เอลซัลวาดอร์ ประเทศเล็กในอเมริกากลาง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์งดงาม ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่เบื้องหลังความสวยงามที่นี่เคยเป็นดินแดนแห่งการอุ้มหาย ค้ายา ลักพาตัว และเรียกค่าไถ่ โดยแก๊งอาชญากรรมที่กระจายอยู่ทั่วเมือง จนกระทั่งในปี 2019 ดินแดนแห่งนี้กลับมามีอนาคตมากขึ้น หลังมีประธานาธิบดีคนใหม่ที่ชื่อ นายิบ บูเคเล
ด้วยนโยบายปราบปรามไร้ปราณี อัตราการฆาตกรรมลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็ตามมาด้วยเสียงวิจารณ์เรื่องความชอบธรรมและสิทธิมนุษยชน แม้หลายประเทศจะแสดงความกังวลแต่ไม่ใช่กับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์
ภูเขาไฟ ทะเลสาบสวยสะอาดตา และท้องฟ้าสีครามแบบเขตร้อนที่นี่ เอลซัลวาดอร์ ประเทศขนาดเล็กในอเมริกากลาง มีเมืองหลวง คือ กรุงซาน ซัลวาดอร์ ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตและความสร้างสรรค์ อาคารสไตล์โคโลเนียลตั้งโดดเด่นบอกเล่าและขับลำนำกลิ่นอายอาณานิคม สลับกับผนังกราฟิตี้ ศิลปะร่วมสมัยของคนรุ่นใหม่ รอยยิ้มของผู้คน ชีวิตที่เรียบง่าย และการเฉลิมฉลองกลางเมืองหลวงบางครั้งคราว ช่วยแต่งแต้มเมืองนี้ให้โดดเด่น เชื้อชวนคนทั่วโลกมาเยี่ยมเยือน
แต่ภายใต้สีสัน ความสวยงาม และการเฉลิมฉลอง คือความดำมืดของกลุ่มเครือข่ายอาชญากรรมที่อยู่ในมุมเมืองและสังคม แผ่ความหวาดกลัวแทรกซึมในชีวิตประจำวันของผู้คน ที่นี่เคยเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก
กลุ่มแก๊งอาชญากรแฝงตัวอยู่ในชุมชน ยึดครองถนนบางสายไม่เว้นแม้แต่ในเมืองหลวง มากกว่าอาชญากรรม กลุ่มแก๊งนี้เคยควบคุมชีวิตผู้คนให้ดำรงอยู่ภายใต้ความเงาหวาดกลัวแบบยากจะนึกถึงวันข้างหน้าปี 2015 ประชากรกว่า 103 ของประชากร 100,000 คนตกเป็นเหยื่อของการฆาตกรรม
หากคิดค่าเฉลี่ยจะเท่ากับว่า ทุกๆ 1 วันหรือ 24 ชั่วโมง มีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกฆาตรกรรม 18 ราย ผู้อยู่เบื้องหลังคือเครือข่ายแก๊งอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ฝังตัวอยู่ทั่วประเทศ
แก๊งหลักมี 2 กลุ่ม คือ MS-13 และ 18th Street
ความรุนแรงจากอิทธิพลของกลุ่มแก๊ง กัดกิน และทำร้ายเอล ซัลวาดอร์นานหลายปี ผู้คนหมดหวัง จำนวนมากตัดสินใจทิ้งบ้านเรือน บุกป่าฝ่าดงข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อไปตายเอาดาบหน้าในประเทศใหม่ รวมถึงสหรัฐฯ
แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปหลังนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่ชื่อ นายิบ บูเคเล่ ก้าวขึ้นสู่อำนาจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เข้าสู่การเมืองในระดับท้องถิ่นด้วยการเป็นนายกเทศมนตรีของเทศบาล 2 แห่ง รวมถึงกรุงซาน ซัลวาดอร์ เมืองหลวง ก่อนจะสร้างความประหลาดใจทางการเมืองครั้งใหญ่เมื่อกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งระดับชาติได้เมื่อปี 2019 ด้วยวัย 37 ปี นายิบ บูเคเล่ กลายประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอล ซัลวาดอร์ ทันทีที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง บูเคเล่ประกาศสงครามกับแก๊งค์อาชญากรรมทันที
เลือกใช้นโยบายยอมหักไม่ยอมงอ ด้วยการไม่เจรจากับกลุ่มแก๊งต่างๆ เหมือนกับที่รัฐบาลก่อนหน้าทำ มีการใช้กำลังทหารเข้าช่วยตำรวจ 3 ปีแรกภายใต้การนำของบูเคเล่ มีรายงานผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มแก๊งอาชญากรรมถูกจับมากถึง 75,000 คน เมื่อความปลอดภัยหวนสู่สังคม คนจำนวนมากออกมาสนับสนุนแนวทางนี้
เมื่อนโยบายการปราบปรามแก๊งค์อาชญากรรมหลายเป็นสัญลักษณ์และความภูมิใจของผู้นำประเทศ มาตรการและเครื่องมือหนักอีกหลายอย่างก็ตามมา
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีบูเคเล่เข้ารับตำแหน่งและเปิดสงครามปราบกลุ่มแก๊ง อัตราการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุของกลุ่มแก๊งค์อาชญากรรมลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี แม้ความรุนแรงจากกลุ่มแก๊งอาชญากรรมจะลดลง แต่ในขณะเดียวกันนโยบายของประธานาธิบดีบูเคเล่ก็ถูกตั้งคำถามและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก
ติดตามได้ ในรายการ FLASHPOINT จุดร้อนโลก ตอน เอลซัลวาดอร์ อาชญากรรม เรือนจำและความหวัง วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 21.30 - 21.55 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
FLASHPOINT จุดร้อนโลก
โดรน อาวุธลับยูเครนต่อกรรัสเซีย | FlashPoint จุดร้อนโลก
ที่นี่ เคยเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก จนกระทั่ง... | FLASHPOINT จุดร้อนโลก
เราไม่ปล่อยผู้ก่อการร้ายกลับสู่ประเทศของเราหรอก | FLASHPOINT จุดร้อนโลก
FLASHPOINT จุดร้อนโลก
โดรน อาวุธลับยูเครนต่อกรรัสเซีย | FlashPoint จุดร้อนโลก
ที่นี่ เคยเป็นประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก จนกระทั่ง... | FLASHPOINT จุดร้อนโลก
เราไม่ปล่อยผู้ก่อการร้ายกลับสู่ประเทศของเราหรอก | FLASHPOINT จุดร้อนโลก