จากการตรวจสอบเรื่องนี้ Thai PBS Verify พบว่าเป็น “ข่าวจริง” จากการตรวจสอบพบว่า เป็นการขอความร่วมมือจากนายอำเภอน้ำยืนเพียงเท่านั้น ยังไม่ใช่หนังสือจากจังหวัดแต่อย่างใด ขณะที่สถานการณ์แนวชายแดนยังคงปกติ
Thai PBS Verify พบแหล่งที่มาจาก : Facebook

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงข้อความขอความร่วมมือประชาชนแนวชายแดนงดเข้าไปหาของป่า
Thai PBS Verify ตรวจสอบโพสต์ของผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กที่ชื่อ “ป๊อก แป๊ก” หลังโพสต์ข้อความ “ขอความร่วมมือประชาชนพื้นที่ชายเเดนงดเข้าป่าเก็บหาของป่าในช่วงนี้ด้วยนะครับ” โดยโพสต์ดังกล่าวมีผู้สนใจแชร์ไปนับ 10 ครั้ง โดยโพสต์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา (ลิงก์บันทึก)
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ระบุในช่องแนะนำตัวว่า กระจายข่าวสารสู่ชุมชน เพื่อชุมชน มีผู้ติดตาม 20,000 คน ภายในบัญชีดังกล่าวโพสต์ถึงข่าวสารและชีวิตส่วนตัวเป็นหลัก
เรานำข้อความดังกล่าวไปสอบถามกับ นายอาทิตย์ บุษบา นายอำเภอน้ำยืน ซึ่งยืนยันว่า ตนเองได้มีการประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือ เนื่องจาก ณ ปัจจุบัน กองกำลังทหารในพื้นที่ ได้มีการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ จึงได้มีการขอความร่วมมือกับอำเภอให้ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ แต่ไม่ใช่คำสั่งแต่อย่างใด โดยเหตุผลก็คือเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถแยกแยะผู้ที่เข้ามาในพื้นที่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งได้มีการประชาสัมพันธ์ไปเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 มิ.ย. 68) หลังจากได้รับการประสานจากกองร้อยทหารพรานที่ 2310 (ลิงก์บันทึก)

อาทิตย์ บุษบา นายอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี
ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้มีสถานการณ์ใดเป็นพิเศษหรือผิดปกติแต่อย่างใด เป็นเพียงการขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ 3 ตำบลของอำเภอน้ำยืน โดยที่ผ่านมาก็ยังคงสามารถหาของป่าได้ตามปกติ แต่หลังจากนี้อาจจะต้องขอความร่วมมืองดเข้าพื้นที่ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการออกคำสั่งแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามเราพบว่า ก่อนที่จะมีการขอความร่วมมือจากอำเภอน้ำยืนนั้น ได้มีกระแสข่าวการพบทุ่นระเบิดและการลาดตระเวนของทหารกัมพูชาตามแนวชายแดนในพื้นที่ช่องบก ทำให้มีการโพสต์เตือนชาวบ้านในพื้นที่ ให้งดการออกหาของป่าออกมาอย่างต่อเนื่อง (ลิงก์บันทึก)

ภาพบันทึกหน้าจอแสดงโพสต์เตือนถึงการออกหาของป่าของชาวบ้านที่เริ่มพบการลาดตระเวนของทหารกัมพูชาในพื้นที่ป่าช่องบก
ขณะที่มีรายงานข่าวปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดตามแนวชายแดน ติดตามประเมินสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ทั้งจำนวนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ชี้แจงแผนอพยพประชาชน กำหนดจุดรวมพลและจุดพักพิงในพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก พร้อมสั่งการให้ฝ่ายปกครองจังหวัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ลงพื้นที่แจ้งข่าวให้กับประชาชน ติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจกำลังพล ตามมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน (ลิงก์บันทึก)