แต่ในอีกด้านหนึ่ง “คอนแทคเลนส์ปลอม” กลับระบาดในตลาดออนไลน์อย่างกว้างขวาง สร้างความเสี่ยงต่อดวงตาและสุขภาพสายตา เพราะไม่มีใครรู้ว่าผลิตจากที่ใด ทำจากวัสดุอะไร หรือปลอดภัยแค่ไหน
มาเรียนรู้วิธีป้องกันอันตรายจากคอนแทคเลนส์ปลอมไปพร้อมกับ รศ. นพ.ศักดิ์ชัย วงศ์กิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
คอนแทคเลนส์ต้องมี “เลข อย.”
รศ. นพ.ศักดิ์ชัย วงศ์กิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าคอนแทคเลนส์ถือเป็น เครื่องมือแพทย์ ตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์สำหรับสายตาสั้น ยาว หรือเอียง รวมถึงคอนแทคเลนส์ที่ใช้รักษาโรคตา หรือคอนแทคเลนส์แฟชั่น ก็ล้วนจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ทั้งหมด ต้องได้รับการอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
รศ. นพ.ศักดิ์ชัย อธิบายเพิ่มเติมว่า คอนแทคเลนส์เป็นอุปกรณ์ที่สัมผัสโดยตรงกับ กระจกตาดำ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของดวงตา หากไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดอันตรายได้โดยตรง ไม่ว่าจะใช้เพื่อแก้สายตา รักษาโรคตา หรือเพื่อความสวยงาม ก็ต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้อง การนำเข้าหรือจำหน่ายคอนแทคเลนส์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าผิดกฎหมาย และที่สำคัญคือ ผู้บริโภคอาจได้รับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือถึงขั้นตาบอดได้
คอนแทคเลนส์ทำจากอะไร ?
รศ. นพ.ศักดิ์ชัย อธิบายว่า คอนแทคเลนส์มีวัสดุหลายประเภท เช่น แบบนิ่ม (Soft Lens), แบบกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi-rigid) และแบบแข็ง (Hard Lens) วัสดุหลักคือ “โพลีเมอร์” ซึ่งเมื่อสัมผัสกับกระจกตาดำโดยตรง ทำให้คอนแทคเลนส์ถูกจัดอยู่ในนิยามของ เครื่องมือแพทย์ตามกฎหมาย
รศ. นพ.ศักดิ์ชัย วงศ์กิตติรักษ์ ประธานวิชาการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
4 ความเสี่ยงหากใช้คอนแทคเลนส์เถื่อน
แพทย์ระบุว่า การใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. มีความเสี่ยงหลัก 4 ข้อได้แก่
- วัสดุไม่ได้มาตรฐาน
เนื่องจากมีกระบวนการผลิตไม่ดี อาจทำให้ผลิตภัณฑ์มีผิวไม่เรียบ หรือขูดกระจกตา และทำให้เกิดแผลหรือติดเชื้อ - ขนาดและความโค้งไม่เหมาะสมกับดวงตาแต่ละคน
คอนแทคเลนส์ไม่ได้มีเพียงค่ากำลังสายตาสั้น ยาว หรือเอียงเท่านั้น แต่ยังมีขนาดและความโค้งที่ต้องเหมาะสมกับดวงตาแต่ละคนด้วย หากเลือกคอนแทคเลนส์โดยไม่ผ่านการตรวจวัดจากจักษุแพทย์ อาจเกิดอันตรายต่อดวงตาได้ เช่น เลนส์เคลื่อนหลุด หรือแน่นเกินไปจนดวงตาขาดออกซิเจน - การเก็บรักษาไม่ถูกต้อง
