุเป็นดรามาของเรื่อง จนกระทั่งแม่คอมพ์รุ่นที่ห้า ให้กำเนิดทารกมนุษย์เพียงคนเดียว ในขณะที่รุ่นอื่นๆ ทั้งหมด ให้กำเนิดมนุษย์หลายคน

“ชัยคุปต์” ตั้งใจเขียน “แม่คอมพ์รุ่นที่ห้า” เป็นเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ประเภทฮาร์ดไซไฟ ที่คาดว่า จะเกิดขึ้นได้จริงในโลกวิทยาศาสตร์จริง ซึ่งการเปิดตัวหุ่นยนต์อุ้มบุญของ ดร.จาง ฉีเฟิง ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็จะสอดคล้องกัน...

แต่ถ้าหุ่นยนต์อุ้มบุญของ ดร.จาง ฉีเฟิง ยังไม่ใช่เรื่องจริง “ชัยคุปต์” ก็เชื่อว่า เทคโนโลยีอุ้มบุญก็จะเกิดขึ้นจริง อย่างแน่นอน ในอนาคตที่อาจจะใกล้กว่าที่ “คิดกัน”

สำหรับท่านผู้อ่านที่ได้อ่าน “แม่คอมพ์รุ่นที่ห้า” แล้ว ก็คงจำได้ว่า สาเหตุใหญ่ของ “แม่คอมพ์รุ่นที่ห้า” ที่ทำให้เกิดดรามารุนแรง คืออะไร ?

แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่ได้อ่าน ผู้เขียนก็ขอเฉลยเพียงสั้นๆ ว่า สาเหตุปัญหาเกิดจากแม่คอมพ์รุ่นที่ห้า เป็นแม่คอมพ์เพียงรุ่นเดียว ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้มี “ความรู้สึก”

กลับมาที่โลกวิทยาศาสตร์ของจริง ถ้า “หุ่นยนต์อุ้มบุญ” ของ ดร.จาง ฉีเฟิง เกิดขึ้นจริง ๆ และถ้าผู้เขียน “ถูกถาม” ด้วยคำถามเดียวกับที่ Live Science ถาม ผู้เขียนก็มีคำตอบว่า จะใช้บริการหุ่นยนต์อุ้มบุญหรือไม่ ?

แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ ทั้งท่านที่เป็นหญิงและชาย (เพราะการเลือกจะมีลูกหรือไม่ น่าจะเป็นผลจากการตัดสินใจร่วมกันของทั้งผู้หญิงและผู้ชาย) จะใช้บริการหุ่นยนต์อุ้มบุญหรือไม่ ? เพราะอะไร ?

อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

แท็กที่เกี่ยวข้อง

Thai PBS Sci & Tech Thai PBS Sci And Tech Scienceหุ่นยนต์อุ้มบุญมดลูกเทียม
 รศ. ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล

ผู้เขียน:  รศ. ดร.ชัยวัฒน์ คุประตกุล

นักวิทยาศาสตร์ และนักอนาคตศาสตร์ เจ้าของคอลัมน์ ​"วิทยาศาสตร์ ทันโลก ทันชีวิต"

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด