จากกรณีเพจ Drama-addict นำเสนอกรณีของพี่ชายรายหนึ่งที่ออกมาเตือนภัย หลังน้องสาวของเขาซึ่งยังอยู่ในวัยประถม ได้ไปรู้จักกับเพื่อนออนไลน์ผ่านเกม Roblox ก่อนที่น้องสาวของเขาจะถูกหลอกให้ทำร้ายร่างกายตัวเอง และให้ส่งภาพเข้าไปยังกลุ่ม จนภายหลังผู้เป็นพี่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของน้องสาว โดยเฉพาะความสดใสที่เคยมี กลับกลายเป็นเด็กที่เก็บตัวและมีรอยแผลตามร่างกายบ่อยครั้ง จึงตรวจสอบโทรศัพท์มือถือจนพบว่า น้องสาวถูกหลอกให้ทำร้ายร่างกายตนเอง และส่งภาพไปยังกลุ่มดังกล่าว จนนำมาสู่การดูแลของผู้ปกครอง
โพสต์กรณีผู้ปกครองพบการส่งภาพทำร้ายตัวเองของน้องสาวเข้าไปยังห้องแชตของกลุ่มแห่งหนึ่งที่รู้จักผ่านเกม Roblox
กรณีที่เกิดขึ้นสะท้อนได้เป็นอย่างดี ว่าเกมเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่คนร้ายนำมาใช้ในการหลอกลวงเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถแยกแยะว่า พวกเขากำลังจะกลายเป็น “เหยื่อ” ของกลุ่มคนวิกลจริต ที่ใช้เกมในการหาเหยื่อสนองความต้องการที่ผิดปกติเหล่านี้
Thai PBS Verify พูดคุยกับ นายอธิชาติ โรจนะหัสดิน อาจารย์สาขาจิตวิทยาคลินิก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ที่ให้ความคิดเห็นถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ผู้ที่อายุยังไม่ถึง 18 จะถือเป็นผู้เยาว์ ซึ่งในต่างประเทศโดยเฉพาะในแถบสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) บางประเทศ มักจะมีการเพิ่มอายุของผู้เยาว์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถือว่าเป็นกลุ่มที่ต้องปกป้อง ซึ่งแน่นอนว่า เด็กที่มีอายุต่ำกว่าผู้เยาว์ถือเป็นกลุ่มอายุที่ถูกชักจูงได้ง่าย ซึ่งต้องยอมรับว่า เด็กเยาวชนกลุ่มนี้ยังไม่มีประสบการณ์ในชีวิตที่จะคิดอย่างรอบคอบถึงผลกระทบที่จะตามมา ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะยังไม่สามารถคิดได้เอง
นายอธิชาติ โรจนะหัสดิน อาจารย์สาขาจิตวิทยาคลินิก คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)
อะไรที่ถูกนำมาใช้ชักจูงเด็ก?
1. ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ การข่มขู่ บังคับ การกดดัน เช่น หากไม่ยอมทำตามจะไม่ให้เข้ากลุ่ม
2. การชักจูง เช่น ทำแล้วได้อะไร มีรางวัลอะไรให้
3. วัฒนธรรมกลุ่มย่อย เช่น เด็กมีความสนใจในประเด็นแบบนี้ ต้องการการยอมรับ ต้องการอยู่ในกลุ่ม
นอกจากนี้ ยังมีการใช้ในส่วนของ Exploit คือ การละเมิด ซึ่งที่ผ่านมามีการวิจัยของประเทศตุรกี ที่วิจัยเกี่ยวกับเว็บไซต์สำหรับการจ้างงาน ที่สำรวจลูกจ้างรายวัน โดยเฉพาะเด็กผู้เยาว์ ที่แม้จะมีการบังคับให้เปิดเผยชื่อ หรือกดราคาค่าแรง ซึ่งทุกข้อล้วนเป็นการละเมิด แต่เด็กกลับยินยอมทำตาม เพราะเชื่อว่าสามารถทำได้ หรือมีค่าตอบแทน
สถานการณ์ของเด็กในปัจจุบันนี้นั้นน่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากเด็กในปัจจุบันมีการติดตามอินฟลูฯ เด็ก ซึ่งเด็กเหล่านี้อยู่ในวัยที่ปกป้องตนเองไม่ได้ แต่เด็ก ๆ เหล่านี้สามารถเข้าถึงโทรศัพท์ ซึ่งแม้ว่าอินฟลูฯ เหล่านี้จะไม่ได้ล่อลวงเด็กไปทำอนาจาร แต่ก็หาประโยชน์จากเด็ก จึงทำให้เด็กเป็นเหยื่อของระบบนี้
ป้องกันบุตรหลานเบื้องต้นอย่างไร?
