Loading...

แชร์

Copied!

สรุปมหันตภัย “ข่าวปลอม” ผ่าน 4 วิกฤตใหญ่ ปี 2568

17 ธ.ค. 68 | 10:05 น.
สรุปมหันตภัย “ข่าวปลอม” ผ่าน 4 วิกฤตใหญ่ ปี 2568
ปี 2568 นับเป็นปีที่สังคมไทยต้องเผชิญกับภัยพิบัติและสถานการณ์ตึงเครียดครั้งใหญ่ และทุกวิกฤตล้วนถูกซ้ำเติมด้วยมหันตภัยของ "ข่าวปลอม" ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วบนโลกออนไลน์ไปพร้อม ๆ กับภัยพิบัติเหล่านั้น จนผู้คนเกือบจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่า สิ่งที่เห็นเป็น "เรื่องจริง" หรือ "ข่าวปลอม" ซึ่งสำหรับการตรวจสอบของ Thai PBS Verify สามารถสรุปบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากปี 2568 ได้ 4 เหตุการณ์ใหญ่ดังต่อไปนี้

1. แผ่นดินไหวเขย่าไทย

28 มี.ค. 68 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 จากรอยเลื่อนสะกาย ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองมัณฑะเลย์ ลึกลงไปใต้ดินประมาณ 10 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวสามารถรับรู้ได้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือ และกรุงเทพมหานคร ซึ่งสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดความสูญเสียจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

ทันทีหลังสิ้นแรงสั่นสะเทือน สิ่งที่ Thai PBS Verify พบกลับกลายเป็น คลิปและภาพความเสียหาย ที่ถูกโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียวจำนวนมาก แต่เมื่อ Fact-Check ลงไป กลับพบว่าภาพเหตุการณ์ที่เผยแพร่อยู่นั้น มีทั้งภาพจากเหตุการณ์ในประเทศและต่างประเทศ หรือภาพจากอดีตถูกนำมาบิดเบือน และสร้างข่าวปลอม ซึ่งเป้าหมายมีทั้งการสร้างความตื่นตระหนก เพื่อให้ผู้คนหลงเชื่อและแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการสร้างข้อมูลเท็จขึ้นมาเพื่อสร้างยอด Engagement หรือการเรียกยอดผู้ชมและผู้ติดตาม เพื่อผลประโยชน์ในด้านการเงิน โดยที่เราพบการปล่อยข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ตั้งแต่ 28 มี.ค. 68 ถึง 16 พ.ค. 68 รวมทั้งสิ้นจำนวน 11 ข่าวด้วยกัน ซึ่งล้วนเป็น “ข่าวปลอม” และ “ข้อมูลบิดเบือน” ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนโดยเฉพาะการสร้างความสับสนระหว่างความจริงกับข่าวลือ

ส่วนหนึ่งของข่าวปลอมที่พบในช่วงเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตั้งแต่ 28 มี.ค. 68 ถึง 16 พ.ค. 68

2. ภัยจากเพจปลอม-สแกมเมอร์ ยังคงรุนแรง

กองร้อยปอยเปต ภัยสแกมเมอร์ในรูปแบบ “แก๊งคอลเซนเตอร์” ที่ฐานปฏิบัติการส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา โดยเฉพาะรอบเมืองปอยเปต ยังคงเป็นมหันตภัยไซเบอร์ที่รุนแรงต่อเนื่องในปี 2568 แม้จะมีการกวาดล้างหลายครั้ง แต่สแกมเมอร์เหล่านี้ก็มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ในการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากบรรดาเหล่า “กองร้อยปอยเปต” ที่ยังคงผ่านช่วงเวลาของการปราบปราม และยังคงติดต่อข้ามชายแดนเข้ามาหลอกลวงคนไทยด้วยกลลวงที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ รวมถึงการใช้จิตวิทยาที่แม้จะมีการรณรงค์ รวมถึงให้ความรู้มากเท่าใด ก็ยังคงมีเหยื่อของเหล่ากองร้อยปอยเปตให้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบัน

ภาพของบรรดากองร้อยปอยเปต ที่ยังคงหลอกลวงเหยื่อในปี 2568

เช่นเดียวกับ “เพจปลอม” ที่มาจากเหล่ามิจฉาชีพต่างประเทศและมิจฉาชีพในประเทศ ที่พัฒนากลลวงให้เท่าทันกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ด้วยการแอบอ้างโครงการรัฐบาล เช่น คนละครึ่ง หรือ เงินเยียวยาน้ำท่วม เพื่อล่อให้เหยื่อคลิกเข้า เว็บไซต์พนัน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ซึ่งด้วยจำนวนการปลอมที่มหาศาล ทำให้การติดตามและจับกุมทำได้ยาก เพราะแก๊งเหล่านี้ยังคงใช้ความรวดเร็วของการสื่อสารข้ามประเทศในการฉวยโอกาสจากความเชื่อใจและความตื่นตระหนกของคนไทยในการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง

เพจปลอม-สแกมเมอร์ ที่พบในปี 2568

การใช้ Deepfake สวมรอยบุคคลสำคัญ กลโกงที่ถูกยกระดับที่สุดในปีนี้ คือการใช้ Deepfake จากเหล่ามิจฉาชีพ ที่พัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสวมรอยเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือแม้กระทั่งใช้ภาพและเสียงของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาตัดต่อเพื่อโฆษณาสินค้าเกินจริง หรือหลอกล่อให้เหยื่อเข้าสู่เว็บไซต์พนัน ซึ่งนอกจากจะทำลายความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น ๆ แล้ว ยังทำให้เหยื่อหลงเชื่อในสรรพคุณที่เกินจริง หรือตกเป็นเหยื่อของการหลอกโอนเงินในโครงการสวัสดิการของรัฐปลอมต่าง ๆ อีกด้วย

ตัวอย่างคลิปปลอม AI Deepfake 2568

3. มหันตภัยน้ำท่วมหาดใหญ่

AI ซ้ำเติมความทุกข์ของเหยื่อ ในช่วงที่มวลน้ำเข้าถล่มหาดใหญ่ ข่าวปลอมที่พุ่งเป้ามานั้นมีความหลากหลาย โดยเฉพาะการใช้ ภาพที่สร้างจาก AI (AI Generated) เพื่อสร้างสถานการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เช่น ภาพร้านทองถูกขโมย หรือภาพสัตว์ต่าง ๆ ในสถานการณ์น้ำท่วม Thai PBS Verify พบว่า ผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดคือ การขัดขวางภารกิจกู้ภัยจริง เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเสียเวลาไปตรวจสอบข่าวลือหรือภาพปลอม จนทำให้การช่วยเหลือเหยื่อที่อยู่ในภาวะฉุกเฉินล่าช้าลง ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญว่า ข่าวปลอมในภาวะวิกฤตคือภัยที่คุกคามชีวิตคนโดยตรง ซึ่งแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาของน้ำท่วมในพื้นที่จะเกิดขึ้นไม่นาน หากเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ จ.พระนครศรีอยุธยา หรือพื้นที่จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ภาคกลาง แต่ข่าวปลอมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวกลับมีถึง 8 ข่าวด้วยกัน

ข่าวปลอมและภาพ AI ถูกนำมาใช้ในการแอบอ้างเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้

4. สถานการณ์ไทย-กัมพูชา

ข่าวปลอมปลุกปั่นความขัดแย้งระหว่างประเทศ ความขัดแย้งระหว่าง ไทย – กัมพูชา ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 ถึง 2 ครั้งด้วยกัน และถือเป็นประเด็นที่เกิดข่าวปลอมขึ้นรายวันอีกด้วย โดยข่าวปลอมส่วนใหญ่ที่พบนั้น พุ่งเป้าไปที่ความตึงเครียดระหว่างไทยและกัมพูชา การสร้างข่าวปลอมที่สร้างความเข้าใจผิด การกล่าวหาด้วยข้อมูลเท็จหรือบิดเบือน ซึ่งมักนำไปสู่การสร้างความเกลียดชังระหว่างประเทศ Thai PBS Verify พบรูปแบบของข่าวปลอมที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งในครั้งนี้ ทั้งการนำภาพเก่ามาบิดเบือน การนำภาพ AI มาแอบอ้างว่า “ไทยเปิดฉากโจมตีด้วยอาวุธเคมี” เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับประเทศตนเอง หรือปลุกปั่นอารมณ์ชาตินิยมและสร้างความเกลียดชัง

อย่างไรก็ตามด้วยการตรวจสอบด้วยเครื่องมือ และการยืนยันจากข้อมูลที่เชื่อถือได้ Thai PBS Verify จึงเป็นกุญแจสำคัญในการสกัดกั้นข้อมูลเท็จที่อาจบ่อนทำลายความมั่นคงและความสัมพันธ์ทางการทูตในวงกว้าง โดยนับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มขึ้นในเดือน มี.ค. 68 ซึ่งถือเป็นช่วงก่อนการปะทะกันของทั้งสองชาติ มีการปล่อยข่าวปลอมออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสิ้น 66 ข่าว (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ธ.ค. 68) สะท้อนให้เห็นว่า “ข่าวปลอม” ถูกใช้เป็นเครื่องมือปั่นสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

ข่าวปลอม-ข่าวบิดเบือน ที่พบในช่วงสถานการณ์ไทย – กัมพูชา มี.ค. 68 – 16 ธ.ค. 68

ทั้งนี้แม้จะยังไม่สามารถมองเห็นทางออกในระยะเวลาอันใกล้ แต่ในสถานการณ์ที่ความจริงถูกนำมาปะปนด้วยความเท็จ การตรวจสอบด้วยเครื่องมือดิจิทัล การยืนยันจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ และการทำงานของหน่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงเป็นด่านสำคัญในการป้องกันไม่ให้ข้อมูลเท็จขยายผลจนกลายเป็นภัยด้านความมั่นคง ทั้งต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและต่อสังคมโดยรวม

สรุปบทเรียนสำคัญของปี 68

ความท้าทายในปี 2568 ได้สอนให้เรารู้ว่า การต่อสู้กับข่าวปลอมจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ และการตั้งข้อสังเกตเป็นหลัก เพราะแม้จะมีเครื่องมือตรวจสอบ AI ขึ้นมาช่วยในการตรวจสอบมากขึ้นแล้วก็ตาม แต่หากขาดความระมัดระวัง หรือขาดความรู้ในการคัดกรองความน่าเชื่อถือ และบริบทของข้อมูล ก็อาจจะทำให้ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอมหรือข้อมูลที่บิดเบือน รวมไปถึงอาจถูกหลอกจากเหล่ามิจฉาชีพ ที่ยังคงมุ่งมั่นหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง

ท้ายที่สุดในปี 2569 ที่กำลังจะมาถึง การ Fact-Check หรือตรวจสอบความถูกต้องของสื่อทุกชนิดที่พบ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตในยุคเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดเช่นนี้