หากการเก็บรักษา การนำเข้า หรือกระบวนการจำหน่ายไม่ได้มาตรฐาน อาจมีการควบคุมอุณหภูมิไม่เหมาะสม ทำให้คอนแทคเลนส์เสื่อมสภาพ หรือเกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคภายในได้
- ไม่มีข้อมูล อย. หรือเอกสารภาษาไทยกำกับผลิตภัณฑ์
ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข คอนแทคเลนส์ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง จะต้องม ใบกำกับเอกสารเครื่องมือแพทย์เป็นภาษาไทย และ ระบุเลขอนุญาตจาก อย. จำนวน 9–10 หลัก ชัดเจน
ดังนั้น ก่อนซื้อคอนแทคเลนส์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า แหล่งจำหน่ายมีความน่าเชื่อถือ และ ตัวผลิตภัณฑ์มีใบกำกับภาษาไทยพร้อมเลข อย. ถูกต้อง เพื่อยืนยันว่าผ่านการตรวจคุณภาพเบื้องต้นจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว และสามารถจำหน่ายได้อย่างปลอดภัย

วิธีสังเกตคอนแทคเลนส์ที่ปลอดภัย
- บนกล่องต้องมี “ใบกำกับภาษาไทย”
- มี “เลขอนุญาต อย.” ประมาณ 9–10 หลัก
- ซื้อจากร้านหรือช่องทางที่น่าเชื่อถือ ไม่ควรซื้อจากออนไลน์ที่ไม่ระบุแหล่งที่มา
- หลีกเลี่ยงสินค้าราคาถูกผิดปกติ
ใส่คอนแทคเลนส์อย่างไรให้ปลอดภัย
รศ. นพ.ศักดิ์ชัย แนะนำว่า การใช้คอนแทคเลนส์ที่ถูกต้องควรทำตามหลัก 4 ข้อสำคัญ
- เลือกชนิดให้ตรงกับการใช้งาน
คอนแทคเลนส์มีทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน ต้องใช้ตามประเภทที่ระบุเท่านั้น - รักษาความสะอาด
ล้างมือทุกครั้งก่อนใส่หรือถอด และเปลี่ยนน้ำยาล้างเลนส์ทุกวัน ห้ามใช้น้ำก๊อก หรือน้ำเกลือล้างแผล เพราะอาจมีเชื้อโรค - ไม่ใส่นอนเด็ดขาด
ระหว่างนอน ดวงตาจะปิดและขาดออกซิเจน การใส่คอนแทคเลนส์นอน หรือแบ่งเพื่อนใช้อาจทำให้กระจกตาติดเชื้อและตาบอดได้ - ตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ
ควรพบจักษุแพทย์ก่อนเริ่มใช้ และตรวจทุกปีเพื่อประเมินสุขภาพตา
ทั้งนี้ แนะนำว่า ควรใส่ให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เช่น วันละ 4–5 ชั่วโมงก็เพียงพอ หากต้องใส่นาน ควรถอดออกมาทำความสะอาดก่อนใส่ต่อ และควรมี “แว่นตา” สำรองไว้สลับใช้งานเพื่อลดการระคายเคือง
พฤติกรรมเสี่ยงของผู้ใช้คอนแทคเลนส์
- ใส่คอนแทคเลนส์นอนหรือว่ายน้ำ
- ใช้เกินกำหนดวันหมดอายุ
- แบ่งกันใช้กับผู้อื่น
- แช่เลนส์ในน้ำเปล่าหรือน้ำก๊อก
- ลืมว่าตัวเองใส่เลนส์อยู่แล้วใส่ซ้ำ
อย่างไรก็ตามก่อนเริ่มใส่คอนแทคเลนส์ ควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจความพร้อมของดวงตา เพราะผู้ที่มีภาวะ ตาแห้ง ภูมิแพ้ หรือต้อลม อาจไม่เหมาะกับการใส่คอนแทคเลนส์ หากมีอาการ เคืองตา แสบตา หรือเจ็บตา ควรหยุดใช้ทันทีและพบแพทย์โดยเร็ว
“คอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์ ไม่ใช่เครื่องสำอาง” รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
ข้อมูลจาก: รายการวันใหม่ วาไรตี้