ผู้ปกครองต้องหมั่นตรวจสอบการสื่อสารของเด็ก ซึ่งพ่อแม่มีอำนาจที่จะทำ แต่ต้องไม่ทำด้วยความรุนแรง หรือหักดิบไม่ให้เด็กเล่นเกม เพราะเมื่อเด็กเล่นเกมจะมีการหลั่งสารโดปามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทและฮอร์โมนในร่างกาย มีบทบาทสำคัญต่อการควบคุมอารมณ์ แรงจูงใจ ความพึงพอใจ เปรียบเสมือนผู้ที่เสพติดสารเสพติดหรือการพนัน หากอยู่ ๆ เด็กถูกบังคับให้หยุดทันที อาจมีพฤติกรรม ร้องไห้ ใช้ความรุนแรง หรือทำลายข้าวของ
นอกจากนี้ผู้ปกครองก็จะต้องหันมาให้ความสนใจกับบุตรหลาน ไม่ปล่อยให้เด็กทำอะไรตามใจ หรืออยู่กับโลกโซเชียลคนเดียวมากเกินไป ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักจะเกิดกับผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลยเด็ก ไม่มีเวลา ไม่คุยกับเด็ก หรือไม่ใส่ใจรายละเอียดของเด็ก
เช่นเดียวกับผู้ปกครองที่มีการส่งต่อหรือสร้างความเครียดให้กับเด็ก เช่น เข้มงวดเรื่องการเรียน เรื่องการกวดขัน ไม่มีวันเข้าใจ ต่อรองไม่ได้ หรือบังคับลูกอย่างเดียว จะทำให้เด็กออกไปหาความสุขจากข้างนอก เพราะในบ้านมีการกระตุ้นจากความเครียด ซึ่งเด็กในปัจจุบันถือว่าน่าสงสาร เพราะถูกคาดหวังสูงมากจากผู้ปกครอง

สำหรับการแก้ปัญหาผู้ปกครอง จะต้องพูดคุยกันกับบุตรหลานโดยอยู่บนเงื่อนไขที่เด็กสามารถปฏิบัติตามได้ หรือการใช้น้ำดีมาไล่น้ำเสีย เช่น แทนที่เด็กจะใช้เวลาอยู่กับเกม ก็อาจจะมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่ดีกว่า หรือจ้างลูกด้วยรางวัลหรือของที่ลูกชอบ ให้ลูกออกจากพื้นที่เหล่านั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลี้ยงดูด้วยการ เคารพ (Respect) และ ยอมรับ (Accept) ซึ่งก็คือไม่เหยียดหยามลูก ไม่ตำหนิ โดยจะต้องมองข้ามคำพูดหรือความเชื่อในอดีต เช่น หากไม่ตำหนิเด็กเหลิง แต่หมายความว่า มองลูกหรือเด็กเป็นคนหนึ่งคน ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติของเราที่เราจะสามารถปั้นเขาอย่างไรก็ได้ แต่ยอมรับว่าเขาคือคน ๆ หนึ่ง เขาสามารถทำสิ่งต่าง ๆ เท่าที่เขาทำได้ เราไม่สามารถที่จะบังคับควบคุมเขาให้เป็นของ ๆ เราได้ ส่วนการยอมรับนั้นผู้ปกครองจะต้องมีพื้นที่ให้เด็กได้มี หรือเป็น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตนมองว่า หากเด็กเหล่านั้นไม่ขาดสติหรือเสพยาเสพติด พวกเขาสามารถมีสิทธิ์ที่จะดูแลตนเอง
การชื่นชมลูกสำคัญอย่างไร?
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการชื่นชม ซึ่งในที่นี้คือไม่ต้องรอว่าลูกจะต้องสอบได้ที่ 1 แล้วพ่อแม่ถึงจะชม เพราะหากเป็นแบบนี้เด็กจะเฉาตาย และจะทำให้เด็กเครียด

ให้ชมเด็กไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ทั่วไป หรือเขาทำอะไรดี ๆ สักหนึ่งอย่างครอบครัวก็จะต้องชื่นชม ซึ่งจะต้องแสดงความชื่นชมเขาที่พฤติกรรมถ้าหากเขาทำดี และหากเด็กติดดีขึ้นมาแล้ว พวกเขาเหล่านั้นจะมี Self Control คือต่อให้ไม่มีพ่อแม่ แต่เขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นความหวัง ก็จะไม่เลือกทำในสิ่งที่ผิด ไม่ว่าเขาจะอยู่ในศูนย์กลางของสิ่งที่ไม่ดีก็ตาม









